11 มกราคม 2562

เมื่อเพศทางเลือกเป็นหนึ่งในปัจจัยการพิจารณาโรค

เมื่อเพศทางเลือกเป็นหนึ่งในปัจจัยการพิจารณาโรค
หลายสัปดาห์ก่อนมีผู้ป่วยเข้ามาในไอซียูด้วยปัญหาหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ไม่ดี ค่าความดันขณะหัวใจวายคือ 200/130 ดูก็ไม่น่าจะผิดสังเกตอะไร แต่สิ่งที่ทำให้ต้องคิดเพิ่มคือผู้ป่วยรายนี้เป็นสุภาพสตรีที่เลือกเป็นเพศชาย ไม่เพียงแต่ลักษณะการแต่งกายเท่านั้น แต่ผู้ป่วยรายนี้มีประวัติการใช้ฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน มาต่อเนื่องมากว่าสามปี เพิ่งหยุดไปเมื่อหนึ่งปีก่อน
ณ ปัจจุบัน เพศทางเลือกได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้น ผู้ที่ต้องการเลือกเพศไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน สามารถใช้ชีวิตได้ปกติสุขมากขึ้น หลาย ๆ ประเทศยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศทางเลือก
ในทางการแพทย์ข้อมูลเกี่ยวกับเพศทางเลือกไม่มากนัก เพราะสิ่งเหล่านี้เพิ่งได้รับการปลดปล่อย จึงเริ่มมีการศึกษาถึงผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงร่างกาย จิตใจ สังคม การศึกษาส่วนมากที่มียังเป็นการศึกษาระยะสั้นและผลที่มีเป็นผลระดับเมตาบอลิซึมของร่างกาย ไม่ใช่อัตราการรอด อัตราการเกิดโรคแต่อย่างใด
ยกตัวอย่างจากรายนี้ เราทราบดีว่าฮอร์โมนเพศชายเป็นสิ่งสำคัญในการธำรงลักษณะเพศ แถมยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก และปกป้องหัวใจอีกด้วย ถ้าผู้ชายคนใดขาดฮอร์โมน หากไม่ทดแทนจะเกิดโรคระบบกล้ามเนื้อ หัวใจ กระดูก สมรรถภาพทางเพศได้ แต่ข้อมูลที่มีคือเป็นข้อมูลชายที่ขาดหรือมีฮอร์โมนเกิน ไม่สามารถแปลผลถึงหญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายเกิน ว่าจะส่งผลเช่นเดียวกันกับผู้ชายที่ได้รับฮอร์โมนมากเกินไปหรือไม่ เพราะโครงสร้างทางกายวิภาคและสรีรวิทยาที่ต่างกัน โดยเฉพาะหากต้องการเลือกเพศในวัยที่ผ่านพ้นการเจริญเติบโตทางเพศในช่วงวัยเด็กโตไปแล้ว (มีลักษณะแต่ละเพศที่ต่างกันสมบูรณ์แล้ว)
ชายที่ได้ฮอร์โมนเพศหญิงมาก อาจจะเสี่ยงต่อลิ่มเลือดดำอุดตันที่ขาเหมือนผู้หญิงที่ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงเกิน แต่ในขณะที่เธอได้ฮอร์โมนเพศหญิงเกิน เธอก็จะมีฮอร์โมนเพศชายบกพร่องด้วย และในผู้หญิงที่ได้รัยฮอร์โมนเพศก็ลักษณะคล้ายกัน
อย่างโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้หญิงที่เลือกเพศชาย โดยใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนนี้ การศึกษาถึงความเกี่ยวพันกันมีไม่มาก ขนาดการศึกษาก็เล็ก แถมยังเป็นการเก็บข้อมูลที่ไม่ใช่การทดลองแบบควบคุมทำให้ยังสรุปผลได้ยาก
นอกจากจะมีหนวด มีกล้ามเนื้อ มีลักษณะเพศชาย ประจำเดือนขาดไป มีรายงานสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปในทางต่าง ๆ มีทั้งดีขึ้นเพราะได้เพศที่เลือกสมใจหรือแย่ลงจากผลการใช้ฮอร์โมนที่ไม่ได้ควบคุม
การเลือกเพศในอนาคตอันใกล้คงต้องปรึกษาแพทย์ในเรื่องการจัดการฮอร์โมนและผลข้างเคียง การจัดการเรื่องการผ่าตัด การจัดการเรื่องสภาพจิตใจ เพื่อให้ได้เพศสภาพที่พึงพอใจและปลอดภัย
ส่วนผู้ให้บริการทางการแพทย์ก็ต้องทราบ ต้องรับรู้ ต้องเข้าใจ ในเพศทางเลือกและวิธีการไปสู่เพศทางเลือกนั้น อนาคตจะมีการศึกษามากขึ้น หรือการศึกษาต่าง ๆ จะต้องมี subgroup analysis กลุ่ม transgender อย่างแน่นอน
คู่มือการดูแลผู้ที่ประสงค์จะเลือกเพศจาก world professional association for transgender health
https://www.wpath.org/publications/soc

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม