28 มิถุนายน 2561

ข่าวสั้น canagliflozin ไม่ตัดนิ้ว

ข่าวไม่ค่อยสั้น ทันสมัย ง่ายนิดเดียว
ข่าวจากงานประชุมสมาคมโรคเบาหวานอเมริกาที่เพิ่บจบไป เกี่ยวกับยาเบาหวานที่ดังข้ามปี SGLT2 inhibitor ยาที่ยับยั้งการดูดน้ำตาลจากปัสสาวะ ที่ดังเพราะนอกจากลดน้ำตาลได้ยังแสดงผลลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้ กับยา Empagliflozin ในการศึกษา EMPAREG และแสดงผลเหมือนก้นกับยา Canagliflozin กับการศึกษา CANVAS
นานๆทีจะมีปรากฏการณ์ยาเบาหวานที่ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากขนาดนี้ มากกว่ายาโรคหัวใจบางตัวด้วยซ้ำ
แต่ก็มากับข้อควรระวังในยา Canagliflozin คือเพิ่มโอกาสการต้องถูกตัดเท้าและนิ้วเท้า เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมเกือบสองเท่า ถึงดูว่าสองเท่าแต่ถ้าดูตัวเลขจริงๆก็ไม่ได้มากเท่าไร ประมาณ 6 รายจากปริมาณคนไข้ 1000 รายในหนึ่งปี ถ้าเทียบกับประโยชน์แห่งการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดแล้วถือว่าคุ้มค่า และส่วนใหญ่ๆเลยการถูกตัดเท้าหรือนิ้วจะเกิดกับคนที่เสี่ยงถูกตัดเท้าอยู่แล้ว เช่น เคยถูกตัดมาแล้ว จากการศึกษา CANVAS และผลเสียอันนี้ทำให้องค์การอาหารและยาอเมริกา ออกมาเตือนการใ้ช้ยาตัวนี้ว่าต้องระมัดระวังเรื่องการถูกตัดเท้าและตรวจเท้าเสมอ
มาในปีนี้ จากการศึกษาที่ชื่อว่า OBSERVE-4D เพื่อมาตอบคำถามว่าตกลงยา Canagliflozin นี้เสี่ยงต่อการถูกตัดเท้าจริงไหม เป็นการศึกษาการเก็บข้อมูลจากการใช้จริงเกือบ 700,000 คน !! ทั้งคนที่เพิ่งเริ่มใช้ Canagliflozin หรือใช้ -gliflozin ตัวอื่นหรือใช้ยาเบาหวานตัวอื่น รวมกันหมดทั้งเบาหวานรายใหม่หรือเบาหวานรายเก่า เสี่ยงโรคหลอดเลือดมากหรือว่าเสี่ยงโรคหลอดเลือดน้อย เสี่ยงตัดขามากหรือเสี่ยงตัดขาน้อย เรียกว่าในสถานการณ์จริงๆเลย
ผลปรากฏว่า อัตราการถูกตัดเท้าของยาตัวนี้ น้อยกว่า !! ยากลุ่มอื่น 25% และมากกว่ายาตัวอื่นในกลุ่ม -gliflozin ด้วยกัน 14% ซึ่งความแตกต่างทั้งสองนี้ ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ !! ทั้งผู้ป่วยที่เสี่ยงมากและเสี่ยงน้อย
พลิกโผพอสมควร แต่ด้วยกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่และเป็นสถานการณ์จริง ก็น่าเชื่อถือทีเดียว และยังพบอีกว่ายา Canagliflozin ลดโอกาสการนอนโรงพยาบาลเพราะหัวใจวายอีกด้วย
แม้เวลาที่ศึกษาจะแค่หกเดือน มันออกจะสั้นไปที่จะบอกว่าโอกาสถูกตัดเท้านั้นน้อยลงจริงๆ ต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม แต่ขนาดการศึกษาที่ปริมาณมากก็มีพลังมากที่จะบอกว่า อย่างน้อยหกเดือนแรกนี้การใช้ยาก็ปลอดภัยดี
อัพเดตวิชาการกันหน่อย ถึงเรื่องจะยาก แต่น่าจะเข้าใจได้ ที่สำคัญทั้ง Empagliflozin และ Canagliflozin มีวางขายในบ้านเราเรียบร้อยแล้วครับ การอัพเดตตรงนี้ก็น่าจะมีประโยชน์ทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม