06 สิงหาคม 2568

Hirosima : ครบรอบ 80 ปี เหตุระเบิดที่ฮิโรชิมา : 6 สิงหาคม 1945

 Hirosima : ครบรอบ 80 ปี เหตุระเบิดที่ฮิโรชิมา : 6 สิงหาคม 1945

ภาพชุดนี้บันทึกอัพโหลดไว้เมื่อสองปีก่อน ยังไม่มีเวลาเขียนบรรยาย จนลืมไปแล้ว วันนี้ครบรอบ 80 ปี เหตุการณ์ที่ฮิโรชิมา ผมขอบรรยายทั้งหมดจากความทรงจำนะครับ อาจมีเปิดไกด์บุ๊กเพื่อความสมบูรณ์บ้าง เราไปชมกันต่อเลย จากความเดิมที่ไปถึงฮิโรชิมา และ atomic dome เดินดูบรรยากาศโดยรอบ จะไปถึงสะพานและสวนสันติภาพ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ฮิโรชิมา ที่ผมถือว่า จัดแสดงได้น่าดูมาก มากกว่าที่เอาชวิตช์-เบียคาเนาเสียอีก

สิ่งที่ชื่นชอบและผมคิดว่าเป็นเป้าหมายสำคัญของการสร้างและนำเสนอในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ นำเสนอชีวิตและเมืองก่อนการระเบิด ชีวิตและความเป็นอยู่ก่อนการระเบิดไม่กี่ชั่วโมง ภาพนรกบนดินของวันที่ 6 สิงหาคม รวมทั้งสิ่งที่ตามมา แสดงให้เห็นทั้งผู้คน สิ่งก่อสร้าง ความทุกข์ทรมานที่เกิดในวันนั้นและผลที่ตามมาในอีกหลายปี ทำให้เราได้จมลึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นได้อย่างดี หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากคุณได้เยือนฮิโรชิมา


ตรงไปยังอาคารพิพิธภัณฑ์ Hiroshima Peace Memorial Museum ในนั้นคุณจะได้เข้าไปอีกโลก ผมคิดว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง (อาจเพราะเงินเยอะจากคนเข้าชมมากก็ได้) ที่นี่เสียตังค์นะครับ ใครที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า ก็ต่อคิวยาวสักหน่อย แต่ว่าเร็วเพราะระบบจัดการเขาดีมาก สามารถเลือกหูฟังบรรยายภาษาอังกฤษเป็นผู้บรรยายตามจุดต่าง ๆ ได้ แต่ผมไม่ได้รับเอามาครับ ข้างในมีบรรยายอย่างละเอียดแล้ว ผมถนัดอ่านและซึมซับจากจินตนาการมากกว่าฟัง เอ่อ..ไปญี่ปุ่นคราวนี้ผมก็ได้ยินเสียงภาษาไทยตลอดนะครับ ยกเว้นที่นี่


ผมเดินเล่นตลอดสวนสันติภาพ สิ่งต่าง ๆ ที่ศึกษามาตลอดหนึ่งปีก่อนมาเยือนที่นี่ มันพร่างพรูออกมาไม่รู้จบสิ้น ทุกครั้งจะมีความรู้สึกแบบนี้ จริง ๆ แล้วผมแนะนำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ก่อนนะครับ เราจะ “อิน” กับบรรยากาศมากขึ้น นาฬิกานี้ตั้งอยู่หน้าอนุสรณ์รายชื่อผู้เสียชีวิต ที่ต้องเดินลงไปอาคารใต้ดิน คุณสังเกตเวลาที่ปรากฏบนหน้าปัดไหมครับ นั่นคือเวลาที่ระเบิดลิตเติ้ลบอยถูกจุดขึ้นเหนือเมืองฮิโรชิมา ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 สถานที่แห่งนี้ เวลาถูกหยุดเอาไว้ที่ตรงนี้ครับ


ศิลาโค้งนี้เป็นศิลาสุสานชื่อว่า memorial cenotaph ใต้ศิลานี้ระบุชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ฮิโรชิมานี้ เพื่อปกป้องดวงวิญญาณให้สงบสุข

เช่นกันครับบรรยากาศตรงนี้สงบมาก มันไม่ใช่แค่ว่าทุกคนสงบนิ่งเคารพนะครับ แต่บรรยากาศ ท่าทีคนที่มาเคารพ แววตา ผมยืนสังเกตอยู่นาน ทุกคนทำด้วยใจ ทำให้พื้นที่ตรงนั้นเหมือนหยุดนิ่งให้กับดวงวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตเมื่อ 80 ปีก่อน

และถ้ามองตรงไป เราจะเห็นเปลวไฟสันติภาพ ที่จุดขึ้นเพื่อนำทางสันติภาพตั้งแต่ปี 1965 และไม่เคยดับ

และมองตรงไปสุดสายตานั่นคือ atomic dome อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของฮิโรชิมานั่นเองครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ไฟกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่ฮิโรชิมา ก็มาจุดที่เปลวไฟสันติภาพที่สวนแห่งนี้เช่นกันครับ

รวมทั้งภาพแห่งความทรงจำที่ท่านประธานาธิบดี บารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกามาเยือนที่นี่ พร้อมกับคำนับเคารพดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้อีกด้วย 


“This is our cry, this is our prayer: for building peace in the world". น้ำตาและเสียงเพรียกแห่งสันติภาพ คนที่เสียชีวิต และบรรดาเหล่าฮิบาคุชะ ผู้รอดชีวิตจากนิวเคลียร์ คงต้องการสื่อว่า จะไม่มีเหตุการณ์เช่นฮิโรชิมาอีกแล้ว



ตู้กระจกที่รายล้อมอนุสาวรีย์เต็มไปด้วยนกกระเรียนกระดาษทำเป็นโมบายล์อย่างสวยงาม พร้อมระบุที่มาของแต่ละสาย แต่ละกลุ่ม ผมเดินอ่านโดยรอบ มาจากทั่วทุกมุมโลกจริง ๆ ครับ เรื่องราวของซาดาโกะและสันติภาพ ผลจากการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ได้รับรู้ถึงทุกคนบนโลก ตามเจตนารมณ์ของการสร้างสวนสันติภาพแห่งนี้

ใต้อนุสาวรีย์ในระฆังที่ทุกคนจะมาเคารพดวงวิญญาณของซาดาโกะ และเด็กผู้บริสุทธิ์ที่ถูกพรากชีวิตด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ผมเห็นเด็กนักเรียนญี่ปุ่นมาโค้งคำนับที่นี่ และเอื้อมมือไปสั่นกระดิ่ง ผมต่อแถวและเข้าไปเคารพ พร้อมสั่นกระดิ่ง ขอบอกว่าข้อมูลทุกอย่างของฮิโรชิมาและสงครามวันนั้น ที่อัดแน่นเต็มสมองผม หลั่งไหลออกมาทางน้ำตา บรรยากาศเงียบสงบมาก ที่นั่นคือที่ที่มีสันติภาพที่แท้จริง


เสานี้คือ อนุสาวรีย์ถึง ซาดาโกะ ซาซากิ เรียกว่า children’s peace monument เป็นจุดที่เด่นที่สุด โครงสร้างสามขา สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ บนยอดคือเด็กน้อยชูนกพิราบแห่งสันติภาพเอาไว้ รายล้อมด้วยตู้บรรจุนกกระเรียนกระดาษจากทั่วทุกมุมโลก รำลึกถึงซาดาโกะ ที่เธอเองไม่มีลมหายใจพับครบหนึ่งพันตัว แต่ความฝันของเธอถูกเติมเต็มจากเด็กทั่วโลก เพื่อบอกถึงเจตนารมณ์ว่าจะไม่มีระเบิดนิวเคลียร์อีก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม