ปัญหาที่เข้าขั้นอมตะ ของ ชาวบ้านร้านตลาด คือ ไข้ไอเจ็บคอ ต้องกินยาฆ่าเชื้อไหม
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน พบมากที่สุดแล้วล่ะครับในทุกๆที่ สำหรับชาวบ้านทั่วไป เราจะแยกได้ไหมว่าอันไหนไวรัส อันไหนแบคทีเรีย ต้องกินยาฆ่าเชื้อไหม เอาล่ะ ผมสรุปเลยนะ ไม่อารัมภบทแล้ว ใช้ ม.44 บังคับเลย
เราต้องยอมรับความจริงสองข้อก่อน ข้อแรก การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเกือบ 90% คือการติดเชื้อไวรัส เราอยู่ในโลกของไวรัสนะ ดังนั้นการจะบอกว่าเป็นแบคทีเรียแล้วต้องกินยาฆ่าเชื้อจะมีโอกาสถูกต้องแม่นยำไม่มาก ต้องชัดเจนจริงๆ
ข้อที่สอง โอกาสจะเป็นแบคทีเรียโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรียกว่า Group A streptpcoccus มักจะพบมากในเด็กวัยประถม 5-16 ปี แต่ไอ้ที่ว่ามากนั้น ก็น้อยกว่าไวรัสเยอะเลย
ด้วยความจริงสองข้อนี้ การที่จะได้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียก็จะต้องมีหลักฐานชัดแจ้งคาหนังคาเขา จึงจะคุ้มค่า หรืออีกวิธีที่ใช้คือ ลองติดตามอาการดู สองสามวันแรกอาจแยกยาก แต่ต่อไปผู้ร้ายมันจะปรากฏกายอย่างแน่นอน
อาการที่บอกว่า น่าจะ..ย้ำๆ..น่าจะ เพราะไม่มีอาการหรือการตรวจร่างกายใดจำเพาะเลย คือ ไข้สูง น้ำมูกน้ำลายไม่มี...อันนี้จะแตกต่างจากไวรัส ไม่มีอาการคัดจมูก ตาแดง น้ำหูน้ำตาไหล..อันนี้ก็จะต่างจากไวรัส ส่องดูคอซิ..ส่วนมากถ้าเป็นแบคทีเรียชัดๆ ก็จะคอแดงจัด ต่อมทอนซิลก็จะบวมแดงจัด อาจจะมีหนองหรือไม่ก็ได้ ถ้ามีหนองนี่ชัดเจนมากขึ้น...น่าจะเป็นแบคทีเรีย
คลำต่อมน้ำเหลืองส่วนบนของลำคอ คิดถึงแนวเนคไทรอบคอครับ ไม่ใช่ใต้คางนะครับ ก็จะมีต่อมน้ำเหลืองโต กดเจ็บ จะคิดถึงแบคทีเรียมากกว่าไวรัส ถ้ามีอาการทั้งหลายเหล่านี้จึงจะพิจารณาว่าเป็นแบคทีเรียครับ และย้ำอีกเป็นครั้งที่ร้อย ไม่มีความเฉพาะเจาะจง ถ้าสงสัยให้ติดตามอาการดูสามสี่วันครับ มันจะชัดขึ้น
แบคทีเรียหายเองไหม..หายเองได้นะครับ แต่การให้ยาฆ่าเชื้อจะกำจัดเชื้อได้ดี ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนและการเกิดไข้รูมาติกที่เป็นผลข้างเคียงสำคัญก็ลดลง
มีวิธีดีกว่าดู และติดตามไหม ในต่างประเทศจะใช้การเก็บตัวอย่างที่คอไปตรวจหาตัวเชื้อที่เรียกว่า rapid antigen detection test มีความจำเพาะสูงมาก แต่ก็แพงครับและความไวไม่มาก วิธีเพาะเชื้อใช้เวลานาน วิธีการตรวจหา streptococcus ในเลือดที่เรียกว่า ASO titer มักจะใช้ดูว่าผลข้างเคียงที่เกิดนั้นเกิดจากการติดเชื้อนี้หรือไม่ ก็ใช้หลักๆแค่สองโรคคือ โรคไข้รูมาติก และ ไตอักเสบจากการติดเชื้อที่คอ ว่าเกิดจากการติดเชื้อ streptococcus นี้หรือไม่....สำหรับบ้านเราใช้อาการและการตรวจ บวกการติดตามโรคก็พอครับ
และที่สำคัญเมื่อต้องให้ยา ใช้แค่ยา penicillin ขนาด 250 มิลลิกรัม เลือกกินหนึ่งเม็ดวันละสี่เวลา หรือ สองเม็ดวันละสองเวลาเช้าเย็น เป็นเวลา 10 วัน..จนครบ...สถานการณ์ในบ้านเราการดื้อยาพบน้อยมากครับ
หรือใช้ยา amoxicillin ขนาดเม็ด 500 มิลลิกรัม หนึ่งเม็ดสองเวลาเช้าเย็น ...ย้ำนะครับ..ขนาดรักษาแค่วันละสองเม็ด ไม่เกินนี้ เลิกใช้ สองเม็ดเช้าเย็น..กินจนครบ 10 วัน ถ้าแพ้ยาเพนิซิลลิน ให้ ยา cephalexin ขนาด 20 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้สองครั้งเช้าเย็น หรือยา clarithromycin ครั้งละ 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ให้สองครั้งต่อวัน เช้าเย็น โดยยาทั้งสองก็ให้สิบวันเช่นกัน
ดื่มน้ำมากๆ กินยาลดไข้ พักผ่อน ถ้าไข้สูงมากอาจให้ยาต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDs ได้บ้างแต่ห้ามใช้ aspirin ในเด็กและรายสงสัยไข้เลือดออกนะ
หวังว่าเราคงเข้าใจมากขึ้น ให้ยา กินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียลดลง และถ้าต้องกินก็กินให้ถูกขนาดและครบวัน
ที่มา ..clinical practice guideline for diagnosis and management of a group A streptococcal pharyngitis : 2012 Update by IDSA
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยม
-
Acute pancreatitis จากที่ตอนที่แล้ว เราได้กล่าวถึงตับอ่อนอักเสบในภาพรวม สำหรับโพสต์วันนี้ขอเล่าถึงในภาพลึกในเชิงปฏิบัติบ้างนะครับ ตามสัญญา...
-
คำถามจากทางบ้าน : น้ำอสุจิมีมดตอม แบบนี้ เป็นเบาหวานไหม อย่างแรกคนที่ถามคำถามนี้เป็นสุภาพสตรี ต้องนับถือในความช่างสังเกตสิ่งรอบตัวจริง ๆ ค...
-
ปฏิบัติการ I/O สะท้านโลก I/O ทางการแพทย์เราคือ intake -- output ปริมาณสารน้ำเข้าออกในร่างกาย ไม่ได้เกี่ยวกับปฏิบัติการข่าวสารอันเลื่องลื...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น