งู ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
1.งูเห่าและงูจงอาง พิษของมันจะไปบล็อกการสื่อประสาทที่ตำแหน่ง post-synaptic คือเส้นประสาทสั่งการได้ แต่สารสื่อประสาทไปทำงานที่กล้ามเนื้อไม่ได้ พิษงูจงอางจะไปยับยั้งสารสื่อประสาทที่ pre-synaptic ได้เล็กน้อยอีกด้วย แม้พิษงูสองชนิดนี้มีกลไกการทำงานเหมือนกัน แต่ใช้เซรุ่มคนละชนิดในการแก้พิษ ต้องเลือกให้ถูกชนิดงู
ด้วยกลไกคล้ายโรค myasthenia gravis ทำให้สามารถใช้ยา choline esterase inhibitor คือ neostigmine และ pyridostigmine มาร่วมรักษาได้
2.งูสามเหลี่ยม พิษของมันจะไปหยุดการส่งสารสื่อประสาทที่ตำแหน่ง pre and post synaptic คือเส้นประสาทไม่สามารถส่งสัญญาณไปที่กล้ามเนื้อได้ กล้ามเนื้อก็ไม่ทำงาน งูสามเหลี่ยมใช้เซรุ่มของตัวเอง (งูสามเหลี่ยมจะมีลายที่ท้องด้วย ต่างจากทับสมิงคลาที่ท้องจะเนียน ไม่มีลาย)
3.งูทับสมิงคลา พิษของมันจะทำงานโดยกระตุ้นสารสื่อประสาทให้ออกมามาก ๆ แบบคุมไม่อยู่ จากตำแหน่ง pre-synaptic ทำให้กล้ามเนื้อถูกกระตุ้นจนแข็งเกร็ง จนท้ายสุดอ่อนล้าทำงานไม่ได้ แถมพิษงูทับสมิงคลายังสะสมนานกว่าจะหมด เซรุ่มก็แยกชนิดต่างหากเช่นกัน
เมื่อตัดสินใจที่จะให้การรักษาด้วยเซรุ่ม (เพราะไม่ต้องให้ทุกราย) ทางที่ดีที่สุดคือเลือกเซรุ่มให้ตรงชนิดงู ซึ่งส่วนมากทราบจากการชันสูตรซากงูที่นำมา
ถ้าไม่มีตรงชนิด แนะนำให้ประคับประคองแล้วส่งตัวผู้ป่วย หรือส่งยามาหาผู้ป่วย
เซรุ่มชนิดรวมพิษ polyvalent antivenom ชนิดพิษต่อระบบประสาท เราเพียงทราบว่าเป็นพิษต่อระบบประสาท เราเลือกให้ได้เช่นกัน แน่นอนว่าประสิทธิภาพคงไม่ดีเท่าเซรุ่มเดี่ยว และผลข้างเคียงจะมากกว่า เพราะมาจากโปรตีนหลากหลายชนิด แต่ถ้าจำเป็นคงต้องใช้
ในประเทศเรามีใช้สองแบบคือ แบบรวมพิษระบบประสาท กับ แบบรวมพิษระบบโลหิต ใครสนใจอ่านต่อ มีอ้างอิงคอมเม้นต์
อีกหนึ่งที่อยากยกเป็นคติสอนใจ คือคำกล่าว “ผู้ชายไม่เจ้าชู้ เหมือนงูไม่มีพิษ” ผมอยากบอกว่า งูพิษน่ะ ไปกัดใครเข้า ไม่เห็นตายดีสักตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น