27 เมษายน 2561

จากงานประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์สู่ประชาชน 2

จากงานประชุมราชวิทยาลัยอายุรแพทย์สู่ประชาชน 2
1. ไวรัสตับอักเสบบีและซี กำลังจะก้าวข้ามขีดจำกัดด้านการบริการสาธารณสุขของไทย ที่คนไทยสามารถได้รับการรักษาและยาที่ดี ราคาไม่แพง เท่าเทียมกันทุกคน ไม่ว่าสิทธิการรักษาใด
2. ดังนั้นต้องมีความเอาใจใส่สามประการ อย่างแรก รู้ความเสี่ยงและป้องกัน อย่างที่สอง เมื่อทราบว่าเป็นให้รักษาเมื่อมีข้อบ่งชี้ อย่างที่สาม ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
3. การรักษาทั้งสองประการจะลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคตับ ทั้งตับแข็ง มะเร็งตับ โรคอื่นๆที่ร่วมกับไวรัสตับอักเสบ และการเสียชีวิตโดยรวม
4. ข้อบ่งชี้ในการรักษา คุณหมอสามารถ download ได้ที่ http://www.thasl.org/th/index.php ฟรีนะครับ เป็นแนวทางใหม่ของเราเอง
5. สำหรับประชาชนทั่วไป หากทราบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ห้ามนิ่งนอนใจ ต้องมีการประเมินระยะของโรค อันตรายต่อตัวตับและเข้าข่ายต้องรักษาไหม สิทธิการรักษาต่างๆครอบคลุมมาก ยาใหม่ๆก็ได้ใช้ สามารถควบคุมโรคได้ดี
สำหรับไวรัสตับอักเสบบี (ผมสรุปมาแค่สิ่งที่ประชาชนควรทราบและเข้าใจ รายละเอียดแห่งการรักษาต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลนะครับ)
1. ทางติดต่อก็ยังเป็นทางเลือดและเพศสัมพันธ์ เป็นสาเหตุตับแข็งและมะเร็งตับส่วนมากของบ้านเรา
2. การรักษามีทั้งยากินและยาฉีด ยาฉีดนั้นประสิทธิภาพสูง ใช้กับคนที่อายุไม่มาก ไวรัสในตัวปริมาณมาก การอักเสบของตับสูง ยาฉีดคือ interferon
3. ยากินมีมากมาย แต่ที่ใช้ในบ้านเรามากๆคือ Lamivudine, Tenofovir, Entecarvir ในสิทธิการรักษาบ้านเราจะให้ใช้ Lamivudine ก่อน หากใช้ไม่ได้หรือล้มเหลวก็ใช้อีกสองตัว
4. Lamivudine มีโอกาสดื้อยาสูงมาก ส่วน Tenofovir กับ Entecarvir โอกาสดื้อยาน้อยกว่า เกือบทั้งหมดแทบไม่ดื้อถ้ากินยาไปตลอด และควบคุมได้ดีด้วย
5. การรักษาไวรัสตับอักเสบบี ส่วนมากเลยคือพยายามกดไวรัสให้ได้ยาวนานที่สุด แต่บางคนก็ถึงระดับหายได้ เมื่อนั้นจึงพิจารณาหยุดยา
6. ไม่ว่าจะหายหรือไม่ อย่างไรก็ต้องกินยาระยะยาว การติดตามผลข้างคียงของยาเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะการทำงานของไตที่อาจเสื่อมลงจากยา tenofovir
สำหรับไวรัสตับอักเสบซี (ผมสรุปมาแค่สิ่งที่ประชาชนควรทราบและเข้าใจ รายละเอียดแห่งการรักษาต้องปรึกษาแพทย์ที่ดูแลนะครับ)
1. ทางติดต่อคือทางเลือด อุบัติเหตุทางการแพทย์ เพศสัมพันธ์
2. อีกไม่ช้า การตรวจหา แอนติเจนของไวรัสตับอักเสบซีจะออกมาแพร่หลาย HCV Ag ถ้าตรวจพบก็เจอเชื้อแน่ๆ ส่วนการตรวจปัจจุบันเป็นการตรวจหา แอนติบอดี ซึ่งหากติดเชื้อแล้วหายจะพบ แอนติบอดีไปอีกนาน
3. เป็นโรคที่น่ารักษามากเพราะหายขาดเกือบ 90-95% หายขาดเลยนะ ถ้าเป็นใหม่คือติดเชื้อใหม่
4. ปัจจุบันรักษาด้วยยากินเป็นหลักในทุกๆสายพันธุ์ กินวันละครั้ง สามเดือน (มีบางกรณีกินนานกว่านี้)
5. ยามีในไทยแล้ว ในบัญชียาหลักด้วย เข้าถึงทุกคน รักษาแล้วมีประโยชน์มาก ทั้งลดอัตราการเกิดตับแข็ง มะเร็ง การเสียขีวิตจากโรคต่างๆได้มาก ลงทุนสามเดือน และค่ายาถูกลงมาก
6. ยาที่มี Sofosbuvir/Ledipasvir ครอบคลุมหมดยกเว้นสายพันธุ์ สาม และยาที่กำลังจะเข้ามาในไทยเข้าบัญชีให้ทุกคนใช้ด้วย คือ Sofosbuvir/Velpatasvir ใช้ได้กับทุกสายพันธุ์ จะรักษามาแล้วหรือรายใหม่ กินยาวันละเม็ด สามเดือน โอกาสหายขาด 90-95%
7. หรือยาที่ยังอยู่ก็ใช้ได้ดีมาก Daclatasvir/Sofosbuvir หรือ คู่หูเดิม ยาฉีด Interferonและกินคู่ยา Ribavarin
8. ถ้าพบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี รักษาเถอะครับ ปล่อยไว้จะแย่มาก แต่รักษาแล้วดี หายขาดเกือยร้อยเปอร์เซ็นต์ ลดอัตราการเกิดโรคและเสียชีวิตได้มาก และยาใหม่ๆพิษน้อย กินง่าย แค่สามเดือนเองด้วย
สำหรับคุณหมอนะครับ ใครยังไม่มีแนวทางการรักษา ให้ไปที่ลิงก์นี้ มีทั้งแนวทางการรักษาไวรัสตับอักเสบบีและซี ของไทยเรา ทันสมัย และ อ่านง่ายใช้ได้จริง
http://www.thasl.org/th/index.php
ขอขอบคุณการบรรยายของ อ.ทวีศักดิ์ แทนวันดี และ อ. ธีระ พิรัตน์วิสุทธิ์ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม