09 กุมภาพันธ์ 2562

sparkling water ดื่มได้ไหม

sparkling water ดื่มได้ไหม
จริง ๆ แล้วเคยมีคนแยกนะว่า carbonated water กับ sparkling water มันต่างกัน แต่ผมจำได้ไม่ชัดเจนแล้วว่าต่างกันแบบใด แต่จะสรุปง่าย ๆ ว่าน้ำซ่าพวกนี้คือน้ำที่มีแก๊สอยู่ในตัว
เกือบทั้งหมดจะเกิดจากการอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ อาจจะมีเกลือแร่ แร่ธาตุในน้ำทั้งใส่เองหรือมีอยู่แล้วตามธรรมชาติเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาเจอน้ำ บางส่วนอาจจะมีสภาพกรดอ่อน แต่ส่วนมากจะคืนสภาพเป็นแก๊สเห็นฟองฟู่ ๆ นี่แหละครับ
แล้วจะอัดแก๊สทำไม ...เพื่อให้รู้สึกสดชื่นเท่านั้น ในอดีตการทำน้ำโซดานี่ใช้สารละลายด่าง
และปลอดภัยน้อยกว่านี้ มีมาตั้งแต่ปี 1740 แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองมานี้การทำน้ำโซดาก้าวหน้าและปลอดภัยมาก จนมีเครื่องทำน้ำเปล่าให้สปาร์คลิ่งได้ง่าย ๆ ที่บ้านเลย
เจ้ากรดนี้อันตรายไหม ต้องบอกว่ากรดที่มีนี้มันน้อยมากนะครับ แถมความแรงก็ไม่มาก เรียกว่าเป็นกรดอ่อน pH ประมาณ 4 (ยิ่งน้อยยิ่งเป็นกรดรุนแรง) ส่วนกรดเกลือในกระเพาะเราความแรง pH เท่ากับ 1 นะครับ แถมเมื่อดื่มจะถูกสารบัฟเฟอร์ในร่างกายเราปรับเป็นกลางอยู่ดี ดังนั้นไม่ได้น่ากลัวอะไรนะครับ ที่ดูดซึมเข้าไปคือ น้ำ ส่วนแก๊สนั่นมักจะออกมาทางด้านบนคือการเรอ ด้านล่างคือผายลม ลมในทางเดินอาหารจะไม่ออกผิดที่ไปที่อื่นถ้าร่างกายปกติดี
ที่ว่ากรดจะละลายเหรียญได้ มาอยู่ในกระเพาะเราจะกร่อนไหม... มันละลายไม่ได้หรอกนะครับ อีกอย่างกรดในกระเพาะเราแรงกว่าเยอะ เรายังมีกลไกปกป้องได้เลย ที่เห็นนั้นไม่น่าจะจริง (กรณีที่ว่าคือ น้ำอัดลม คือน้ำอัดแก๊ส ผสมน้ำตาล ผสมกลิ่น)
ตับไตเป็นอันตรายหรือไม่..ยังไม่มีหลักฐานแบบนั้น ส่วนที่พบฟันผุเพราะน้ำอัดแก๊สนั้นผสมน้ำตาลครับ คือ น้ำอัดลม ดื่มมาก ๆ ก็อ้วนจากน้ำตาล
แล้วมีปัญหาใดล่ะ .. แก๊สทำให้ท้องอืดแน่น ไม่สุขสบายครับ คนที่มีปัญหาการเคลื่อนที่ของลำไส้ผิดปกติอาจจะไม่สุขสบาย
ตกลงดื่มได้ไหม..ได้ครับ แต่ไม่ได้จำเป็น น้ำดื่มสะอาดธรรมดาก็พอครับ น้ำอัดแก๊สไม่ได้มีประโยชน์เพิ่มจากปรกติ แต่จะแพงกว่าครับ ส่วนที่แต่งสีแต่งกลิ่นเป็นส่วนเล็กน้อยไม่มีผลอะไร ถ้าแต่งมาก ๆ สีจัด ๆ หวานมาก ๆ มันคือน้ำอัดลมนั่นเองครับ
ดื่มน้ำซ่าแล้วชื่นใจ แชมป์ปีนี้ใส ๆ คือ ลิเวอร์พูล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม