23 พฤษภาคม 2561

ดูคลำ "เคาะ"ฟัง

เมื่อวานนี้หลายคนอาจจะงงว่าคุณหมอที่เจ็บนิ้วกลางมือซ้าย หมายถึงอะไร เราก็จะมาเฉลยกันสักหน่อย
หนึ่งในสี่ทักษะการตรวจร่างกาย ดูคลำ "เคาะ"ฟัง การเคาะคือการสร้างเสียงจากการเอานิ้วเคาะบนนิ้วของตัวเอง เพื่อฟังเสียงสะท้อนและตัดสินสิ่งที่เกิดขึ้นจากเสียงสะท้อน เราเลียนแบบทักษะของค้างคาวนั้นเอง เวลาตรวจร่างกายด้วยการเคาะ คุณหมอจะใช้มือกดแนบไปกับส่วนร่างกายที่ต้องการจะตรวจ เสมือนว่ามือและนิ้วคุณหมอเป็นเนื้อเดียวกับร่างกายของคนไข้ และใช้นิ้วกลางของมืออีกข้าง (ดังนั้นควรตัดเล็บสั้นเสมอ) เคาะตรงๆไปที่กระดูกนิ้วมือของมือที่วางอยู่ เพื่อส่งแรงสั่นลงไปร่างกายคนไข้และฟังเสียงสะท้อนกลับมา
การเคาะแบบที่ไม่ได้เจตนาฟังเสียง ผมไม่ถือว่าเป็นการเคาะ เช่น การเคาะบริเวณชายโครงด้านหลังเพื่อดูว่า "เจ็บ" หรือไม่ ในรายกรวยไตอักเสบ เราเจตนาดูความเจ็บไม่ใช่ "เสียง" หรือการเคาะบริเวณข้างแก้มเพื่อดูว่าไซนัส "เจ็บ" หรือไม่ อันนี้ไม่น่าจะนับเป็นการเคาะ
เคาะอะไรบ้าง อวัยวะที่เคาะบ่อยๆ คือทรวงอก คุณหมอก็จะเคาะทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และเคาะบนกระดูกไหปลาร้า เพื่อตรวจสภาพทรวงอกทั้งหมด เนื่องจากปกติใต้นิ้วที่เคาะคือปอด มีลมด้านในจะเคาะเสียงดัง ป๊อกๆ เรียกว่าเสียง resonance คราวนี้ถ้าเราจินตนาการว่ามีน้ำคั่นระหว่างทรวงอกกับเนื้อปอด เช่นมีน้ำในเยื่อหุ้มปอด เวลาเคาะเราจะได้เสียงทุ้มลงและทึบขึ้น ป่อกๆ และถ้ามีลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดเสียงของลมก็จะโปร่งขึ้นเป็นเสียง ป๊องๆ เรียกว่า hyporesonance และ hyperresonance ตามลำดับ
ด้วยการตรวจร่วมกับวิธีอื่นจะสามารถแยกพยาธิสภาพในปอดได้ว่า เป็นของเหลวหรือลม ระดับซี่โครงที่เท่าไร การเจาะน้ำในเยื่อหุ้มปอดก็ใช้วิธีนี้
ส่วนของร่างกายที่เคาะมากๆ อีกก็คือ ช่องท้อง เคาะทั่วๆไปจะได้ยินเสียง tympanic percussion ของลมในลำไส้จะโปร่งกว่าปอด เพราะช่องท้องไม่มีอวัยวะอัดแน่นเท่าช่องอก คราวนี้ถ้าท้องอืดมาก ลมมาก เสียงจะกังวานดังเลย ป๊องงง แต่ถ้ามีน้ำในช่องท้องมากก็จะได้ยินเสียงที่ทึบเหมือนกับการเคาะปอดเลย ตัวอย่างที่ชัดคือ คุณหมอจะเคาะไล่ลำดับจากสะดือลงไปถึงเอว ถ้ามีน้ำขังในช่องท้องในท่านอน จะตรวจพบระดับเสียงที่เปลี่ยนจากกังวานไปทึบ แสดงระดับน้ำ ซึ่งไม่พอคุณหมอก็จะให้คนไข้นอนตะแคง เอามือทาบตรงจุดเสียงเปลี่ยนแล้วเคาะไล่กลับมาด้านบน เสียงจากทึบก็จะกลายเป็นโปร่ง เรียกการตรวจนี้ว่า "shifting dullness" มีความไวในการตรวจน้ำในช่องท้อง 85% คุณหมอจะใช้วิธีนี้ในการตรวจหาระดับน้ำเวลาที่จะเจาะท้อง
การเคาะตับ เนื่องจากตับเป็นอวัยวะที่มีเลือดมาก ทึบ และอยู่ติดช่องท้องและซี่โครง เวลาเคาะจึงจะทึบกว่า tympanic และ resonance เราสามารถหาขอบเขตของตับได้ที่เรียกว่า"liver span" โดยการเคาะจากทรวงอกไล่ลงมาผ่านตับเลยไปถึงช่องท้อง เสียงสะท้อนที่เปลี่ยนไปจะบอกขอบเขตของตับได้ นอกจากนี้ถ้าหากเคาะตับแล้วเสียงโปร่งเป็นเสียงลมคล้ายช่องท้อง จะแสดงว่ามีลมรั่วมาแทรกระหว่างเนื้อตับกับผนังช่องท้อง ทำให้เราเคาะตรงๆไปที่ช่องลมเสียงจึงกังวานมาก แสดงว่ามีลมรั่วออกมาจากอวัยวะในช่องท้อง เช่น กระเพาะอาหารทะลุเป็นต้น
การเคาะม้าม เคาะที่บริเวณข้างลำตัวด้านซ้าย เช่นเดียวกับตับ ม้ามก็จะอยู่ชิดช่องท้องแต่ว่าพื้นที่ส่วนมากจะมุดอยู่ใต้ซี่โครงทำให้คลำขนาดได้ยาก ยกเว้นโตมากๆจริงๆ ส่วนมากจึงใช้การเคาะเพื่ประเมินขนาดว่าม้ามโตหรือไม่ โดยทั่วไปม้ามมักจะโตไม่เกินซี่โครงซี่ที่ 12 หากเคาะทึบได้ยาวกกว่านั้นให้สงสัยว่าม้ามโด
การเคาะที่เคาะโดยตรงไปบนกระดูกนิ้วมือ นอกจากจะช่วยเพิ่มการสะท้อนของเสียง ส่งผ่านคลื่นการสั่นได้ดีกว่าเนื้อเยื่อไขมันตามหลักการวิชาฟิสิกส์แล้วนั้น ยังเป็นมารยาทที่ดีที่ไม่ไปเคาะตรงๆบนร่างกายคนไข้ อีกทั้งถ้าร่างกายส่วนนั้นมีอาการเจ็บปวดก็จะไม่รุนแรงเท่าเคาะตรงๆลงไป
การเคาะเป็นทักษะการตรวจร่างกายที่ไม่ง่ายและต้องฝึกสม่ำเสมอ คุณหมอควรต้องตัดเล็บนิ้วที่จะเคาะให้สั้น กันการบาดเจ็บต่อตัวเองและคนไข้ ท่านอาจสังเกตดูนิ้วกลางหรือนิ้วชี้ของหมอมีรอยแดงๆช้ำๆ นั่นแหละร่องรอยการเคาะ percussion skills
เคาะร่างกายเพื่อวินิจฉัย เคาะหัวใจให้พินิจฉัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม