07 กันยายน 2560

ลมพิษ ตอนที่สอง (ตด)

ลมพิษ ตอนที่สอง
ลมพิษแบบนี้ ไม่ได้เป็นพิษต่อตัวเองแต่เป็นพิษต่อคนอื่นครับ คือ fart หรือ ตอ-โอะ-ดอ "ตด"
ตด คือ แก๊สที่เกิดในลำไส้หรือมีฐานที่อยู่ในลำไส้ของเรา แก๊สนั้นมาจากไหน หลักๆก็มาจากสองทางคือ จากลมทางปากเข้ามา การพูด การกิน การไอ การหายใจ ส่วนหนึ่งก็จะเข้ามาสู่ทางเดินอาหารสู่ลำไส้ แม้บางส่วนจะถูดดูดซึมได้ แต่ถ้ามากเกินก็ลงลึกไปถึงลำไส้ ก่อเกิดเป็น ลมตด
อีกทางคือเกิดจากการหมักของแบคทีเรียในลำไส้ ร่างกายมนุษย์มีแบคทีเรียในลำไส้เป็นสิ่งปกตินะครับ อาหารบางอย่างเราก็ย่อยไม่ได้ ย่อยไม่หมด คุณแบคทีเรียก็จะย่อยให้เรา เขาเองก็ได้อาหาร เราก็ได้ผลผลิตเช่นวิตามิน น้ำ กลูโคส ไขมัน และ แก๊ส เช่นกันส่วนนี้ก็ก่อเกิดเป็น ลมตด
แล้วแก๊สที่เกิด มันคือแก๊สอะไร ส่วนมากก็ไฮโดรเจน ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ มีแก๊สมีเธนบ้าง ตามสมบัติของแก๊สแล้วสามารถติดไฟได้ แต่ผมก็ยังไม่เคยได้ยินข่าวใครตดลุกเป็นไฟ ..อันนี้คิดเองนะครับเพราะความเข้มข้นน้อยมาก และ ไม่มีประกายไฟที่ก้น เลยไม่มีการเผาไหม้เกิดขึ้น
ในกรณีกินอาหารต่างๆก็อาจเกิดแก๊สได้ต่างกัน กลิ่นก็จะอยู่ที่ตรงนี้นะครับ และก็จะเป็นกลิ่นหรือแก๊สที่ผลิตออกมาจากก้อนอุจจาระ อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ นม จะสร้างแก๊สมีเธนได้ และอาจมีไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่กลิ่นเหม็นมากๆได้ เช่นกะหล่ำปลี และไข่
อาหารพวกไฟเบอร์ มันฝรั่ง โฮลเกรน ธัญพืช อาหารพวกนี้ต้องอาศัยแบคทีเรียย่อย แน่นอน ก็จะได้ตดที่มากทั้งปริมาตรและคุณภาพกลิ่น ต่อไปใครทำวิจัยอาหารไฟเบอร์ นี่อาจเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ได้
แต่ว่ากลิ่นไม่ได้บ่งชี้ว่า ไส้เน่า เป็นมะเร็งแต่อย่างใด มันขึ้นอยู่กับแบคทีเรีย อาหารที่กิน และความสามารถในการย่อยอาหารครับ มันแค่สารเคมีสารหนึ่งในรูปแก๊สที่มีกลิ่น
เสียงและความรุนแรง แน่นอนว่าขึ้นกับปริมาณแก๊ส ถ้าคุณมีแก๊สมากเช่นกินอาหารข้างต้น พูดมากเวลากิน ดื่มน้ำอัดแก๊สต่างๆ แน่นอนแก๊สก็จะเพิ่ม และถ้าหูรูดทวารหนักคุณเปิดเร็วปานสายฟ้าแลบ ลมพากันพร่างพรูออกมาในชั่วเสี้ยววินาที ก็จะเกิดเสียงครับ และถ้าทางเดินลมถูกขวางกั้นก็อาจมีเครื่องขยายเสียงได้ เช่น น้ำหนักของก้นที่ชิดกันมาก จะเกิดการสั่นและเสียงได้เวลาลมตดเคลื่อนที่ผ่านครับ เสียงดังไม่ได้บ่งชี้ว่าผิดปกติเช่นกัน
แต่ถ้าไม่ตดเลย..อันนี้ต้องระมัดระวังว่าลำไส้อาจไม่ขยับหรือมีการอุดตันเกิดขึ้น แต่บางทีตดก็ออกมาโดยเราไม่รู้ตัวได้บังคับไม่ได้เช่นหลับ หรือเล่นกีฬา ก็ต้องนับว่ามีการตดเกิดขึ้นครับ หรือถ้าตดมากเกินก็ต้องคิดถึงการผลิตแก๊สมากเกิน เช่นท้องอืด แบคทีเรียในลำไส้มากเกิน คนเราปกติก็สามารถผลิตลมตดได้ประมาณครึ่งลิตรต่อวัน จะเป็นว่า ลมส่วนมากถูกดูดซึมไปเกือบหมดครับ
ลมในไส้ตรง..ชื่อว่า flatus ลมที่ออกจากหูรูด..ชื่อว่า fart วิชาเกี่ยวกับตด..เรียก fartology ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตด...เรียกว่า fartologist ท้องอืด...เรียกว่า flatulance
วิชาเหล่านี้มีการศึกษาและรีวิวนะครับ หาอ่านได้จาก science, nature, biology ส่วน clinical fartology ผมค้นไม่พบเลยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม