11 กรกฎาคม 2563

Addison's disease

Addison's disease
ก่อนที่เราจะไปต่อกับเจเอฟเค ผมได้พูดถึงเรื่อง Addison's Disease โรคที่มีหลักฐานชัดเจนว่าท่านเจเอฟเคป่วยเป็นโรคนี้
ต้องเริ่มที่ผู้คิดค้นโรคนี้ คือ Thomas Addison คุณหมอชาวอังกฤษ ที่ตอนแรกเข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแพทย์เอดินเบรอะห์ (Edinburgh) เมื่อจบออกมาท่านเลือกจะไปฝึกฝนเป็นศัลยแพทย์ แต่ด้วยความสนใจเรื่องโรคผิวหนัง สุดท้ายก็เปลี่ยนทาง มาศึกษาเรื่องโรคผิวหนังที่โรงพยาบาล Guy อย่างจริงจัง
สมัยก่อนการฝึกฝนแพทย์เฉพาะทางคือการลงแรงไปฝึกเองในสถานที่ที่ผู้ป่วยมาก ๆ สะสมความรู้ และสังเคราะห์ออกมาเป็นตำรา ไม่ได้มีระบบเทรนนิ่งแบบปัจจุบันนะครับ ต้องอาศัยความช่างสังเกต รวบรวมข้อมูลอย่างมาก ไม่มีกูเกิ้ล ไม่มี pubmed ไม่มี 1412 Cardiology
และด้วยความช่างสังเกตนี้คุณหมอแอดดิสัน ได้สังเกตภาวะหนึ่งคือภาวะโลหิตจาง ในปี 1849
คุณหมอบันทึกไว้ว่า มีผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งที่มีภาวะโลหิตจาง มีสิผิวที่ผิดปกติที่คล้ำลง บริเวณองคชาติ ถุงอัณฑะ รักแร้ และประวัติของผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็จะเป็นผู้ป่วยที่ไร้เรี่ยวแรง อ่อนแอ หัวใจผิดปกติ ชีพจรไม่สม่ำเสมอ รวบรวมผู้ป่วยได้ 11 ราย
จริง ๆ น่าจะมากกว่า 11 ราย แต่ที่ว่า 11 รายเพราะมีการผ่าศพศึกษา คุณหมอแอดดิสันบอกว่า ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้มักจะสัมพันธ์กับความผิดปกติที่ ก้อนแคปซูลที่วางบนไต (suprarenal capsule) สมัยก่อนยังไม่ได้ชื่อ adrenal gland หรือต่อมหมวกไต
บันทึกใน London Medical Gazatte ตั้งแต่ปี 1849 หรือ พศ. 2392 ตอนนั้นตรงกับเหตุการณ์ห่าลงปีระกา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
โรคแอดดิสัน คือ ความผิดปกติปฐมภูมิที่ต่อมหมวกไต ทำให้หน้าที่การสร้างฮอร์โมนบกพร่อง สาเหตุมักจะเกิดจากการติดเชื้อหรือผลแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะวัณโรค อีกสาเหตุคือมีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติมาปล่อยภูมิคุ้มกันเพื่อทำลายตัวต่อม ที่เรียกว่า autoimmune adrenalitis ในอดีตนั้น ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมภูมิคุ้มกันจึงมาจ้องทำลายตัวเอง แต่ปัจจุบันเราค้นพบ adrenal cortex autoantibodies ที่น่าจะเป็นสาเหตุและสามารถตรวจวัดได้
และถ้าหากแอนติบอดีไปจับทำลายหลายต่อม มีแอนติบอดีหลายตัว มียีนที่ผิดปกติ เราก็จะเรียกว่า autoimmune polyendocrine syndrome (โดยเฉพาะทำลายต่อมไทรอยด์ของ JFK ด้วยนั่นเอง) มันสามารถแยกออกได้สองประเภท แต่ผมจะไม่ลงลึกนะครับ เอาเป็นว่ามันมีแอนติบอดีที่มาจับทำลายเซลล์ของเราเองก็แล้วกัน
มักการทำลายอวัยวะอื่นที่ไม่ใช่ต่อมไร้ท่อด้วยเช่น ผิวหนัง จะเป็นด่างขาวที่เรียกว่า vitiligo เช่นที่กระเพาะอาหาร จะมีแอนติบอดีไปรบกวนการดูดซึมของวิตามิน B12 ทำให้เกิดโรคซีดที่เรียกว่า pernicious anemia
...อ๊ะ ๆ anemia ซีด .. เหมือนที่แอดดิสันบรรยายเอาไว้เลย เรามาดูคำบรรยายของแอดดิสันเพิ่มอีกสักหน่อย
แอดดิสันบรรยายว่า ภาวะซีดนี้ จะพบลิ้นและเยื่อบุช่องปากเรียบลื่น เป็นสีแดงสด ...ซึ่งมันก็คือลิ้นเลี่ยน glossitis and beefy red tongue ที่พบในโรค pernicious anemia โรคโลหิตจางจากการขาดวิตามิน B12 (ซึ่งเกิดจากมีแอนติบอดีไปขัดขวางการดูดซึม) นั่นเอง
ต่อมาเราจึงเรียก pernicious anemia หรือ B12 deficiency anemia เพื่อให้เกียรติแด่คุณหมอแอดดิสันว่า Addison's anemia และเรียกชื่อโรคความผิดปกติของต่อมหมวกไตปฐมภูมิจากแอนติบอดีนี้ว่า Addison's Disease
ตอนต่อไปเราจะไปจบที่ JFK ล่ะนะ
เรียนเชิญ ต้อง ตรวจ ต่อม มาปรู๊ฟความรู้ด้วยครับ
...เพชรดี มีค่าอนันต์ ดอกบัวขาวนั้น สวยงามจับใจ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม