11 กรกฎาคม 2558

พิษจากยาพาราเซตามอล

   ยาที่เราใช้กันผิดมากที่สุดและมีโอกาสเกิดพิษมากที่สุด คือ ???? ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก... อาจคิดไม่ถึงนะแต่มันคือยาเม็ดพาราเซตามอลครับ ท่านๆคงจะงง แต่สิ่งที่เราใช้กันอย่างเป็นประจำจะทำให้เราคิดไม่ถึงอันตรายของมัน คล้ายๆกับท่านจะไม่ค่อยเกิดอันตรายจากเลื่อยไฟฟ้าเพราะนานๆใช้ที พอจะใช้ก็อ่านคำแนะนำอย่างดี แต่เราจะเกิดอันตรายจากการใช้กรรไกรเป็นประจำทั้งๆที่ใช้ทุกวัน. อือมม แล้วทำไมถึงเกิดและทำอย่างไรจะไม่เกิด มาดูกันครับ

1.การใช้เกินขนาดครับ จริงๆแล้วขนาดยาพาราเซตามอลจะประมาณ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อันนี้ประมาณคร่าวๆนะครับ อย่างเช่น ผู้ใหญ่หนัก 50 กิโลกรัม ก็จะใช้ยาขนาดเม็ดละ 500 มิลลิกรัม ( ขนาดเม็ดโดยทั่วไปก็จะมีเม็ด 500 และ 325มิลลิกรัมครับ) หนึ่งเม็ดครับ มากสุดก็เม็ดครึ่ง ถ้าเป็นเด็กโต นน.ตัว 25 กิโลกรัม ก็จะกินแค่ครึ่งเม็ด หรือ เม็ด 325 มิลลิกรัมแค่หนึ่งเม็ด. เราๆท่านๆมักจะกินสองเม็ด เนื่องจากคิดว่าเป็นผู้ใหญ่ต้องกินสองเม็ด เรากินไปเรื่อยๆ ขนาดยาจะเกิน คำแนะนำคือไม่ให้เกิน 4000 มิลลิกรัมต่อวันครับ(ประมาณ 8 เม็ดต่อวัน) ดังนั้นใช้ยาตามขนาดน้ำหนักตัวด้วยนะครับ

2.การใช้ยาซ้ำซ้อน. หลายๆท่านกินยาที่มีพาราเซตามอลอยู่แล้ว และก็กินยาพาราเซตามอลซ้ำเข้าไปอีกครับ ที่พบบ่อยๆคือยาแก้หวัดเม็ดรวมเช่น ทิฟฟี่ ดีคอลเจน จะมีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่แล้ว เม็ดละ 300-325 มิลลิกรัมแล้วแต่ยี่ห้อครับ ดังนั้นเวลาท่านกินยาแก้หวัดลดน้ำมูกไปแล้ว ท่านก็ต้องลดขนาดยาพาราลงครับ โดยเฉพาะถ้ากินติดต่อกันกลายๆวันครับ ดังนั้นถ้ายาที่ท่านใช้อยู่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่แล้ว ต้องระวังในการใช้ยาเพิ่มไปอีกครับ อีกกลุ่มคือยาแก้ปวดที่มีหลายตัวผสมกันเช่น Ultracet, tylenol with codeine เป็นต้น

3.มีภาวะตับไม่แข็งแรงอยู่เดิม เนื่องจากยาพาราเซตามอลจะไปแปรสภาพและทำลายยาที่ตับครับ ใช้สารแอนตี้ออกซิแดนท์และกลูต้าไธโอน ( ฮ่าๆๆ  นี่คือการใช้กลูต้าไธโอนจริงๆครับ ไม่ได้ใช้เพื่อผิวใสๆนะครับ) ผู้ป่วยที่มีภาวะตับอักเสบ ตับวาย หรือตับแข็ง ทั้งหมดคือการทำงานที่บกพร่องลงนั่นเอง การทำลายยาพาราจะทำได้น้อยลง ไม่ได้บอกว่ามันจะออกฤทธิ์นานขึ้นนะครับ แต่จะทำให้เป็นพิษมากขึ้นครับ‬
ผู้ป่วยตับไม่ดี โรคตับเรื้อรัง ดื่มเหล้าจัด ก็ควรลดขนาดยาพาราเซตามอลครับ

4.ขาดความศรัทธาในยา อันนี้เป็นปรัชญาทางอ้อมครับ ท่านๆอาจเคยได้ยินว่ายาเม็ดพาราเซตามอลมีฤทธิ์อ่อน กินไม่หาย มีแต่แป้ง ไปกินยาอย่างอื่นเถอะ สุดท้ายก็จะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาอย่างอื่นที่ไม่จำเป็น ซึ่งรุนแรงกว่ายาพาราซะอีก. ผลการศึกษาเชิงประจักษ์ทางการแพทย์หลายๆแห่งที่มีคุณภาพ ยืนยันตรงกันนะครับ ในแง่ประสิทธิภาพในการลดปวดลดไข้นั้น ยาทุกตัวประสิทธิภาพเท่ากับยาพารา แต่ที่พาราได้รับเลือกเป็นยาที่ควรใช้ตัวแรก เพราะผลข้างเคียงต่ำและราคาไม่แพงครับ ในแง่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ

ความเข้าใจที่ถูกต้องจะได้ไม่มีอวิชชาครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม