ขนที่อวัยวะเพศ มีไว้ทำไม กำจัดทิ้งดีหรือไม่

ขนที่อวัยวะเพศ มีไว้ทำไม กำจัดทิ้งดีหรือไม่

ขนที่อวัยวะเพศ (pubic hair) ที่หลายคนเรียกว่าหมออ้อยนั้น ผมขอไม่เรียกนะเพราะมีเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันชื่ออ้อย คำศัพท์อย่างเป็นทางการคือ ขนเพชร ในที่นี้เราจะเรียกว่า pubic hair แล้วกัน

pubic hair เป็นขนที่เกิดภายหลังจากการเกิด คล้ายกับขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง และเป็นขนที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ จะเริ่มมีขนขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว และด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนเพศที่ต่างกันรูปแบบการขึ้นของ pubic hair ก็ต่างกัน ในสุภาพบุรุษจะเป็นสามเหลี่ยมมุมชี้ขึ้น ในสุภาพสตรีจะเป็นสามเหลี่ยมมุมชี้ลง ใครอ่าน ดาวินชี่โค้ดของแดน บราวน์ ก็เป็นตามนั้นเลย
เนื่องจากเป็นขนที่เกิดภายหลัง ความหยาบหนาและสีขนจึงไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกับสีผม ยกเว้นใครไปย้อมมา และความหยิกความหนาจะแตกต่างกันตามเชื้อชาติและภูมิภาคในโลก

หน้าที่ของ pubic hair ยังไม่มีใครทราบชัด แต่เชื่อว่ามันมีหน้าที่แน่นอน มนุษย์ผ่านวิวัฒนาการมาเป็นล้านปี pubic hair ก็ยังอยู่คู่มนุษยชาติมาตลอด ความเชื่อที่ยอมรับกันมากคือเอาไว้ลดแรงเสียดสี แรงกระแทก ได้แก่เวลาเดินและเวลาผสมพันธุ์นั่นแหละ หลาย ๆ ความเชื่อก็บอกว่าเอาไว้ป้องกันเชื้อโรค แต่ว่ามีคนแย้งเยอะเลย เพราะมันก็เป็นแหล่งสะสมความอับชื้น ทำให้เกิดผดผื่น ตุ่มรูขุมขนอักเสบได้บ่อย ๆ อับชื้นก็ตามมาด้วยเชื้อรา และเป็นที่อยู่อาศัยของ pubic lice หรือตัวโลนอีกด้วย

หลาย ๆ ที่ในโลกมีวัฒนธรรมการโกน pubic hair ออกด้วยเหตุผลรักษาความสะอาด แต่ในปัจจุบันการโกน pubic hair มีได้ด้วยเหตุผลนั้นอย่างเดียว มีอิทธิพลจากหนังผู้ใหญ่ และความเชื่อต่าง ๆ มากมาย (ผมนี่ต้องลงทุนศึกษาเลยนะเนี่ย)

จากการศึกษาตามที่ยกมาด้านล่างนะครับ ในการศึกษานั้นพบว่าสุภาพสตรีประมาณ 80% และสุภาพบุรุษประมาณ 70% เคยตัดแต่ง pubic hair และในกลุ่มนี้ส่วนมากเป็นวัย 18-55 ปี ลักษณะการตัดแต่งมีทั้งโกนเรียบ เกลี่ยเป็นทรง ส่วนมากจะทำเองมากกว่าเข้าร้าน อุปกรณ์ที่นิยมใช้ที่สุดคือมีดโกน
เหตุผลหลักคือเชื่อว่าสะอาดสะอ้านกว่า ดูแลรักษาได้ง่าย รองลงมาคือคิดว่าจะทำให้มีความสุขทางเพศและคู่นอนพึงพอใจ รองลงมาคือคู่นอนต้องการ ส่วนเหตุผลทางการแพทย์นั้นพบไม่มาก
อัตราการบาดเจ็บจากการโกน การแสบร้อน แผลไหม้เสียดสี และตุ่มรูขุมขนอักเสบนั่น พบมากกว่าในกลุ่มที่ตัดแต่งอย่างชัดเจน และวิธีที่ปลอดภัยคือการใช้เครื่องเล็มไฟฟ้าหรือการแว๊กซ์ขน

ความพึงพอใจในชีวิตเพศนั้นไม่แตกต่างกันระหว่าตัดแต่งกับไม่ได้ทำ เป็นความเชื่อจากหนังผู้ใหญ่เสียมาก (เฮ้อ..ต้องลงทุนศึกษาด้วยตัวเองอีกล่ะ) และพบว่าผู้ที่นิยมตัดแต่งมักจะเป็นหญิงมากกว่าชายด้วยซ้ำ และอีกเหตุผลหนึ่งคือความงามเวลาใส่บีกีนี่ด้วย (อันนี้เดี๋ยวต้องลงทุนไปศึกษาในหน้าร้อนนี้)

ส่วนการติดเชื้อนั้น พบว่าการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่เป็นรอยโรคที่ผิวหนังเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ตัดแต่ง โกนเกลี้ยงเกลายิ่งมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น เช่น โรคเริม โรคหูด ยกเว้นติดเชื้อโลนจะลดลง แหงล่ะ ไม่มีป่าให้อยู่อาศัยแล้วนี่ แต่อัตราการติดเชื้อไม่ได้สูงตามอัตราการตัดแต่งที่เพิ่มขึ้นนะครับ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเหตุผลกันชัดเจน

เป็นเรื่องของความพอใจส่วนบุคคลและคู่นอนมากกว่า ใครจะชอบแบบเกลี้ยง แบบฟูฟ่อง แบบเดร็ดล็อก แบบสลวยสวยเก๋ ก็ไม่ว่ากัน ส่วนการรักษาความสะอาดก็คงทำเหมือนกันไม่ว่าหญิงหรือชายครับ เพื่ออนามัยที่ดีครับ

ผมว่าแล้ว ก้มดูกันทุกคนเลย อ้าว ๆ ๆ มีชำเลืองมองคนข้าง ๆ อีกนะ

ที่มา
1.Rowen TS, Gaither TW, Awad MA, Osterberg EC, Shindel AW, Breyer BN. Pubic Hair Grooming Prevalence and Motivation Among Women in the United States. JAMA Dermatol. 2016;152(10):1106–1113. doi:10.1001/jamadermatol.2016.2154

2.Truesdale MD, Osterberg EC, Gaither TW, et al. Prevalence of Pubic Hair Grooming–Related Injuries and Identification of High-Risk Individuals in the United States. JAMA Dermatol. 2017;153(11):1114–1121. doi:10.1001/jamadermatol.2017.2815

3.Osterberg EC, Gaither TW, Awad MA, et alCorrelation between pubic hair grooming and STIs: results from a nationally representative probability sampleSex Transm Infect 2017;93:162-166.

4.https://en.m.wikipedia.org/wiki/Pubic_hair