ได้ไปเยี่ยมเยือนร้านหนังสือชื่อดังแห่งเมืองสองแคว ร้านหนังสือเสียงทิพย์ ร้านที่ยืนหยัดรุ่นต่อรุ่น และได้มีโอกาสมาจัดงานมีตติ้งที่นี่
อย่างแรกเลยคือ คุณเจ้าของร้านเป็นคนยุคใหม่ ปรับตัว ปรับร้านให้ทันยุคสมัย มีการจัดร้าน มีการหาหนังสือใหม่ ๆ มาให้นักอ่าน มีการสื่อสารออนไลน์ มีการส่งหนังสือ จัดบรรยากาศคล้าย co-working space ที่สำคัญมีกาแฟที่หอมและเบเกอรี่ที่อร่อยมากด้วย ที่ต้องทำเพราะธุรกิจร้านหนังสือเริ่มถอยลง แต่เมื่อเข้าใจและสู้ต่อ คุณเจ้าของร้านก็ได้ผ่านอุปสรรคจนมาถึงวันนี้ วันที่นักอ่านกลับมา วันที่หนังสือเล่มออกมามากขึ้น
อย่างที่สอง เจ้าหน้าที่ทุกคนในร้าน เป็นกันเอง เป็นมิตร สอบถามได้ทุกคน ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดี
อย่างที่สาม ร้านนี้จัดว่าใหญ่ หนังสือครบครันและบรรยากาศโปร่งโล่ง น่าเดิน น่าเลือกซื้อ มีเพลงเบา ๆ และกลิ่นกาแฟกรุ่น ๆ ชวนให้หลงในร้านหนังสือทั้งวัน ผมลองนึกหนังสือที่จะหา ก็เจอได้ง่าย ๆ จัดเป็นหมวดหมู่ เรียงสวย
เอาล่ะ เรามาเข้างานกัน ผมติดต่อทางร้านมาสักสองสัปดาห์ว่าขอใช้พื้นที่ร้านหนังสือในการจัดบุ๊กคลับ ทางร้านกรุณาให้โอกาสจัดเต็มที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ผมแอบไปพูดคุยกับทางร้านเมื่อบ่ายวันศุกร์ ขี่จักรยานชมเมืองแล้วก็ฝนตกพอดีครับ ไปพูดคุยนัดแนะกันเรียบร้อย พอถึงวันอาทิตย์บ่าย ผมมาถึงร้านประมาณ 13.30 ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดเพื่อจะใช้พูด ไม่ได้คาดว่าคนจะมามากครับ แหม การดึงคนออกจากบ้านในบ่ายวันอาทิตย์มันไม่ง่าย ผมนั่งรอตรงจุดที่ร้านจัดให้ ผมขอเรียกว่า ตรอกไดแอกกอน
มีผู้มาเข้าร่วมสามคน คนแรกเป็นแฟนเพจที่เคยมาพบกันที่เมืองน่านเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เขามาเรียนที่นี่ เลยได้มีโอกาสเจอกัน ยังเซ็นชื่อในสมุดเล่มที่ผมเช็นให้เมื่อปีที่แล้วอยู่เลย หลังจากนั้นสองสาวสวยเมืองพิษณุโลกเข้ามาสมทบ คนหนึ่งส่งรายชื่อร้านอาหารอร่อยมาให้ผมก่อนหน้านี้ อีกคนช่วยมาสำรวจร้านก่อนหน้านี้ และเป็นคนที่เคยได้ปกผ้าของผมไปด้วย เราเริ่มต้นด้วยความสุขในร้านหนังสือ ว่าทำไมการเข้าร้านหนังสือจึงมีความสุข เราได้อ่าน ได้เปิดเล่มข้าง ๆ ได้รู้หนังสือเล่มอื่นที่นักเขียนคนนี้เขียน หนังสือกลุ่มเดียวกันจากนักเขียนอื่นและโอกาสจะอ่านหนังสือเล่มอื่นเพิ่มเติม สนุกมาก หัวเราะฮาเฮ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
สักพักเจ้าของร้านและเจ้าหน้าที่เข้ามาฟังด้วย แววตาสนุกสนานและตื่นเต้น ทำให้ทุกคนรู้ว่ากำลังทำงานกับสิ่งที่ให้ความสุขกับผู้คนมากมาย กับหนังสือที่มีเรื่องราวระหว่างเล่มมากมาย
ไม่พอ..
สักพักลูกค้าในร้านเริ่มเข้ามาร่วม คุณน้องพ่อลูกอ่อนเข้ามาแจม นั่นนักอ่านเลยนะ อ่านเฮอมานน์ เฮสเซย์ อ่านวรรณกรรมเยาวชน อ่านห้าสหายผจญภัย สักพักหนึ่งก็ต้องลาไปก่อนเพราะมีลูกน้อยมาด้วย คุณน้องพาลูกเข้าร้านหนังสือตั้งแต่เด็ก สุโค่ยมาก
พอดูแล้วว่าไม่มีใครมาอีก เราขอทางร้านเดินทัวร์ร้านเลยครับ แนะนำหนังสือไปทีละตู้ มีละหัวเรื่อง ตั้งแต่นิยายไทย นิยายแปล ประวัติศาสตร์ พัฒนาตัวเอง นิยายแปลจีน หนังสือขายดี หนังสือวิทยาศาสตร์สนุก ๆ เดินไปทีละชั้น หยิบมาคุยกัน ประวัติเล่มนี้ เล่มนี้สนุกอย่างไร แล้วจะต่อเล่มไหนต่อ สนุก หัวเราะ
ไม่พอ...
ลูกค้าในร้านหันมายิ้ม ยกมือมีส่วนร่วมกิจกรรม เติมความเห็นกัน กลายเป็นว่าเรากำลังทำบุ๊คคลับทั้งร้าน โดยที่ไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร แค่รักการอ่านและอยากอ่านเพิ่มสิ่งต่าง ๆในตัวเอง สนุกมาก ที่เด็ดกว่านั้น...น้อง ๆ มัธยมเข้ามาร่วมด้วย ได้แนะนำหนังสือวรรณกรรมเยาวชน วรรณกรรมซีไรต์ หนังสือ brainy book วิธีการเรียน วิธีการจด คุณบิ๊กเจ้าของร้านเสริมตลอดและไปหาหนังสือที่เราพูดกันมาให้ดูได้ทันที
เวลาผ่านไปเร็วมาก สองชั่วโมง ผมคิดว่าทุกคนได้พลังจากการอ่าน ความอยากอ่าน ความสนุกในร้านหนังสือ และความสุขในร้านหนังสือ สามารถไปสร้างพลังให้ตัวเองและคนอื่นได้ สุดท้ายผมซื้อหนังสือมาสามเล่ม ทุกคนมีหนังสือติดไม้ติดมือไปทุกคน ร่ำลากันด้วยดีและหวังว่าสักวันเราจะมาพบกันใหม่
สนุกมากและขอบคุณทุกคนที่มาเข้าร่วม ขอบคุณร้านเสียงทิพย์ ขอบคุณชาวพิษณุโลกที่น่ารักทุกคนในทุกที่ที่ผมไปเที่ยว
ไว้โอกาสหน้า อย่าพลาดนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น