14 กันยายน 2561

อัพเดต บุหรี่ไฟฟ้า อังกฤษ 2018

เดือนหน้าจะมีประชุมของ WHO FCTC ครั้งที่แปด เรื่องการควบคุมยาสูบที่จะออกมาเป็นแนวทางกับทุกประเทศสมาชิกรวมทั้งประเทศไทย ระยะนี้จะมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องยาสูบออกมามากครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวที่ปีที่แล้วเคยนำเสมอไป มาเล่าให้ฟังอีกครั้ง กับรายงานที่ทางรัฐสภาอังกฤษใช้ประกอบนโยบายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า จัดทำโดย House of Commons Science and Technology คณะกรรมาธิการของรัฐสภาอังกฤษ
  เมื่อต้นปี เราได้รู้ข้อมูลที่ถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีมาก ๆ ของการศึกษาบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อใช้ประกอบการกำหนดนโนบายของอเมริกาจาก National Academies of Sciences Engineering and Medicines ตอนนี้เรามาดูข้อมูลจากกรรมาธิการอังกฤษซึ่งประเทศเขาถือว่าเปิดกว้างสำหรับผลิตภัณฑ์ชดเชยนิโคตินและผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงจากบุหรี่อย่างมาก
  ข้อมูลนี้จัดทำโดยเป็นการรวบรวมจากหลักฐานทางเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาและความเห็นบทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นระดับหลักฐานทางวิชาการจะน้อยกว่า แต่จะมีความเห็นประกอบเหตุผลทางการเมือง เศรษฐกิจ เพื่อประกอบการควบคุมทางกฎหมาย ไม่ใช่ทางการแพทย์อย่างเดียว โดยในเอกสารจะชี้แจงชัดเจนว่าถ้อยแถลงนี้มาจากหลักฐานใด จากประเทศใด แต่ไม่ได้จัดระดับความน่าเชื่อถือมาให้ เพราะไม่ใช่เอกสารทางวิทยาศาสตร์ครับ
  ผมขอเล่าแบบสรุป ไม่ได้แจงละเอียด ใครสนใจรายละเอียดไปที่นี่ได้  ลงพิมพ์ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2561
https://publications.parliament.uk/pa/cm201719/cmselect/cmsctech/505/50502.htm
1.    เริ่มใช้คำว่า vape, vaping ในการใช้งานอุปกรณ์นำส่งนิโคตินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ENDs) แทนที่ smoke, smoking และ E-Cigarette  เพื่อไม่ให้สับสนกับบุหรี่มวนแบบเผาไหม้และการสูบแบบต้องเผาไหม้ ส่วนผลิตภัณฑ์บุหรี่แบบไม่เผาไหม้ Heat Not Burn ใช้คำว่า use
2. รายงานนี้แสดงความจริงชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่เป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้แบบเดิม  แต่ก็ยังมีสารที่ก่ออันตรายไม่ว่าจะเป็นสารตัวเดียวกันกับบุหรี่เผาไหม้หรือสารที่ไม่พบในบุหรี่เผาไหม้  สารต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลต่อกระบวนการและ biomarker ที่มีแนวโน้มอาจจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
  แต่ยังบอกไม่ได้ว่า biomarker ต่าง ๆนี้จะเป็นอย่างไรหากศึกษาในผู้ vape บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียว ส่วนมากจะมีการปะปนจากการสูบบุหรี่เผาไหม้มาก่อน  **สรุปว่าตอนนี้ที่ชัดเจนคือ สารพิษต่าง ๆ น้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้ แต่ไม่ได้ว่าจะไม่มีเสียเลย **  ข้อเท็จจริงข้อสองนี้เป็นระดับหนักแน่นเลยนะครับทั้งจากอเมริกาและอังกฤษ
3. สำหรับเรื่องบุหรี่มือสอง ถือว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้เพราะ sidestream smoke หรือควันที่ออกจากปลายบุหรี่น้อยกว่า ส่วนควันที่ออกมาจากลมหายใจออกของผู้ vape มีสารพิษในบุหรี่เผาไหม้น้อยกว่า แต่มีสารอื่น ๆ และโลหะหนักอยู่เช่นกัน  หลักฐานตรงนี้มากพอควร
4.  รสชาติต่าง ๆ  ยังไม่สามารถระบุอันตรายในระยะยาวได้ แต่ในระยะสั้นไม่พบพิษจากสารเพิ่มรสชาติ  เหตุเพราะสารเพิ่มรสและกลิ่นนี้ได้นับการรับรองแบบผสมในอาหาร แต่ยังไม่มีบทพิสูจน์ชัดเจนหากมาใช้แบบ ENDs **เรื่องรสชาติเป็นของใหม่ที่จะออกมาถกเถียงกันครับ**
5. ผลระยะยาว ยังไม่มีความแน่นอนเพราะการศึกษาไม่นานพอและมีผลการศึกษามีการปนเปื้อนจากบุหรี่เผาไหม้มากมายทั้งที่ใช้มาก่อนและใช้คู่กับบุหรี่ไฟฟ้า  ** ตรงนี้ทางอังกฤษมีความเห็นว่าไม่ค่อยยุติธรรมกับคนที่จะเปลี่ยนจากบุหรี่เผาไหม้มาเป็นบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากจะทำให้เลื่อนการใช้สารที่อันตรายน้อยกว่าออกไป ** 
   ความเห็นตรงนี้ยังถกเถียงกันอยู่เพราะถึงสารก่อมะเร็งจะน้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้ก็จริงแต่ก็ยังพบอยู่ดี   ซึ่งตรงกับที่อเมริกาตีพิมพ์และตรงกับของเดิมเมื่อปีที่แล้ว
6. ต้องการการศึกษาเพิ่ม โดยเฉพาะงานระยะยาว งานเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ งานที่มีอยู่ในปัจจุบันมีความผันแปรมากตามชนิดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา ขนาดบรรจุ น่าจะต้องทำให้เป็นรูปแบบมาตรฐานมากกว่านี้ การศึกษาจากอุปกรณ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และที่สำคัญต้องการงานวิจัยที่ทำในผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบไม่เคยใช้บุหรี่เผาไหม้มาก่อนเพื่อลดการปนเปื้อนของผลการทดลองจากบุหรี่เผาไหม้  ข้อหกนี้ทางอเมริกากับอังกฤษคิดเห็นตรงกัน
7. การเลิกบุหรี่ แม้มีข้อมูลว่ามีผู้ใช้เพื่อการเลิกบุหรี่มากขึ้น แต่เพราะว่าปริมาณการใช้รวมมากขึ้นจึงดูใช้เพื่อเลิกมากขึ้นไปด้วย ยังไม่สามารถบอกประสิทธิภาพได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับวิธีเลิกมาตรฐาน
8. เป็นหนทางให้สูบบุหรี่เผาไหม้มากขึ้น มีข้อมูลว่ามีผู้เริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ใช้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่มากนัก หมายถึงอาจจะเลิกหรือหันไปสูบบุหรี่เผาไหม้ ข้อมูลตรงนี้แปรผันตามระดับการห้ามและบังคับบุหรี่ในแต่ละประเทศ หากบังคับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ามาก จะใช้บุหรี่เผาไหม้มากขึ้น
9. การใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือมีใบอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์  ทางอังกฤษมีความเห็นว่าหากมีการศึกษาแบบใช้ยาหรืออนุญาตให้ใช้ในแง่การช่วยเลิกบุหรี่หรือลดอันตรายจากควันบุหรี่เผาไหม้ อาจทำให้แพทย์มีความ "สบายใจ" ที่จะใช้หรือแนะนำให้ผู้ที่ต้องการใช้เพื่อลดอันตรายมากขึ้น  และมีความเห็นหลายความเห็นที่อยากให้ทำแบบนี้เพราะกว่าจะออกมาเป็นการอนุญาตทางการแพทย์ได้ ต้องผ่านการวิเคราะห์ทุกมิติ  เรื่องนี้ทางอเมริกาไม่กล่าวถึงเลยเพราะหลักการการรับรองต่างกันมาก และทางอเมริกาไม่คิดใช้ ENDs เป็นยาแน่นอน
10. อีกสองกลุ่มประชากรที่ควรจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าคือ ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตและผู้ต้องขัง มีการหยิบยกประเด็นนี้ทั้งจากการศึกษาว่า กว่า 40% ของผู้มีปัญหาสุขภาพจิตจะติดบุหรี่ ไม่สามารถเลิกได้และหากเลิกอาการจะกำเริบ  ทำให้จะมีการผลักดันใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงในกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ต้องขังที่ยังเลิกไม่ได้ และจากความเห็นในเรื่องโอกาสการลดอันตรายในกลุ่มผู้มีปัญหาสุขภาพจิต  ประเด็นนี้ของใหม่ครับ ไม่เคยได้ยินเลยเช่นกัน
11. การจำกัดบริเวณสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ แม้การศึกษาจะปรากฏออกมาว่าควันมือสองจากบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอันตรายน้อยกว่า คนทั่วไปก็ยังไม่อยากสัมผัสควันอยู่ดีและอยากให้สูบในที่ที่กำหนด  ในขณะเดียวกันก็มีเสียงจากผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่าการกำหนดไปอยู่ที่เดียวกับผู้สูบบุหรี่เผาไหม้ อาจดึงดูดให้กลับไปใช้อีกและไม่ยุติธรรมที่เขาอุตส่าห์หนีความเสี่ยงจากบุหรี่เผาไหม้แล้วมาเจอควันบุหรี่เผาไหม้อีก ในสถานที่สูบบุหรี่เดียวกัน
12. การควบคุม  มีการตั้งเป้ากำหนดถึงมาตรฐานขั้นต่ำอุปกรณ์ที่ใช้ ขนาดบรรจุน้ำยา ชนิดและความเข้มข้นรวมถึงรสชาติน้ำยา ไม่ให้เกิน 2 ml และความเข้มข้นไม่เกิน 20 mg/ml  ต้องไม่ให้นักสูบหน้าใหม่และเยาวชนเข้าถึงได้  จำกัดการโฆษณา การจำหน่ายให้รัดกุม  และมาตรการทางภาษี 
   แต่ก็มีเสียงค้านถึงความพอดีในการควบคุม หากควบคุมมากเกินไปจะทำให้อัตราการใช้ การโฆษณาบุหรี่เผาไหม้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกัน  
   ทางอเมริกาก็ยกประเด็นนี้ด้วยในการศึกษาต้นปี แต่ตอนนี้เขาเริ่มมี JUUL จึงต้องรอดูผลว่า JUUL ที่เป็นแบบ fix จะออกมาเป็นอย่างไร
13. งานรวบรวมนี้ได้พูดถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิด Heat-not-Burn มาด้วยว่า เนื่องจากข้อมูลปัจจุบันยังน้อยและมาจากผู้ผลิตจำหน่ายโดยตรงเพียงไม่กี่เจ้าของ ข้อมูลจากฝ่ายอื่นหรือผู้วิจัยอิสระยังมีน้อย แม้ข้อมูลด้านสารพิษที่ออกมาจะน้อยกว่าบุหรี่เผาไหม้แบบเดิม แต่ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นถึง biomarker ที่ชัดเจน และปริมาณนิโคตินที่ได้ก็ยังเทียบเท่าบุหรี่มวนเผาไหม้แบบเดิม  จึงอาจเป็นทางเลือกในการลดความเสี่ยงจากควันบุหรี่อีกทางเลือกหนึ่ง
  ถ้าใครติดตามข่าวคราวเรื่องผลิตภัณฑ์เพื่อลดความเสี่ยงจากบุหรี่มาตลอด จะเห็นว่าข้อมูลไม่ได้มีอะไรเพิ่มมากขึ้นในทางลึกมากนัก โดยเฉพาะเรื่องผลต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่ยังไม่มีอะไรใหม่ ส่วนสารพิษที่น้อยกว่าบุหรี่มวนเผาไหม้อันนี้ชัดเจน และสารพิษอื่น ๆ ที่ยังพบในบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังพบอยู่ มีทั้งรายงานที่อาจเกิดอันตรายและไม่เกิด
  แต่เรื่องทางกว้างมีมากขึ้น คือ กลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์ กลุ่มที่ไม่ควรใช้ มีข้อมูลมากขึ้นถึงการควบคุม การใช้อุปกรณ์ใหม่ ๆ และการกำหนดมาตรฐานเริ่มพูดกันมากขึ้น 

  ความเห็นของทางอังกฤษและยุโรป จะออกมาทางบวกว่าให้ใช้มากกว่า แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าได้ประโยชน์ในระยะยาว และยังคงต้องติดตามต่อไป ต่างจากทางอเมริกาที่ยังขอข้อมูลมากกว่านี้ ไม่ชี้ชัดว่าดีหรือไม่ดีครับ
  ปล. ตัวผมยังเชียร์วิธีการเลิกบุหรี่เด็ดขาดในทุกรูปแบบ ไม่เชียร์การใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือ heat-not-burn แต่อย่างใด แต่สนใจเรื่องของนวัตกรรมและวิทยาการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในวงการเลิกบุหรี่หรือลดความเสี่ยง จึงนำเสนอสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนท่านจะเห็นด้วยหรือนำไปใช้อย่างไร ขึ้นกับดุลยพินิจของแต่ละท่านนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม