07 กรกฎาคม 2561

การหาน้ำสะอาดมาดื่มเป็นสิ่งสำคัญ

หากเราต้องติดอยู่ในป่า การหาน้ำสะอาดมาดื่มเป็นสิ่งสำคัญ
น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติก็จะยังมีเชื้อโรคและฝุ่น จุลินทรีย์ปนเปื้อน ยังไม่ปลอดภัยนักที่จะดื่มได้ การทำให้น้ำสะอาดจะสามารถลดโอกาสการติดเชื้อลงได้ระดับหนึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ปลอดเชื้อแต่ก็ปลอดภัยพอ หลักการสำคัญคือ
1.แหล่งน้ำที่นำมานั้นถ้ามีโอกาสเลือกน้ำไหลใสสะอาดจะดีกว่าน้ำเน่าขังแน่ๆ
2.ทำให้น้ำที่ได้มานั้นใสพอ ไม่มีฝุ่นตะกอน ฝุ่นตะกอนจะเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคและการฆ่าเชื้อในข้อสามจะมีประสิทธิภาพลดลงในน้ำขุ่น
3.ทำให้น้ำที่ใสแล้วนั้น มีจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายลดลง
ในกรณีที่เราคาดการณ์ไว้เผื่อจะเกิดปัญหา หลายคนพกไส้กรองหรือผ้ากรองถ่านชาร์โคลไปด้วย ก็สามารถกรองฝุ่นตะกอนและกรองกลิ่นได้ดี แต่ในกรณีที่ไม่มีสามารถใช้ผ้ากรองได้เช่นกันครับ แน่นอนกรองแบคทีเรียไม่ได้แน่ๆ แต่ฝุ่นอันเป็นที่อยู่เชื้อโรคจะถูกกรองไปแล้ว
หรือใครเตรียมตัวหาเครื่องกรองพกพาที่เป็นหลอดฝอยเล็กๆขนาด 0.1 ไมครอน (เชื้อแบคทีเรียเฉลี่ย 1 ไมครอน) แต่มีเป็นพันๆหลอดฝอยหลักการเหมือนการฟอกเลือด สามารถดูดได้โดยตรงเข้าปากหรือกรองใส่ภาชนะเก็บได้เลย
เมื่อเราได้น้ำที่ใสๆมาแล้วก็มาทำการฆ่าเชื้อ เช่นกันในกรณีที่เตรียมไป บางคนจะมีสารทำให้น้ำสะอาดแบบเป็นหยดหรือแบบเป็นเม็ด ทั้งสองแบบคือสารฆ่าเชื้อที่เป็นไอโอดีน หรือ คลอรีน
มาดูคลอรีนก่อนนะครับ สารคลอรีนเหลวที่ใช้ในการซักล้างหรือน้ำยาซักผ้าขาว โซเดียมไฮโปคลอไรต์ สามารถใช้ได้นะครับยามหน้าสิ่วหน้าขวาน หยดน้ำยาลงไป สองหยด ต่อน้ำดิบที่ใสๆ 1 ควอทหรือประมาณเกือบๆ 1 ลิตร เขย่าให้ทั่วๆแล้วตั้งทิ้งไว้ 20-30 นาที สะอาดพอดื่มได้
ส่วนคลอรีนแบบเม็ดนั้น (halozone) ส่วนมากเป็นเม็ดฟู่สำเร็จรูป ทางกองทัพสหรัฐเป็นผู้ริเริ่มคิดให้ทหารใช้ในสงคราม เพราะเก็บได้นาน สะดวก แต่ว่าเมื่อเปิดแล้วต้องใช้ให้เร็วภายในหนึ่งถึงสองวันก่อนสีและกลิ่นจะเปลี่ยนไป ขนาดเม็ดจะต่างๆกัน แต่ขนาดที่ใช้คือ 4 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร เช่นกันต้องเขย่าและตั้งทิ้งไว้ยี่สิบถึงสามสิบนาที
คลอรีนสามารถกำจัดแบคทีเรียและไวรัสได้ในระดับหนึ่ง ไม่ปลอดเชื้อแต่ปลอดภัยมากขึ้น
ไอโอดีน มีทั้งไอโอดีนแบบเม็ดใช้ฆ่าเชื้อ ขนาด 8มิลลิกรัมใช้หนึ่งเม็ดต่อน้ำหนึ่งลิตร หรือถ้าไม่มีจริงๆ ทิงเจอร์ไอโอดีน ความเข้มข้น 2% ใช้ 8 หยดต่อน้ำหนึ่งลิตรหรือถ้าเป็นโพวิโดนไอโอดีนใส่แผลที่วางขายจะมีขนาดความเข้มข้น10% อันนี้จะใช้แค่ 4 หยดต่อน้ำหนึ่งลิตร
ต้องระวังในคนที่แพ้ไอโอดีนด้วย เหมือนกับคลอรีนคือผสมน้ำแล้วเขย่าเสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้ 20-30 นาทีแล้วจึงนำไปใช้ ไอโอดีนจะทำให้รสชาติน้ำไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าสามารถกำจัดโปรโตซัวบางชนิดที่สำคัญเช่น Giardia lamblia, Entamoeba histolytica
หรือบางคนเตรียมพร้อมกว่านั้น เตรียมกระบอกน้ำที่มีเครื่องยิงรังสีอัลตร้าไวโอเลตตรงก้นกระบอกเพื่อฆ่าเชื้อซึ่งฆ่าเชื้อได้ดี แต่ก็แพงและมีโอกาสแบตหมด ส่วนรังสียูวีธรรมชาติก็ไช้ได้นะครับ อันนี้เอามาจากหนังสือของแบร์ กิลล์ (ที่ทำรายการดำรงชีพในสถานที่ต่างๆในโลก) บอกกว่าขวดน้ำพลาสติกของเรานี่แหละหลังจากที่กรองน้ำจนใสแล้วบรรจุลงไป ผึ่งแดดไว้สามวัน (อย่าลืมว่าแดดไม่ได้มี 24 ชั่วโมง) ก็ฆ่าเชื้อได้ระดับหนึ่งและปลอดภัยพอด้วย การตรวจสอบสารเคมีตกค้างที่กลัวว่ามาจากพลาสติกก็ไม่พบมากจนอันตรายครับ
การต้มน้ำก็ใช้ได้ ในเงื่อนไขที่คุณต้องจุดไฟให้ได้และมีภาชนะที่ทนความร้อยได้ดี ตามปรกติอุณหภูมิที่ 65-80 องศาเซลเซียสก็ฆ่าเชื้อได้มากแล้ว แต่เอาเถอะต้มจนเดือดอย่างน้อยสิบนาที จะฆ่าเชื้อได้ระดับหนึ่งเช่นกัน กำจัดเชื้อโรคและสารพิษต่างๆได้ดี แต่กำจัดโลหะหนักได้ไม่ดี
วิธีสุดท้ายที่ถือกว่าใกล้เคียงปลอดเชื้อมากที่สุด กำจัดกลิ่น สี และโลหะหนัก สารพิษ เรียกว่าได้เกือบหมดเลยคือ วิธีกลั่น หลายๆท่านอาจเคยเรียนในวิชาลูกเสือ ขุดหลุมหนือวางภาชนะเช่นกาละมังใส่น้ำไว้ เอาผ้าพลาสติกขึงปากหลุมหรือปากภาชนะ นำแก้วสะอาดมาวางตรงกลาง วางก้อนหินบนผ้าพลาสติกที่ขึงไว้ เล็งให้ตรงกับแก้วสะอาดด้านล่าง ความร้อนทำให้ไอน้ำระเหยมาควบแน่นที่พลาสติก ไหลมาหยดลงตรงแก้วสะอาด
แต่วิธีนี้ จะได้น้ำน้อยมากและใช้เวลานาน ไม่น่าจะทันกิน
สุดท้ายแล้วถ้าไม่มีเครื่องมือ ไม่มีอุปกรณ์ และร่างกายกำลังขาดน้ำเต็มที่ คำแนะนำคือ ดื่มน้ำไปก่อนให้หายจากการขาดน้ำและไม่ช็อกเสียก่อน ค่อยมาคิดเรื่องติดเชื้อในลำไส้หรือลำไส้อักเสบ เพราะจริงๆแล้วร่างกายเราก็มีกลไกป้องกันดีพอตัวเลยนะครับ การติดเชื้อจากน้ำดิบไม่ได้เกิดง่ายนัก จนตกใจกลัวไม่ยอมดื่มอะไรเลย
ข้อมูลต่างๆนี้ได้จากหนังสือ wilderness medicine, survival guide, เว็บไซต์ต่างๆ ผมอ่านและปะติดปะต่อ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือตามหลักการ ไม่ได้มีไกด์ไลน์ชัดๆ ใครมีข้อแนะนำอะไรเพิ่มมาได้นะครับ ส่วนตัวไม่ได้เป็นขาลุยป่าอยู่แล้ว ป่าเดียวกันยิ่งไม่ลุย
และขอขอบคุณข้อมูลสารเคมีจากแอดมินเพจ เคมีฟิสิกส์ฯ เจ้าพ่อคำผวนด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม