18 กันยายน 2562

Vaping Associated Lung Injuries

ข่าวบุหรี่ไฟฟ้าดังเหลือเกิน โดยเฉพาะการเสียชีวิตในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหตุการณ์นี้ออกมาตรงกับการศึกษารายงานเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่ทำให้เกิดปอดอักเสบที่เรียกว่า Pulmonary Illness Related to E-Cigarette Use ที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อ 6 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองข่าวนี้ไม่ได้เป็นเนื้อหาเดียวกันทั้งหมด ผมได้ลงบทสรุปในวารสารนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ออกตีพิมพ์ มีข้อความไต่ถามทั้งจากในคอมเม้นท์และข้อความมากมาย จึงขอยกมาตอบนะครับ
1. รายงานข่าวที่ออกมาและจากที่ CDC รายงาน เป็นคนละกลุ่มประชากรที่ทางวารสาร NEJM ได้ตีพิมพ์ อาจจะมีบางส่วนที่ทับซ้อนกัน ในวารสารนี้คิดวิเคราะห์ตามเกณฑ์ที่ระบุว่าเป็น Pulmonary Illness Related to E-Cigarette Use ซึ่งมีข้อกำหนดชัดเจนเท่านั้น แต่ในรายงานข่าวจะเป็นกลุ่มคนที่ต้องสงสัยป่วยจากบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น จึงไม่สามารถสรุปว่าสองเหตุการณ์นี้เป็นเหตุและผลซึ่งกันและกันได้
2. การศึกษาในวารสาร เป็นการเก็บตัวอย่างจากสองลักษณะคือ เมื่อมีผู้ป่วยใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วเกิดอาการ (epidemiologic investigation) ทำการรวบรวมและหาสาเหตุ และอีกกลุ่มคือหากมีอาการหายใจผิดปกติก็เก็บตัวอย่างด้วยเช่นกันไม่ว่าเขาจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ (syndromic surveillance) เพื่อมาคำนวณหาความสัมพันธ์เชิงสถิติระหว่างใช้กับไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ดังนั้นผลการศึกษาจากวารสารจะครอบคลุมกว่าและไม่ได้คัดเลือกเฉพาะผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น เพราะถ้าทำอย่างนั้นจะไม่มีตัวเปรียบเทียบระหว่างใช้กับไม่ใช้ว่าสัมพันธ์ต่อโรคต่างกันหรือไม่ ส่วนการรายงานที่เป็นข่าวจะรวบรวมเฉพาะผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วเกิดอาการเท่านั้น
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาในวารสารทำตั้งแต่ 1 มกราคม 2018 จนถึง 15 สิงหาคม 2019 นั่นคือเก็บข้อมูลมาก่อนที่ข่าวจะดังออกมา กลุ่มการศึกษาจึงไม่ใช่กลุ่มที่เป็นข่าว ไม่สามารถนำชุดความจริงจากการสอบสวนในข่าวมาอธิบายผลการศึกษาในวารสารได้
4. สิ่งที่คิดกันว่า ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วเสียชีวิตเกิดจากการผสม THC ในกัญชาจึงเกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนแบบนั้น เพียงแต่ทราบว่าในกลุ่มคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วเกิดปัญหามีการผสมสารอื่นไปด้วย (สหรัฐอเมริกาไม่ได้มีการควบคุมผลิตภัณฑ์เคร่งครัดเหมือนในอังกฤษ) อันนี้มีการยืนยันว่ามีการผสมจริง มีการปรับสูตรจริง
แต่ยังไม่สามารถแสดงผลทางวิทยาศาสตร์หรือสถิติได้ว่า THC ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดอันตรายแบบ "เป็นสาเหตุ" แต่แสดงเพียงว่า "น่าจะเกี่ยวข้องกัน" เท่านั้น
5. ในการศึกษาตามวารสาร NEJM เราพบคนที่ไม่ได้ใช้ THC (ไม่ว่าจะเป็นการผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหรือจากการเสพวิธีอื่น) ถึง 20% แต่ก็มีอาการรุนแรงแบบนี้
มีการใช้ THC อย่างเดียวแค่ 37%
ที่เหลือมีรายงานการใช้หลายรูปแบบและก็เกิดอันตรายรุนแรงแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นการใช้ CBD (สารสกัดอีกชนิดในกัญชาที่นำมาใช้ทางการแพทย์) เพียงอย่างเดียว หรือมีถึง 17% ที่ใช้แต่น้ำยานิโคตินอย่างเดียวโดยไม่ผสมอย่างอื่นเลย ตรงนี้บอกว่า การผสมกัญชาไม่ใช่ผู้ร้ายคนเดียว มีคนที่ไม่ผสมอะไรก็ยังเกิดการป่วยตามเกณฑ์ Pulmonary Illness Related to E-Cigarette Use ได้เช่นกัน
6. หลายคนคิดว่าทำไมเพิ่งมามีอันตรายตอนนี้ทั้ง ๆ ที่บุหรี่ไฟฟ้ามีใช้มากว่า 15 ปี ต้องบอกว่าเพราะตัวเลขการใช้เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาของบุหรี่ไฟฟ้า JUUL ที่แพร่หลายหนักในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกา ตัวเลขล่าสุดคือไฮสกูลมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าถึงกว่า 25% ทางหน่วยงานควบคุมโรคระบาดของอเมริกาจึงออกมาประกาศเป็น epidemic และ public health crisis
และแนวคิดการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าของอเมริกาต่างจากอังกฤษที่มีการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างดี อังกฤษจึงสามารถสนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามาแทนบุหรี่เผาไหม้เพื่อลดความเสี่ยงได้
7. มาตรฐานการควบคุมผลิตภัณฑ์ของอเมริกายังไม่เป็นมาตรฐานและเข้มงวดเหมือนฝั่งยุโรป ไม่ใช่แค่บุหรี่ไฟฟ้านะครับ ผลิตภัณฑ์อาหารหรือยาของสองทวีปนี้เขาก็แตกต่างกัน ดังนั้นเราไม่สามารถเอาความจริงในอเมริกา มาเปรียบเทียบความจริงในยุโรป หรือกระทั่งไม่สามารถมาประยุกต์อธิบายในประเทศไทยได้ เพราะแนวคิด ความรู้ความเข้าใจ การควบคุมการใช้ กฎหมายต่าง ๆ ไม่เหมือนกันเลย ข่าวที่ออกมาจึงไม่ไปในทางเดียวกันในหลายทวีปหลายประเทศครับ
8. สรุปสุดท้ายตอนนี้ยังต้องรอผลการสืบสวนอย่างเป็นทางการของ Center of Diseases Control and Prevention ที่กำลังรวบรวมผลที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัมพันธ์กับอาการลมชักก่อนหน้านี้ เรื่องการเสียชีวิตในเดือนที่ผ่านมาว่าเกิดจากอะไร และอัตราการป่วยที่พบมากขึ้นว่าเป็นจากบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ ยังต้องรอครับ รายงานข่าวจาก CNN และ CDC ล่าสุดยังไม่สรุปออกมาครับ
หวังว่าหลายท่านคงได้คำตอบ และนำความจริงที่ได้ไปประกอบการคิดและตัดสินใจอย่างถูกต้องครบถ้วนนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม