วัดไข้ ทำเองก็ได้ง่ายจัง
อุณหภูมิกาย ถือเป็นหนึ่งในสี่สัญญาณชีพที่สำคัญของมนุษย์ การที่มีอุณหภูมิกายเปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายมากมาย และในทำนองเดียวกันร่างกายจึงพยายามรักษาอุณหภูมิกายให้คงที่ที่สุด ตามธรรมชาติของสัตว์เลือดอุ่น
เวลาที่คุณหมอเฝ้าสังเกตอาการไข้ เราไม่ใช้การเอาหลังมือแปะหน้าผากนะครับ เพราะว่าการวัดโดยวิธีนี้ไม่เที่ยงตรง แต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เราก็จะทำเสมอด้วยเหตุผลสองอย่าง อย่างแรกยืนยันว่าอุณหภูมิสูงจริง อย่างที่สองคือให้ "คนไข้" ได้สัมผัสถึงความห่วงใยของเรา
เวลาที่คุณหมอเฝ้าสังเกตอาการไข้ เราไม่ใช้การเอาหลังมือแปะหน้าผากนะครับ เพราะว่าการวัดโดยวิธีนี้ไม่เที่ยงตรง แต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เราก็จะทำเสมอด้วยเหตุผลสองอย่าง อย่างแรกยืนยันว่าอุณหภูมิสูงจริง อย่างที่สองคือให้ "คนไข้" ได้สัมผัสถึงความห่วงใยของเรา
การวัดอุณหภูมิกายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และถ้าสามารถทำที่บ้านก็ใช้เป็นการติดตามที่ดี บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมีอาการแค่ครั่นเนื้อตัว เรารู้สึกเหมือนมีไข้แต่อุณหภูมิไม่สูง ไข้ลดหรือไม่ลด ลองจับตัวเราเองเรายังบอกยากเลย ดังนั้น ไปซื้อเทอร์โมมิเตอร์มาวัดอันละไม่กี่บาท
ชนิดที่แม่นๆอ่านง่าย จะเป็นแบบใช้แสงอินฟราเรดวัดจากรูหู จริงๆคือเล็งเป้าจากเยื่อแก้วหู ถ้าวัดที่ผิวจะไม่แม่นเท่าในหู รองลงมาคือชนิดปรอทในหลอดแก้ว อดีตเราก็เรียกว่าปรอทวัดไข้นี่แหละครับ อย่างสุดท้ายแม่นยำพอๆกันแต่ต้องใช้ให้เป็นคือแบบดิจิตอล อันนี้ถ้าสูงก็จะจริงแต่ถ้าวัดออกมาต่ำต้องระวังความผิดพลาดอันเนื่องมาจากข้อจำกัดในการวัดนะครับ
ส่วนชนิดทาบผิวหนัง..เลิกใช้นะครับ มันบอกอุณหภูมิผิวหนังไม่ใช่อุณหภูมิกาย
ชนิดที่แม่นๆอ่านง่าย จะเป็นแบบใช้แสงอินฟราเรดวัดจากรูหู จริงๆคือเล็งเป้าจากเยื่อแก้วหู ถ้าวัดที่ผิวจะไม่แม่นเท่าในหู รองลงมาคือชนิดปรอทในหลอดแก้ว อดีตเราก็เรียกว่าปรอทวัดไข้นี่แหละครับ อย่างสุดท้ายแม่นยำพอๆกันแต่ต้องใช้ให้เป็นคือแบบดิจิตอล อันนี้ถ้าสูงก็จะจริงแต่ถ้าวัดออกมาต่ำต้องระวังความผิดพลาดอันเนื่องมาจากข้อจำกัดในการวัดนะครับ
ส่วนชนิดทาบผิวหนัง..เลิกใช้นะครับ มันบอกอุณหภูมิผิวหนังไม่ใช่อุณหภูมิกาย
เราจะมาพูดถึงแบบราคาถูกใช้ง่ายนะครับ คือแบบปรอททั้งปรอทจริงและดิจิตอล ถ้าเป็นปรอทจริงเราต้องสะบัดให้เนื้อปรอทตกไปรวมกันอยู่ที่กระเปาะด้านล่าง สะบัดแรงๆระวังแตกนะครับ ส่วนแบบดิจิตอลให้กดปุ่มเพื่อกลับสู่ค่าปกติก่อน
เราจะเลือกวัดได้สองตำแหน่งนะครับ คือที่รักแร้และอมใต้ลิ้น ส่วนที่ก้นจะแนะนำให้เทอร์โมมิเตอร์ที่ออกแบบมาพิเศษและแนะนำใช้กับเด็กเท่านั้นครับ
การวัดที่รูหูและอมใต้ลิ้นจะมีความใกล้เคียงอุณหภูมิกายมากที่สุด ส่วนการวัดจากทางรักแร้มักจะต่ำกว่าอุณหภูมิกายประมาณ 0.3-0.5 องศาเซลเซียสนะครับ
เราจะเลือกวัดได้สองตำแหน่งนะครับ คือที่รักแร้และอมใต้ลิ้น ส่วนที่ก้นจะแนะนำให้เทอร์โมมิเตอร์ที่ออกแบบมาพิเศษและแนะนำใช้กับเด็กเท่านั้นครับ
การวัดที่รูหูและอมใต้ลิ้นจะมีความใกล้เคียงอุณหภูมิกายมากที่สุด ส่วนการวัดจากทางรักแร้มักจะต่ำกว่าอุณหภูมิกายประมาณ 0.3-0.5 องศาเซลเซียสนะครับ
เวลาที่ใช้ในการวัดก็สามถึงห้านาที ให้ปรอทได้ขยายตัวเต็มที่หรือถ้าใช้แบบดิจิตอลจะมีเสียง ติ๊ดๆๆมบอกว่าครบเวลาแล้ว ความสำคัญของการวัดคือ probe หรือหัววัดต้องแนบชิดกับผิวหนังรักแร้หรือใต้ลิ้นตลอดครับ จึงน่าเชื่อถือ
เราก็จะได้ค่าอุณหภูมิกายมาแล้ว บันทึกไว้เลยครับ ดูแนวโน้มจะบอกลักษณะกลุ่มโรคได้พอสมควรครับ
เราก็จะได้ค่าอุณหภูมิกายมาแล้ว บันทึกไว้เลยครับ ดูแนวโน้มจะบอกลักษณะกลุ่มโรคได้พอสมควรครับ
คราวนี้เราก็จะได้ข้อมูลอันจับต้องได้ สามารถแปลความหมายได้มากมาย ถ้าไปพบแพทย์เอาใบบันทึกข้อมูลนี้ไปเลย จดวันเวลา บริเวณที่วัด และค่าที่ได้ เอาไปให้คุณหมอได้เลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น