21 กรกฎาคม 2560

บัวลอย

หลายปีก่อน...
"นี่ตรูจะต้องกินบัวลอยไปอีกนานไหมเนี่ย" เพื่อนชายของหมอหนุ่มถามเสียงเซ็งๆ พร้อมตักบัวลอยเข้าปาก
"เอาน่า..ช่วงทำคะแนน ช่วยๆกันหน่อยเถอะวะ น้องเขาเริ่มคุ้นหน้าแล้ว" หมอหนุ่มกล่าว
..
..
เรื่องราวมันมีอยู่ว่าหมอหนุ่มแห่งอำเภอ เกิดไปติดเนื้อต้องใจเสน่ห์แม่ค้าสาวขายบัวลอยเจ้าอร่อยเข้า ด้วยความที่เธอหน้าตาสดใส ไม่สดสวยแต่ก็พอดี ตั้งใจทำงาน เรียนจบแล้วแต่ว่าแม่ป่วยและกิจการขายบัวลอยที่บ้านก็พอเลี้ยงตัวได้ เธอจึงกลับมารับช่วงต่อจากแม่และเป็นการดูแลแม่ไปในตัวด้วย
หมอหนุ่ม เริ่มจากการไปเป็นลูกค้า ซื้อมาฝากเพื่อน และจนได้รู้จักและเบอร์โทรศัพท์
"ตกลง เย็นนี้จะแลกเวรเพื่อไปช่วยน้องเขาขายบัวลอยเนี่ยะนะ เอาจริงดิเฮ้ย" เพื่อนชายอึ้งเล็กน้อยเมื่อทราบว่าหมอหนุ่มนึกสนุกขนาดนั้น
"ทำไมวะ ทำบัวลอยไม่เห็นจะยากเลย แล้วน้องเขาก็ชวน แม่เขาก็ชอบด้วย" หมอหนุ่มหมายมั่นปั้นมืออย่างแรง
"ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ทุกคนเขาเริ่มสงสัยแล้ว ไอ้ที่แกไปนั่งกินบัวลอยแถมซื้อมาวันละสองถุงทุกวันเนี่ย แกไปจีบแม่ค้า ไม่ได้ชอบกินบัวลอยแต่อย่างใด ยิ่งถ้าไปช่วยขายมันก็ชัดๆ" เพื่อนชายดักคอ
"เอ้า..รู้ก็รู้ดิ ดีออก คู่แข่งได้ไม่เข้ามา ไปล่ะ..ขอบใจมากโว้ย"
..
..หมอหนุ่มก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์คันโปรดไปทำคะแนนต่อไปท่าทางจะสำเร็จ
หลังจากเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของคุณหมอหนุ่มและคุณแม่ค้าคนขยันเริ่มดีขึ้น เริ่มมีการไปกินข้าวที่ตลาด เที่ยวงานบุญปิดทองลูกนิมิต ภาพที่ชาวบ้านเห็นหมอหนุ่มตักบัวลอยขายอยู่ข้างๆแม่ค้าดูช่างน่ารักสดใส ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
กรี๊งง...กรี๊ง... เพื่อนชายหมอหนุ่มโทรมาตอนเช้าตรู่ "เฮ้ย...น้องเขาประสบอุบัติเหตุ อาการหนัก มาที่โรงพยาบาลด่วนเลย"
หมอหนุ่มรีบร้อน ท่อนแขนซ้ายถูกบานพับกระจกบาดเป็นแนวยาว หมอใช้ผ้าพันไว้แล้วรีบบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงหมอหนุ่มเห็นมารดาของแม่ค้าคนงาม นั่งซึมอยู่ด้านหน้า
"เข้าไปดูเองเถอะลูก แม่...แม่..."
จากความที่เป็นแพทย์ หมอหนุ่มทราบดีว่าอาการของแม่ค้าบัวลอยไม่เบาเลย เครื่องช่วยหายใจที่ติดตั้งอยู่เป็นแบบเดิม การหายใจไม่เข้ากับเครื่อง สายน้ำเกลือระโยงระยาง ผ้าพันแผลมีสีแดงซึมๆ เธอไม่ได้สติแต่อย่างใด
หมอหนุ่มเข้าไปคุยกับคุณหมอ ได้ความว่า เธออาการหนัก ต้องเข้าไอซียูแต่ตอนนี้เตียงเต็ม เครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่ตอนนี้พอช่วยได้ หมอหนุ่มฝากฝังเธอกับคุณหมอ และเดินไปหาคุณแม่
"ผมจะช่วยเต็มที่ครับ อย่าเพิ่งหมดหวัง" หมอหนุ่มกุมมือมารดาผู้สิ้นหวัง
"หมอเขาบอกว่า อยากให้ได้ไอซียู เขาจะติดต่อให้บ่อยๆ" คุณแม่รำพึง
หมอหนุ่มโทรหาเพื่อนชาย เพราะเขารู้จักกับหมอที่ดูแลไอซียูตอนนี้ "ว่าไง พอมีทางย้ายเข้าไหม"
"ไม่ได้เลย เฮ้อ...ย้ายออกยาก เตียงก็น้อย ไม่เข้าใจเหมือนกันบางรายก็ดีขึ้นมากแล้ว บางรายก็เส้นใหญ่ ย้ายออกไม่ได้ แกรอหน่อยนะ ตรูจะช่วยเต็มที่" เพื่อนชายรับปาก
สามวันต่อมา แม่ค้าขายบัวลอยก็ไม่สามารถทนอาการบาดเจ็บและอวัยวะล้มเหลวได้ หมอหนุ่มรู้สึกก้อนอะไรบางอย่างที่มาจุกที่คอ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ทำไม ทำไม ??
..
..
เวลาผ่านไปหลายปี
"คุณลุงอาการดีแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยพอจะอยู่ข้างนอกแล้ว ผมให้คุณลุงไปพักฟื้นที่หอผู้ป่วยปกตินะครับ จะได้ไม่ติดเชื้อ สบายขึ้น และ คนที่รอโอกาสก็จะได้มาใช้บริการต่อไป" คุณหมอกล่าวเสียงสดใส
"ดีเลยครับหมอ ขอบคุณครับ" คุณลุงดีขึ้นจากอาการหลอดลมอุดกั้นกำเริบ ไหว้คุณหมออย่างซึ้งใจ
...หมอคะ ญาติคนไข้ที่คุณหมอเพิ่งย้ายเข้ามาขอปรึกษาด้วยค่ะ..คุณพยาบาลแจ้งให้หมอทราบ "ได้ครับ ผมไปเดี๋ยวนี้แหละ" แม้คุณพยาบาลจะยุ่งทั้งวันเพราะต้องรักษาตลอดและย้ายเข้าย้ายออกตลอด แต่ทุกคนก็เข้าใจในปรัชญาของการดูแลคนไข้วิกฤต ต้องรักษาให้พ้นวิกฤตอย่างปลอดภัย และส่งออกไปดูแลที่หอผู้ป่วยสามัญโดยเร็วเพื่อให้โอกาสกับผู้ป่วยที่รอการรักษาอยู่ด้านนอก
หลังจากคุยกับญาติเรื่องอาการและแผนการรักษา ลูกชายตัวน้อยของคนไข้ถามหมอว่า "คุณหมอครับ คุณพ่อมาอยู่ที่นี่แล้วจะได้กลับบ้านเร็วขึ้นไหมครับ"
คุณหมอผู้ชรายิ้ม เอื้อมมือไปจับมือเด็กน้อย ท่อนแขนซ้ายคุณหมอเป็นรอยแผลเป็นแนวยาว คุณหมอมองรอยแผลแห่งความทรงจำนั้น แล้วตอบว่า
..
..มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้วลูก ลุงหมอจะรีบรักษาให้คุณพ่อหนูกลับบ้านให้เร็วที่สุดเลย...คำพูดตอบที่อบอุ่นและจริงจังอย่างมากของลุงหมอ ลุงหมอเดินไปที่เตียงคนไข้รับใหม่ ขยับแว่น ถอนหายใจแรงๆ เอ้า เต็มที่ โอกาสของคนไข้อาจมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต
"เป็นนิยายที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง เมื่อหลายปีก่อน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม