สารพันวิธีการส่งต่อข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์
ปัจจุบันนี้เรามีสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นและสามารถถ่ายทอดความรู้ต่อ ๆ กันไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละสื่อได้มีอุปกรณ์การส่งต่อ หรือที่เรียกว่า แชร์ (share) ในทุก ๆ รูปแบบ เรามาดูวิธีที่เหมาะสมกันครับ
1. ใช้ปุ่ม share ที่อยู่ตามโปรแกรมต่าง ๆ ไปสู่สื่อที่เราต้องการ อันนี้จะง่ายและสามารถแทรกข้อคิดเห็นของเราเข้าไปด้วยได้
ปัจจุบันนี้เรามีสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นและสามารถถ่ายทอดความรู้ต่อ ๆ กันไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละสื่อได้มีอุปกรณ์การส่งต่อ หรือที่เรียกว่า แชร์ (share) ในทุก ๆ รูปแบบ เรามาดูวิธีที่เหมาะสมกันครับ
1. ใช้ปุ่ม share ที่อยู่ตามโปรแกรมต่าง ๆ ไปสู่สื่อที่เราต้องการ อันนี้จะง่ายและสามารถแทรกข้อคิดเห็นของเราเข้าไปด้วยได้
2. copy ที่อยู่ที่เรียกว่า URL หรือไปคลิกขวาที่ที่อยู่เว็บหรือสื่อสังคมนั้น เลือกว่ามcopy link หรือคัดลอกข้อความ เอาไปแปะในบทความหรือสื่อของเรา
3. ใช้การเขียนอ้างอิงที่มาว่ามาจากที่ไหน อันนี้ถ้าไม่ได้ทำในทางเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเพื่อประโยชน์ทางการค้าที่ผิดกฏของแหล่งที่มา จะไม่เกิดอะไรมาก แต่บางที่ต้องของอนุญาตก่อนครับ (citation)
4. การคัดลอกบทความหรือภาพถ่ายนั้น อาจจะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และหากนำไปเผยแพร่ต่อก็อาจจะผิด พรบ.คอม ฯ อีกด้วย ไม่พอหากมีการละเมิดหรือหมิ่นประมาท ก็โดนทั้งแพ่งและอาญา
การพิสูจน์ถูกผิดเมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายนั้นยากพอควรกับการพิสูจน์เจตนา ดังนั้นเราจึงควรแชร์ข้อมูลอย่างถูกต้องครับ แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์และยินดีให้เผยแพร่โดยไม่ต้องขออนุญาตก็ตามที แต่ลิขสิทธิ์มันเกิดขึ้นด้วยตัวผลงานและมีสิทธิของมันเองแล้ว
หลาย ๆ ท่านโดยเฉพาะผู้ผลิตเนื้อหาคงจะโดนผู้ที่อาจจะอยากเผยแพร่แต่ไม่ทราบหนทาง หรืออาจไม่ทราบข้อกฎหมาย เอาผลงานไปแบบคัดลอก ก็ให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ตกลงกัน ท่านที่เคยทำก็ควรแก้ไข อย่าผิดซ้ำ
ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนหลาย ๆ ท่านที่ได้ช่วยกันแจ้งข้อความและทวงสิทธิ์ให้ผู้เขียนบทความ เพราะมันจะทำให้วงการผู้ผลิตบทความ ได้มีคุณค่ามากขึ้น ผู้ผลิตมีกำลังใจ ผู้อ่านได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ครับ
ปล. ขอขอบคุณ @เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทวงสิทธิ์ เหล่าผู้ผลิตเนื้อหาทางโลกความรู้ออนไลน์ครับ
ข้อมูลทั้งหลายของเพจนี้ ผมขอยกประโยชน์ให้สาธารณะ สามารถนำไปใช้ได้โดยอิสระ ไม่ได้หวงห้ามแต่อย่างใด ขอเพียงไม่เอาไปใช้ในทางธุรกิจแบบผิดกฎหมายและทางการค้าและเป็นเครื่องมือให้ร้ายบุคคลอื่นก็พอ
3. ใช้การเขียนอ้างอิงที่มาว่ามาจากที่ไหน อันนี้ถ้าไม่ได้ทำในทางเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเพื่อประโยชน์ทางการค้าที่ผิดกฏของแหล่งที่มา จะไม่เกิดอะไรมาก แต่บางที่ต้องของอนุญาตก่อนครับ (citation)
4. การคัดลอกบทความหรือภาพถ่ายนั้น อาจจะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และหากนำไปเผยแพร่ต่อก็อาจจะผิด พรบ.คอม ฯ อีกด้วย ไม่พอหากมีการละเมิดหรือหมิ่นประมาท ก็โดนทั้งแพ่งและอาญา
การพิสูจน์ถูกผิดเมื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายนั้นยากพอควรกับการพิสูจน์เจตนา ดังนั้นเราจึงควรแชร์ข้อมูลอย่างถูกต้องครับ แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์และยินดีให้เผยแพร่โดยไม่ต้องขออนุญาตก็ตามที แต่ลิขสิทธิ์มันเกิดขึ้นด้วยตัวผลงานและมีสิทธิของมันเองแล้ว
หลาย ๆ ท่านโดยเฉพาะผู้ผลิตเนื้อหาคงจะโดนผู้ที่อาจจะอยากเผยแพร่แต่ไม่ทราบหนทาง หรืออาจไม่ทราบข้อกฎหมาย เอาผลงานไปแบบคัดลอก ก็ให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ตกลงกัน ท่านที่เคยทำก็ควรแก้ไข อย่าผิดซ้ำ
ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนหลาย ๆ ท่านที่ได้ช่วยกันแจ้งข้อความและทวงสิทธิ์ให้ผู้เขียนบทความ เพราะมันจะทำให้วงการผู้ผลิตบทความ ได้มีคุณค่ามากขึ้น ผู้ผลิตมีกำลังใจ ผู้อ่านได้ประโยชน์ ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ครับ
ปล. ขอขอบคุณ @เคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัว ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทวงสิทธิ์ เหล่าผู้ผลิตเนื้อหาทางโลกความรู้ออนไลน์ครับ
ข้อมูลทั้งหลายของเพจนี้ ผมขอยกประโยชน์ให้สาธารณะ สามารถนำไปใช้ได้โดยอิสระ ไม่ได้หวงห้ามแต่อย่างใด ขอเพียงไม่เอาไปใช้ในทางธุรกิจแบบผิดกฎหมายและทางการค้าและเป็นเครื่องมือให้ร้ายบุคคลอื่นก็พอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น