01 กรกฎาคม 2560

โกโบริ fat emboliam

เช้ามืดของวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2487 หลังจากที่เมื่อคืนมีการทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วงที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย
ปัง ปัง ปัง...ลุงหมอๆๆ ลุงหมออยู่ไหม ที่หนูเอง อังศุมาลิน ลุงหมอๆตื่นๆๆๆๆ
ลุงหมอ ชายชราที่มาเช่าบ้านริมคลองของอังศุมาลิน อดีตอายุรแพทย์เกษียณมาขายขนมต้มที่ริมคลองบางกอกน้อย ทุกเช้าจะพายเรือขายขนมต้ม ฝีมือการทำขนมเป็นที่เลื่องลือ แต่ในปีนี้สงครามรุนแรงมาก ลุงหมอเริ่มกำไรน้อยลงเพราะออกมาพายไม่สะดวก ระเบิดลงประจำ จึงหันมาขายส่งและขยายแฟรนไชส์ในกองทัพญี่ปุ่นแทน ไม่ต้องออกมาพายเรือเอง
ลุงหมอเปิดประตูออกมา ยังไม่ทันพูดอะไร อังศุมาลินก็พร่างพรูออกมา "ลุงหมอคะ เมื่อคืนมีการทิ้งระเบิดที่สถานีรถไฟค่ะ โกโบริออกไปตั้งแต่สองทุ่ม ตอนนี้ยังไม่กลับเลย กลัวจะมีอันตราย ลุงหมอไปตามหาพี่ริกับอังหน่อยนะคะ"
..เอ้า..ไปก็ไป ลุงหมอหยิบกระเป๋าปฐมพยาบาล คว้าแว่นตา และวิ่งตามอังไป...
ที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย เศษซากปรักหักพังของสถานีกระจัดกระจาย เสียงร้องระงมทั้งเสียงญี่ปุ่น เสียงภาษาอังกฤษของเชลยศึก และเสียงคนไทย กองทัพและเสนารักษ์ญี่ปุ่นกำลังทำงานวุ่นทั้งเก็บร่างผู้เสียชีวิตและให้การรักษานายทหารที่เจ็บ อังศุมาลินกับลุงหมอวิ่งหาโกโบริตามเต๊นท์พยาบาล แต่ไม่พบ ทั้งคู่เริ่มท้อ อังศุมาลินหน้าเศร้า ...แต่...ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกน
"คุณอังๆ ผมเห็นนายช่างโกโบริอยู่ทางนั้น" เสียงไอ้หนุ่มวินเรือพายรับจ้าง ตัวเล็กๆขอบตาคล้ำๆ ตะโกนบอก
"ไปค่ะลุงหมอ" อังศุมาลินวิ่งอย่างรวดเร็ว ลุงหมอก็เร่งฝีเท้าตามไปติดๆตรงไปที่อาคารควบคุมการเดินรถ
ที่นั่น ..โกโบรินอนหงายขยับไม่ได้ ขาทั้งสองข้างบวม เห็นชัดว่าขาหักผิดรูปแต่ไม่มีแผลภายนอก อังศุมาลินและลุงหมอรีบวิ่งเข้าไปช่วย สภาพตอนนั้นโกโบริหายใจหอบ มีรอยจุดเลือดออกเล็กๆเต็มหน้าอก
อังศุมาลินหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเลือด แต่ทว่า...ไม่มีเลือด เธอเรียก ..ลุงหมอคะ จุดๆเต็มไปหมดเลย แต่ไม่ใช่เลือดนี่คะ กดๆก็ไม่จาง
ลุงหมอกำลังง่วนอยู่กับการตรวจบาดแผลภายนอก ไม่มีแผล มีแต่กระดูกหักที่ขาทั้งสองข้างทำให้โกโบริยืนไม่ได้ ดูจากรอยที่ถัดตัวออกมา ไม่ต่ำกว่า 50 เมตร ...ลุงหมอนึกในใจ ..ไม่มีแผลกระแทกอะไร แต่ทำไมหอบมากมายขนาดนี้
อังศุมาลินประคองศีรษะโกโบริหนุนบนตักของเธอ ตระคองกอด น้ำตาไหลไม่หยุด โกโบริของเธอหอบมาก เธอหันไปหาลุงหมอ...ลุงหมอ โกโบริหอบมากเลยค่ะ..ลุงหมอหน้าเครียด ผงะถอยออกมา ....กระดูกหักแบบนี้ หอบแบบนี้ จุดเลือดออกแบบนี้...
โกโบริลืมตา..เห็นอังศุมาลิน น้ำตาก็ไหล บอกว่า "ฮิเดโกะของพี่ ท่ามกลางดวงดาวพร่างพราย หมู่มวลหิ่งห้อยร้อยเรียงเคียงสมร แต่ดวงใจที่แม้นจะขาดรอน สัมผัสเจ้าอุ่นร้อนมิเลือนราง" อังศุมาลินได้ยินก็นึกว่าโกโบริได้สติ
แต่ทว่า..ลุงหมอกลับคิดอีกอย่าง..แย่แล้วโกโบริเพ้อ สับสน แบบนี้แสดงว่า...
"ฮิเดโกะ..ดูสิ ดูนั่น " โกโบริชี้ไปที่ท้องฟ้ายามเช้า "พี่..พี่..จะไปรอเจ้า ที่ทางช้างเผือก"
ไอ้หนุ่มวินเรือพายวิ่งตามมา ถามว่า "อ้าว ลุงหมอ ทำไมยืนเฉยๆล่ะ ไม่เข้าไปช่วยนายช่าง"
ลุงหมอจับไหล่ ชายหนุ่มขอบตาคล้ำคนนั้นบอกว่า ..ช่วยไม่ทันแล้วล่ะ หนุ่มเอ้ย..นายช่างถูกแท่งเหล็กทับกระดูกต้นขาหักสองท่อน แม้ไม่มีแผลเลือดออกมา ร่างกายส่วนอื่นปกติ แต่ตอนนี้กำลังแย่มาก...
วินเรือพายตาคล้ำ..งง "ยังไงลุงหมอ" ลุงหมอตอบ คือคนที่กระดูกท่อนใหญ่ๆหักเนี่ย เม็ดไขมันและไขกระดูกมันจะหลุดเข้ากระแสเลือด ลอยไปอุดตามที่ต่างๆ ยิ่งหักมาสัก 12-24 ชั่วโมง ไม่ได้รับการรักษายึดตรึงให้เหมาะสม แถมนายช่างยังคลานมาถึงนี่ จุดหักขยับมากเลยโอกาสไขมันหลุดไปอุดตามตัวมากมาย
ลุงหมอเล่าต่อ..โน่น จุดเลือดออกที่เรียกว่า petechiae ออกใต้ผิวหนังทั่วไป หายใจหอบทางภาษาแพทย์เขาเรียกหายใจล้มเหลว ARDS และเริ่มมีอาการทางสมอง สับสน เนี่ยเห็นทางช้างเผือกกลางวันแสกๆเลย
ครบสามเกณฑ์หลักของ Gurd's and Wilson's criteria เลยล่ะ
สักพัก..โกโบริก็แน่นิ่งไป อังศุมาลินกลืนน้ำตา นิ่ง ทั้งคู่สงบราวกับรูปปั้น ลุงหมอกับหนุ่มวินเข้าไปปลอบอังศุมาลิน และช่วยกันลำเลียงร่างไร้วิญญาณของโกโบริ นายทหารผู้กล้าแห่งกองทัพอาทิตย์อุทัย ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านของอังศุมาลิน
ตกเย็นวันนั้น ลุงหมอได้บันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น ประสบการณ์การรักษา การเห็นของจริงในสนามรบในสมุดบันทึกปกหนัง ที่บันทึกเรื่องราวต่างๆอันแสนตื่นตาตื่นใจเอาไว้ตลอด ลุงหมอหวังว่าวันหนึ่งลูกศิษย์ลูกหาจะได้เอาข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์
เจ็ดสิบปีผ่านไป บันทึกปกหนังถูกส่งต่อมารุ่นต่อรุ่น ขุมความรู้มหาศาลที่รอคนมาเผยแพร่ ...และตอนนี้มันอยู่ในมือชายชราหน้าหนุ่มคนหนึ่ง ผู้ใช้นามว่า..ชะล้อ ฮวง..เขากลับมาแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม