24 ธันวาคม 2560

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเรื่อง การตรวจสุขภาพ ตอนที่ 1

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเรื่อง การตรวจสุขภาพ ตอนที่ 1
หลายๆคนคิดว่า การตรวจสุขภาพจะสามารถรู้ทุกอย่างของร่างกาย จะสามารถรู้และอธิบายความผิดปกติของตัวเองได้ เหมือนการ "สแกน" ตรวจเจอสิ่งแปลกปลอมและผิดปกติทุกอย่าง ทำให้หลายๆคนเลือกจะใช้การตรวจสุขภาพแทนการเข้ารับการตรวจทางการแพทย์ หรือ ใช้การตรวจสุขภาพเพื่อบอกตัวเองว่าปรกติดี
อยากจะบอกว่า การตรวจร่างกายโดยใช้ battery of test ทำการทดสอบด้วยการเจาะเลือด การตรวจเอกซเรย์ ตรวจปัสสาวะอุจจาระ คลื่นไฟฟ้าต่างๆ ถ่ายภาพส่องกล้อง มันไม่ได้บอกโรค มันบอกแค่ผลการตรวจตามกรรมวิธี ส่วนจะเป็นโรคหรือไม่ ส่วนจะต้องสนใจหรือไม่ ส่วนจะต้องทำอะไรต่อหรือไม่ ต้องใช้ทักษะการแปลผลมากๆ
การตรวจแต่ละอย่างมีข้อจำกัดของมัน มีความไวและความจำเพาะของมัน ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆโรค ทุกๆภาวะ เราจะตรวจเมื่อ "มีข้อบ่งชี้" และส่งเพื่อยืนยันหรือคัดค้าน สมมุติฐานที่เราคิดจากอาการ ประวัติและการตรวจร่างกาย
ถ้าหากร่างกายปรกติ และ ไม่มีข้อบ่งชี้ ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่กลับเลือกใช้ battery of test ก็ต้องขอบอกว่ามันจะมีข้อจำกัดมาก ประโยชน์ของการทดสอบจะลดลงมาก มีแค่การทดสอบบางอย่างเท่านั้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อคัดกรองหาโรคในคนปรกติ
อาทิ เช่น การตรวจคัดกรองหาหลักฐานของเลือดมนุษย์ในอุจจาระ ในคนที่อายุตั้งแต่ 50 ปีหรือมีโอกาสการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงกว่าคนปกติ ... สังเกตนะครับ ต้องเป็นรูปแบบการตรวจที่เฉพาะ ในกลุ่มคนที่จำเพาะ จึงสามารถคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ได้ หากตรวจในคนอายุน้อยก็ต้องระมัดระวังผลบวกปลอมจากเหตุอื่น
อาทิเช่น การตรวจคัดกรองเพื่อหามะเร็งปากมดลูกโดยการตรวจ Pap Smear ในสุภาพสตรี มีความไวในการวินิจฉัยสูง และถ้าหากพบก็สามารถให้การรักษาตั้งแต่แรก และลดอัตราการตาย ลดค่ารักษาและความทรมานลงได้มาก
ถ้าเราใช้วิธีอื่น เช่น ในโปรแกรมตรวจสุขภาพ มีการตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็ง CEA ซึ่งบอกต่อๆกันว่าใช้คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ !!! ถ้าเราเลือกใช้วิธีนี้คัดกรองก็ต้องบอกว่าผิด เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อติดตามการรักษามะเร็งหลังจากผ่าตัดหรือให้ยาไปแล้วว่ามีโอกาสเกิดซ้ำมากน้อยเพียงใด ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อคัดกรองมะเร็ง
เวลาตรวจพบว่าสูง จึงไม่สามารถแปลผลได้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เวลาตรวจพบว่าไม่สูง จึงไม่สามารถแปลผลได้ว่าไม่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เรียกว่า ไม่มีความไว ไม่มีความจำเพาะ ในการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่เอาเสียเลย การตรวจจึงไม่มีประโยชน์มากนัก นอกเหนือจากนี้เมื่อตรวจออกมาแล้ว เมื่อไม่แน่ใจแปลผลไม่ได้ก็จะส่งผลให้มีการตรวจอื่นๆที่ไม่จำเป็นต่อไปๆ มากขึ้นๆ โชคร้ายอาจเกิดผลข้างเคียงจากการตรวจนั้นๆอีกต่างหาก
หลายๆคนก็บอกว่า เนี่ย..ถ้าไม่มาตรวจก็ไม่รู้เลยนะว่าเป็นตับอักเสบ (AST และ ALT ขึ้นสูงกว่าค่าที่กำหนดสักสองเท่า) ก็ต้องบอกว่า การตรวจสุขภาพหลายๆครั้งจะไปตรวจจับความผิดปกติที่ไม่เป็นโรค หากเราไม่ไปตรวจส่วนใหญ่ความผิดปกตินั้นก็ไม่ได้ส่งผลอะไร หายไปเองหรือไม่ได้แปลผลถึงความผิดปกติใดๆเลย
จริงอยู่ หลายๆคนก็อาจจะพบโรคจากความผิดปกติเล็กน้อยพวกนี้ เช่นติดตามไปเรื่อยๆ แล้วพบว่าตับอักเสบที่เกิดเกิดจากโรควิลสัน โรคที่มีทองแดงในเลือดผิดปกติทางพันธุกรรม เพราะว่าการมีตับอักเสบเป็นแค่สิ่งตรวจพบอันหนึ่งของโรค ไม่ใช่อาการหลักหรือผลเลือดที่สำคัญแต่อย่างใด
หมายความว่า เป็นการตรวจพบได้โดยไม่ได้เจตนา คนกลุ่มที่จะเกิดแบบนี้มีไม่มากครับ เรียกว่าน้อยมากก็ได้ การจะมาตรวจทุกๆคนเพื่อหวังผลแบบนี้จึงสิ้นเปลืองและไม่มีประโยชน์
การตรวจที่ไม่เฉพาะเจาะจง มักไม่เกิดประโยชน์ใดๆ (เพราะเราไม่ได้เจตนาตรวจตามข้อบ่งชี้) และแปลผลยากเช่น CBC, liver function test, เอกซเรย์ปอด, คลื่นไฟฟ้าหัวใจ คือ แปลผลอะไรได้ไม่ชัดเจนนั่นเอง ไม่ต่างจากไม่ตรวจเท่าไร
สำหรับคนที่ป่วย มีอาการผิดปกติ หรือเป็นโรค และอันตรายจากการตรวจสุขภาพ ติดตามตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม