22 มีนาคม 2562

กำจัดเชื้อ Helicobacter pylori .. ความเข้าใจแบบชาวบ้าน

กำจัดเชื้อ Helicobacter pylori .. ความเข้าใจแบบชาวบ้าน
เชื้อนี้คืออะไร ??
เชื้อนี้คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ติดต่อทางการกิน ใช่แล้ว..แผลในกระเพาะเกิดจากเจ้านี่เป็นเหตุหลัก ล้างความเชื่อเดิม ๆ จนได้รางวัลโนเบลจากการค้นพบเจ้าเชื้อนี่
ทำไมต้องไปกำจัด ??
เพราะมันทำให้เกิดแผล เพราะมันเป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารหลายประเภท เพราะมันเพิ่มโอกาสการเกิดแผลเลือดออกอีกหลายเท่าถ้ามีปัจจัยอื่นร่วมอยู่ด้วย เช่นต้องใช้ยาแก้ปวด NSAIDs
ต้องกำจัดทุกคนไหม ใครควรต้องรับการตรวจ ??
1.กำลังเป็นแผลในกระเพาะหรือเคยเป็นแผล (เพื่อตรวจว่าถูกกำจัดหรือยัง)
2.ส่องกล้องตรวจชิ้นเนื้อแล้วพบเป็นเนื้องอกกระเพาะ (โดยเฉพาะ MALToma)
3.ปวดจุกแสบท้อง ในกรณีที่ไม่มีข้อบ่งชี้ต้องส่องกล้อง (ถ้ามีข้อบ่งชี้ส่องกล้อง หมอจะตรวจให้อยู่แล้ว)
4.คนที่ต้องใช้ aspirin ระยะยาว หรือคนที่ต้องใช้ยาแก้อักเสบ NSAIDs ในระยะยาว
5.โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กโดยไม่ทราบสาเหตุ
6.โรคเกล็ดเลือดต่ำจากภูมิคุ้มกัน (immune thrombocytopenia)
7.เพื่อยืนยันการกำจัดเชื้อ
แล้วจะตรวจอย่างไร ??
หลัก ๆ ในประเทศไทยคือการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนแล้วตัดชิ้นเนื้อไปทดสอบ แต่ต้องส่องกล้อง วิธีที่ไม่ต้องส่องกล้องคือ การวัดสารที่เชื้อโรคนี้จะปล่อยออกมาหากกินเม็ดยาทดสอบ ตรวจหายูเรียทางลมหายใจ ส่วนอีกวิธีนั้นหลายสมาคมให้น้ำหนักน้อยกว่าสองวิธีแรกคือการตรวจหาแอนติเจนของเชื้อโรคทางอุจจาระ
สองวิธีหลังจะใช้เมื่อไม่มีข้อบ่งชี้ส่องกล้องหรือตรวจติดตามการหาย การกำจัดเชื้อโดยไม่ต้องส่องกล้องซ้ำ (ตรวจลมหายใจต้องหยุดยาลดกรดมาไม่น้อยกว่า 15-30 วัน)
รักษาอย่างไร ??
ในเมื่อมันคือเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ก็ต้องใช้ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย คุณหมอจะให้ยาฆ่าเชื้อประมาณสองสัปดาห์ คู่กับยาลดกรดขนาดสูงป็นเวลาสองสัปดาห์ ยาลดกรดไม่ได้ฆ่าเชื้อแต่ทำให้สภาวะแวดล้อมของเชื้อไม่เหมาะกับการเจริญเติบโต
ยาที่นิยมใช้มากจึงออกมาสามตัว เรียกว่า tripple therapy (ยาลดกรด + amoxicillin + clarithromycin)
แพ้เพนิซิลลินทำอย่างไร ??
ใช้ยา methronidazole แทนได้ หรือจะใช้สูตรยาสี่ตัวคือยาลดกรด ร่วมกับ ยา bismuth และร่วมกับยาฆ่าเชื้อสองตัวคือ tetracycline และ metronidazole
เชื้อดื้อยาหมดหรือยัง ??
นี่คือประเด็นครับ เพราะการใช้ยาฆ่าเชื้อพร่ำเพรื่อ และ "การแพ้ยา penicillin" ที่ไม่ได้แพ้จริงทำให้ต้องไปใช้ยากลุ่ม clarithromycin เพิ่มมากขึ้นโอกาสดื้อยาจึงมากขึ้น สถานการณ์การดื้อยาที่เชื้อดื้อยา clarithromycin มากกว่า 25% แนวทางของอเมริกาเขาไม่ให้ใช้สูตรที่มียา clarithromycin ก็ไปใช้สูตรยาบิสมัท หรือหากไม่สำเร็จยังมีสูตรอื่น ๆ อีกสามสูตรด้วยเช่นใช้ยา levofloxacin สูตร concomitent สูตร sequential คุณหมอจะเลือกให้ ในสถานการณ์บ้านเราการดื้อยายังไม่ถึงนั้น แต่ถ้าเราใช้ยาฆ่าเชื้อพร่ำเพรื่อต่อไปก็ไม่แน่
ต้องทดสอบไหมว่ากำจัดเชื้อได้หมด ??
ถ้าทำได้ก็ดีครับ (จริง ๆ ก็ควรทำตามแนวทางนะ) จะส่องกล้องซ้ำหรือใช้วิธีไม่รุกล้ำเช่นตรวจทางลมหายใจหรือตรวจอุจจาระก็ได้ เพื่อจะได้ทราบว่ากำจัดได้จริงหากกำจัดไม่ได้ต้องใช้สูตรอื่นต่อไป
ที่มาจากรีวิวในวารสาร New England Journal of Medicine
N Engl J Med 2019; 380:1158-1165 ที่อ้างอิงส่วนใหญ่จาก
American College of Gastroenterology (ACG)14 และจากการประชุม The Maastricht V–Florence Consensus. อันนี้ถือเป็นคัมภีร์หลักในการรักษา H.pylori ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม