09 สิงหาคม 2563

Wood's lamp examination

 Wood กับ อายุรศาสตร์

ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงเวลาที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์โตขึ้นแบบก้าวกระโดด นักวิทยาศาสตร์ลือชื่อในตำนานเกิดและมีชื่อในยุคนี้ นีล โบร์, อัลเบิร์ต ไอนสไตน์, อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง และหลาย ๆ ความรู้ที่เกิดขึ้นได้เข้ามาประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์

จากการศึกษาเรื่องแสงในวิชาฟิสิกส์ ทำให้เราทราบว่ายังมี "แสง" ที่เรามองไม่เห็น คือย่านความถี่แสง ย่านความยาวคลื่นที่เหนือกว่าที่สายตามนุษย์จะเป็นได้ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ อัลตร้าไวโอเลต และ อินฟราเรด แต่การนำแสงดังกล่าวมาใช้ยังเป็นปัญหาเพราะยังไม่มีวิธีกรองเอาแสงที่ต้องการมาใช้

เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของนักฟิสิกส์ระดับท็อปของอเมริกา Robert Williams Wood

คุณวู้ดเกิดและโตที่อเมริกา เข้ารับการศึกษาวิชาฟิสิกส์จากฮาร์เวิร์ดและ MIT ใช่แล้ว MIT ที่โด่งดังเรื่องเทคโนโลยีนั่นแหละ หลังจากนั้นไปหาประสบการณ์การทำงานที่เยอรมัน ตอนนั้นวิชาแสงได้รับความสนใจมาก เมื่อวู้ดกลับมาที่อเมริกา เข้ามาทำงานที่จอห์น ฮอปสกินส์ ที่นี่เขาได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ขึ้นมาคือ optical filter glass

เป็นฟิลเตอร์ที่สามารถกรองแสงให้เหลือเพียงแสงอัลตราไวโลเลตหรืออินฟราเรดเท่านั้นให้ลอดออกมา ด้วยเครื่องมือนี้ทำให้วูดได้ค้นพบหลายสิ่งที่ตามนุษย์มองไม่เห็น โดยเฉพาะวัตถุที่เรืองแสงอัลตร้าไวโอเลต ยามอยู่ในที่มืด อย่างที่เราเคยเข้าไปเล่นในห้องมืดแล้วมีแสงเรืองออกจากตัว หรือเสื้อผ้า วูดใช้ถ่ายภาพรังสีอัลตร้าไวโอเลต และมีแนวคิดจะใช้เพื่อส่งจดหมายล่องหนที่ต้องใช้แสงอัลตร้าไวโลเลตในการมองเท่านั้น เพื่อใช้ในการสงคราม

แถมยังคิดหลอดไฟที่เคลือบฟิลเตอร์เพื่อผลิตแสง UV เอามาใช้ในงานต่าง ๆ ที่เราเรียกว่า หลอดแบล็กไลท์ ก็คือ หลอดไส้ หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดแอลอีดีที่เคลือบสารฟิลเตอร์ ส่งออกมาแต่ UV ทำให้เกิดการใช้งานแสง UV กันอย่างแพร่หลาย

เราจึงเรียกแสงอัลตร้าไวโอเลตว่า Wood's Light และเรียกอุปกรณ์ส่องแสงอัลตร้าไวโอเลตนี้ว่า Wood's Lamp

Wood's Lamp นำมาใช้ทางการแพทย์หลายอย่าง เพื่อช่วยวินิจฉัยโรคที่ใช้ตามนุษย์มองไม่เห็น

การวินิจฉัยโรคติดเชื้อราที่หนังศีรษะและเส้นผม

การวินิจฉัยโรคเมตาบอลิซึมของร่างกายที่ผิดปกติ Porphyria Cutaneous Tarda จะส่องเห็นสาร porphyria ที่มาสะสมที่ผิวหนัง

โรคของเม็ดสีที่ผิดปกติ เช่น vitiligo, melasma (บางเม็ดสีก็ไม่สามารถเห็นด้วยตามนุษย์)

วินิจฉัย erytherasma จากการติดเชื้อ corynbacteria ที่ผิวหนัง

ส่องหาสารเรืองแสงในปัสสาวะ หากสงสัยว่ากินสาร ethylene glycol ที่จะผสมสารเรืองแสงเอาไว้ในการตรวจหาพิษจากสารชนิดนี้

สีและภาพใต้แสง UV จะไม่เหมือนกับแสงขาวที่เรามองเห็นด้วยตา และคุณหมอที่ใช้แสง UV จะต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องดวงตาเวลาใช้อุปกรณ์ เพราะแสง UV ไม่เห็นด้วยตาเปล่า จึงอาจสัมผัสแสงเกินขนาดได้

เราจึงท่องสูตรการวินิจฉัยการติดเชื้อกลากที่ศีรษะ ว่าวินิจฉัยโดยการใช้ Wood's lamp examination ซึ่งก็คือการส่องเชื้อราที่ตาเปล่ามองไม่เห็นด้วยแสง UV นั่นเอง

ดังคำคมอมตะที่ว่า
"บางสิ่งมองเห็นด้วยดวงตา แต่เสน่หาจะมองเห็นด้วยดวงใจ"
คำคมจากลุงหมอ นายกสมาคมมุกเสี่ยว

ในภาพอาจจะมี 4 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม