07 พฤษภาคม 2567

Painpoint งานวิจัย

 painpoint กับ ยาสมรรถภาพทางเพศ


รายงานการศึกษายา MED 3000 จากการประชุมแพทย์โรคระบบทางเดินปัสสาวะอเมริกา สรุปดังนี้


ผลการศึกษายา Eroxon ในกลุ่มชายที่ด้อยสมรรถภาพทางเพศ 250 คน ระหว่างกลุ่มใช้ eroxon ตลอด กับใช้ eroxon บ้างหรือ tadalafil บ้าง วัดผลที่ครึ่งปี


เด้งดึ๋งภายใน 10 นาทีหลังใช้ยา : กลุ่มใช้ eroxon อย่างเดียวทำได้มากกว่า 60% เทียบกับ 45%


ผลข้างเคียง eroxon เจอได้ 2% ส่วนอีกกลุ่มพบ 4% สำหรับผลข้างเคียงสำคัญคือปวดหัว กลุ่ม eroxon พบ 3% เทียบอีกกลุ่ม 19% 


eroxon น่าจะดีกว่า เนื่องจากยาใหม่นี้เป็นยาทา มันต่างจากยากิน ไอ้เจ้าวิธีใช้ที่ต่างกันก็ส่งผลต่อผลลัพธ์การศึกษาที่ต่างกัน แต่นี่คือจุดปิด painpoint อันหนึ่งเลย 


  1. eroxon มันเป็นครีมทาหัวเสียม แน่นอนผลข้างเคียงต่อหลอดเลือดย่อมน้อยกว่า ปวดหัว ความดันต่ำ น้อยกว่า

  2. eroxon ใช้เวลาทำงานน้อยกว่า ทาถูทาถู ประมาณ 10 นาที เสียมพร้อมใช้งาน ยากินเดิมต้อง 1-2 ชั่วโมง 

  3. ทางบริษัทพยายามผลักดันให้เป็น OTC คือ ซื้อได้โดยไม่มีใบสั่งยา เพราะว่า บรรดาชายเสื่อม ไม่ค่อยอยากไปหาหมอ

  4. ราคาไม่แพง ประมาณ 4 หลอดต่อกล่อง ราคา 1120 บาท (ใช้แล้วทิ้งหลอดละครั้ง) 

  5. เมื่อผลข้างเคียงน้อย ซื้อง่าย ใช้คล่อง น่าจะลดปัญหาชายเสื่อมลงได้เยอะ

  6. อันนี้ผู้ผลิตเขาแนะนำ บอกว่า เพราะมันใช้การทาถูนวดคลึงที่หัวเสียมเท่านั้น (ทาด้ามจะเปลือง) ถ้าให้คู่ของคุณ ทาถูให้ มันจะดีนะ  ยากินมันต้องกินเองไงท่าน มันไม่เร้า


เออแฮะ อ่านระเบียบวิธีวิจัย งานวิจัย กลไกยา มันก็เฉย ๆ พอมาอ่านแนวคิด เขาไอเดียดีนะ เวลาไปฟังงานประชุม ชอบฟังว่าทำไมจึงคิดแบบนี้ painpoint คืออะไร แล้วจะแก้อย่างไร


04 พฤษภาคม 2567

super gonorrhea

 ข่าวไม่ค่อยดีเลย กับ super gonorrhea

วารสาร JAMA รายงานข่าวเรื่องการดื้อยาเชื้อหนองในที่พบมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในอดีต หนองใน เราใช้ยา ceftriaxone ฉีดเข้ากล้ามครั้งเดียว แต่ต้องปรับขนาดจาก 125-250-500 มิลลิกรัมมาเรื่อย ๆ เพราะดื้อยา
อเมริการายงานว่า ตอนนี้ ceftriaxone 500 มิลลิกรัม คู่กับ กิน azithromycin 1 กรัม เริ่มดื้อมากขึ้นแล้ว สูงสุดที่ 30%
มีรายงานต้องใช้ carbapenem จึงรักษาได้
ล่าสุดกำลังทดสอบยาใหม่ zoliflodacin ในการรักษาหนองใน
อยากบอกว่า ทุกวันนี้เจอหนองในมากขึ้น เกือบทุกคนไม่ได้ให้ยากับคู่นอน เพราะ เจอกันครั้งเดียว หรือ คงไม่เจอกันอีก ส่วนจะให้ยาไปให้สามีหรือภรรยาที่บ้านก็ไม่ได้อีก ..บ้านแตก น่ากลัวกว่าเชื้อดื้อยา
อย่าลืม สวมถุงยางอนามัยกันนะครับ
Landhuis EW. Multidrug-Resistant “Super Gonorrhea” Rallies Multipronged Effort. JAMA. Published online May 03, 2024. doi:10.1001/jama.2023.15355

03 พฤษภาคม 2567

วัคซีนโควิดของแอสตร้าซีเนก้า กับ ลิ่มเลือด

 วัคซีนโควิดของแอสตร้าซีเนก้า กับ ลิ่มเลือด

เป็นข่าวดังครึกโครม และในที่สุดก็มาถึงประตูบ้าน
ผู้ป่วยของผม เธอป่วยเป็น immune thrombocytopenia ได้รับยากดภูมิจนโรคสงบแล้ว (เคยกำเริบมาแล้ว) ตอนนั้นเธอได้วัคซีนไวรัสเวกเตอร์ของแอสตร้า ก็ไม่แปลกที่จะหวั่นใจ ก็เลยถามเข้ามา
ผมคิดว่าหลายคนคงเคยได้รับวัคซีนและมีคำถาม ผมขอสรุปภาษาชาวบ้านนะครับ อ้างอิงจากแหล่งเชื่อถือได้และตัวเองก็เคยรายงาน VITT และทำการบ้านทบทวนมาพอควรด้วย
1. กังวลไหมว่าจะเกิดตอนนี้ ... ไม่กังวล เพราะอาการเกือบทั้งหมดมักเกิดในเดือนแรกของการรับวัคซีน ประเทศเราไม่ใข้ viral vector มานานแล้ว ถ้าเกิดคงต้องหาเหตุอื่นที่สมเหตุสมผลกว่า
2. มันเกิดบ่อยขนาดนั้นไหม ... ไม่เลยครับ ตัวเลขเราเริ่มเห็นตั้งแต่ใช้วัคซีนแล้ว ตอนที่ใช้วัคซีนกันอยู่ ก็ประมาณ หนึ่งต่อสองสามแสน ตอนนี้รวบรวมข้อมูลเบ็ดเสร็จทั่วโลก อยู่ที่ หนึ่งราย ต่อ สิบล้านคนฉีดครับ
3.แล้วทำไมเพิ่งมาบอก ... ข้อมูลออกมาเรื่อย ๆ ครับ แต่การจะออกแถลงการณ์ทางวิทยาศาสตร์คงต้องให้ข้อมูลครบก่อน
4. คนไทยเกิดไหม ... มีรายงานครับ ทางสภากาชาดและจุฬา เก็บรวบรวมไว้ มีไม่มาก และไม่รุนแรง ตอนนี้ไม่มีแล้ว
5.ก็มีรายงานตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมยังใช้อีก ... มองย้อนกลับไป ช่วงเวลานั้นโควิดโหดมากนะครับ คงต้องเอาอาวุธที่มีมาถล่มให้เรียบก่อน ไม่งั้นเราอาจไม่สบายแบบตอนนี้
6.วัคซีนอื่นก็มีนี่ ... ใช่ วัคซีนอื่นก็มี แต่ทุกตัวก็มีผลข้างเคียงประมาณ หนึ่งต่อสิบล้านพอกันนี่แหละ
7.แบบนี้ ไม่ฉีดวัคซีนซะดีกว่าไหม ... ไม่ดีครับ เพราะเจ้าอาการลิ่มเลือดอุดตัน เกล็ดเลือดต่ำนี่นะ เกิดจากโควิดมากกว่าเกิดจากวัคซีนประมาณ 5-10 เท่าตัวเลย ยังไม่นับอันตรายอื่นจากโควิดที่คุมไม่ได้อีก
สรุปว่า...คือรายงานการศึกษาทางการจากบริษัทผู้ผลิต ที่เรารู้กันหมดแล้ว ออกมาเพื่อเป็นการศึกษาต่อไป ไม่ต้องกลัวเพราะเราไม่ได้ใช้วัคซีนนี้มานานแล้ว และคงไม่ได้ใช้ตลอดไป (บางทีถ้าปรับปรุงจนดีแล้ว ก็ค่อยว่ากัน)
จบข่าว..แยกย้ายไปนอน

02 พฤษภาคม 2567

กรดยูริกในเลือด

 สั้น ๆ ก่อนนอนกับกรดยูริกในเลือด

กรดยูริกในเลือดที่สูง มากกว่า 6 mg/dL ในสุภาพสตรีและมากกว่า 7 ในสุภาพบุรุษ เรามักจะคิดว่าเป็นเกาต์ จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะครับ แต่หากใครที่เป็นเกาต์แล้ว การปล่อยกรดยูริกในเลือดสูง จะเพิ่มโอกาสเกิดเกาต์ซ้ำใหม่ และเมื่อลดกรดยูริกในเลือดต่ำลง โอกาสเป็นเกาต์ซ้ำจะลดลง
กรดยูริกในเลือดที่สูง สัมพันธ์กับโอกาสการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว สัมพันธ์กับโอกาสการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ AF สัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ สัมพันธ์กับโอกาสการเกิดไตเสื่อม
แต่การลดกรดยูริกลง ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะไปช่วยลดโรคหัวใจ ส่วนโรคไตมีข้อมูลว่าช่วยชะลอความเสื่อมในคนที่เป็นโรคไตเสื่อม
หมายความว่า ถ้าคุณไม่มีอาการ แล้วไปตรวจเจอยูริกสูง
1.หาสาเหตุว่าทำไมสูง ส่วนมากเกิดจากการกินอาหารยูริกและพิวรีนสูง แล้วแก้ไขเสีย
2.ถ้าไม่มีอาการ ไม่มีโรค ไม่มีข้อบ่งชี้ ก็ไม่ต้องใช้ยาลดกรดยูริก
3.ติดตามอาการและระดับกรดยูริก
4.ให้ระวังว่าคุณเพิ่มโอกาสการเกิดโรคหัวใจและโรคไต หากมีปัจจัยเสี่ยงใดอยู่ ให้รีบลดปัจจัยที่ลดได้
5.หยุดดื่มแอลกอฮอล์

บทความที่ได้รับความนิยม