21 พฤษภาคม 2560

OSCE

หนึ่งในการสอบที่สนุกที่สุด (เมื่อมองย้อนหลัง) คือ OSCE objective structured clinical examinations ออสกี้ ที่เราเรียกกัน ผมขอเล่าประสบการณ์ของหมอคนหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว

ที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งในกรุงเทพ เป็นสนามสอบออสกี้ คุณหมอหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางเหล่านักเรียนเหรียญทอง ตัวเต็ง ที่เขาชอบเรียกกันว่า ..มหาเทพ.. ทั้งหลาย ในห้องประชุมก่อนที่จะไปสอบ อาจารย์คุมสอบอธิบาย กฎเกณฑ์ต่างๆ แม้ว่าแอร์ในห้องจะเย็นเฉียบ แต่คุณหมอกลับเหงื่อซึม ร้อนผะผ่าว นึกถึงคุณงามความดีที่ทำมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไปเคารพมาครบสามที่เมื่อวานนี้ มือก็กำตะกรุดนำโชคที่ห้อยไว้ที่เอว

"เอาละชุดแรกไปสอบออสกี้ก่อน" เสียงกรรมการเด็ดขาด พวกเราเดินเรียงแถวไปที่ห้องสอบ ห้องสอบมีโต๊ะและเก้าอี้จัดเป็นค่ายกล บนโต๊ะมีข้อสอบ และมีป้ายชี้ทิศที่จะไปข้อต่อไปอย่างชัดเจน
"ทุกคนยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะ อย่าเพิ่งลงมือทำจนกว่าสัญญาณจะดังนะครับ และขยับไปข้อต่อไปทันที เมื่อครบข้อสุดท้ายสัญญาณจะยาว ให้วางข้อสอบแล้วออกไปจากห้อง เข้าใจนะครับ พี่ขอให้ทุกคนโชคดี" เสียงกรรมการคุมสอบชัดเจน หมอหนุ่มหันหน้าไปทางซ้ายที่ๆเขาจะต้องทำข้อต่อไป ก็พบหนุ่มตี๋ ยิ้มมุมปาก ยักคิ้วข้างเดียวให้เขา ...มันยิ้มอะไรของมันฟระ..ยิ่งสั่นๆอยู่..

กริ๊งงงงง ข้อแรกเริ่มแล้ว โจทย์ข้อแรกของหมอหนุ่มเป็นกล้องจุลทรรศน์ โจทย์สั้นๆสามบรรทัดอธิบายประวัติคนไช้ และถาม ให้บอกชื่อเชื้อที่พบ และวิธีรักษา หมอหนุ่มนึก ซวยแล้ว มองกล้องนี่ไม่ถนัดเล้ย ตาก็ไม่ดี เอ้า..เอาก็เอา เขาก้มลงมองด้วยกล้องกำลังขยายต่ำสุด เฮ้ย..ไม่เห็นไรเลย อาจารย์ใส่สไลด์ผิดเป่าวะ เอ้าดูต่อ ปรับกำลังขยายมากขึ้น ..เฮ้ย นั่นๆๆ เหมือนที่เคยเห็น ประวัติก็น่าจะใช่ตัวนี้นะ เอ๊ะ ใช่หรือ อาจารย์วางยามั้ง มันต้องซับซ้อนดิ..
หาต่อๆ ๆ

กริ๊งง...อ้าว ซวยแล้วยังไม่ได้เขียนเลย แต่ก็ต้องจำใจไปข้อต่อไป ขณะที่กำลังจะไป มองเห็นไอ้ตี๋หนุ่ม มันยิ้มเยาะ เอามือลูกปากด้วย มันทำอะไรของมัน

ข้อต่อไป ให้บรรยายฟิล์มสไลด์เลือด และวินิจฉัย ..เฮ้ย พอได้ๆ ลุย ..เมื่อก้มลงมอง อ้าวไม่เห็นมีอะไร ก้มไปดูที่กล้อง..พบว่า ไม่มีสไลด์ !!! เหลือบมองข้างๆ มันอยู่นี่นั่นเอง..ไอ้ตี๋ ..เมิง
หมอหนุ่มรีบใส่สไลด์ลงกล้อง เขียนบรรยายอย่างรวดเร็ว เม็ดเลือดแดงเจอนั่น เม็ดเลือดขาวแบบนี้ เกล็ดเลือดเป็นนี่ ... เอาแล่ว..แล้วตกลงเป็นอะไร หมอหนุ่มคิดในใจว่า เอาวะ เดี๋ยวหมดเวลา เจอแบบนี้มันก็โรคนี้แน่ๆ เอาโรคนี้แหละ

ข้อต่อไป เป็นจอคอม..ฉายภาพเอกซเรย์ปอด กระดาษคำถามเขียนประวัติและการตรวจร่างกายสั้นๆ ถามว่าให้บรรยายฟิล์มและวินิจฉัย ..เอ๊ะ บนกระดาษคำถามมีรอยวงจางๆอะไร กรรมการบอกใบ้เรา หรือ ไอ้ตี๋มันแกล้งอีกฟระ ..เอ๊ะคืออะไร
ไม่เอาๆๆ จะบ้าหรือ เป็นอะไรก็ช่างมัน สมาธิมา สมาธิมา แล้วหมอหนุ่มก็มองฟิล์ม หืมมม อะไรเนี่ย มีเป็นสิบๆโรคเลยที่เป็นได้ หมอหนุ่มลงมือเขียน โรคที่หนึ่ง โรคที่สอง พอจะเขียนโรคที่สาม...เอ๊ะๆๆ นี่เราทำอะไรอยู่ ต้องโรคเดียวสิ แล้วโรคอะไรดี
ประวัติตรวจร่างกายแบบนี้ ก็โรคนี้แน่ๆ เอาวะ ฟิล์มแค่ประกอบการวินิจฉัย เอานี่แหละ

ข้อต่อไป..นี่คือ..?? บนโต๊ะว่าง เขียนว่า พัก.ทำใจ พร้อมลูกอมสับปะรดกวนเปรี้ยวจี๊ด หมอหนุ่มคิด พักอาไร้..ปั่นข้อแรกสิครับ โรคที่เราคิดนั่นแหละ ประวัติแบบนี้ เชื้อตัวนี้ มันก็ตรงไปตรงมา ถ้าอาจารย์จะขุดหลุมล่อ สับขาหลอก ก็เอาเหอะ ..คิดในใจ ไม่น่าไปใส่ใจไอ้ตี๋นั่นเล้ย.. หมอหนุ่มจัดการกระดาษคำตอบของตัวเอง จนเรียบร้อย ก็หมดเวลา กรี๊ง..ข้อต่อไป

บนโต๊ะมีแฟ้มสีชมพูปิดอยู่ พร้อมเขียนว่าข้อสิบ เอาเปิดดู..เงิบ แผ่นคลื่นไฟฟ้าหัวใจหนึ่งแผ่น โจทย์สามบรรทัดสั้นๆ หมอหนุ่มนึกในใจ ..ฆ่าฉัน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า วิชาเส้นนี้ เอ้า..อ่านแบบเด็กน้อยไปตามลำดับ วินิจฉัยและรักษา คิดในใจ เบสิกมาก อาจารย์คงให้คะแนนค่าน้ำหมึกนะ กริ๊ง..ข้อต่อไป

ครบสิบข้อ..เพียงเวลาไม่กี่นาที ใบหน้าตอนก่อนเข้าห้องสอบและตอนทำเสร็จข้อสุดท้ายอย่างกับไปสงครามมา ถถถ พลังแทบเกลี้ยง ติดใจอย่างเดียว สับปะรดกวนอร่อยมาก เงยหน้ามองทุกคน นี่มันอะไร ทำไมทุกคนหน้ายังเทพเหมือนไม่ยี่หระอะไร หันหน้าไปดูไอ้ตี๋หนุ่ม ดูดู..มันลอยหน้าลอยตา ยักคิ้วอีกต่างหาก

เปาะ..อาจารย์คุมสอบมาตบไหล่หมอหนุ่ม คุณหมอหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม อิบอ๋ายแล้ว..เกิดไรขึ้น "ไงคุณ ตื่นเต้นมากเลยหรือ" หมอหนุ่มพูดสั่นๆ "ใช่ครับอาจารย์"
"ใจเย็นๆนะ คะแนนมันขึ้นกับกรรม คุณทำกรรมดีมันก็ได้ดี " เฮ้ยยย พูดงี้หมายความว่าไง "เอ้านี่ พี่ให้" อาจารย์ยกกระปุกลูกอมสับปะรดกวนมาให้ทั้งกระปุก
"ไปนั่งกินใจเย็นๆ รอสอบตอนบ่าย อ้อ..คราวนี้แกะเปลือกมันออกด้วยนะ ไม่ต้องตื่นเต้นเหมือนตอนสอบแล้ว" พร้อมเสียงหัวเราะของทุกคน

หลายปีผ่านไป หมอหนุ่มคนเดิมอายุมากขึ้น วันนี้เขาเดินมาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆโรงพยาบาล เข้าไปซื้อลูกอมสับปะรดกวนหลายกระปุก วันเวลาหมุนไปวันนี้เขาต้องมาทำหน้าที่กรรมการคุมสอบ เหมือนกับที่เขาเคยสอบเมื่อหลายปีก่อน นึกในใจว่าวันนี้จะมีน้องๆที่ตื่นเต้นมากๆ เหมือนเขาไหม จะมีใครกินลูกอมทั้งเปลือกไหม เขาจะให้กระปุกลูกอมกับใครไหม

หมอหนุ่มคนเดิมหัวเราะในใจ... แต่ก็ว่าไม่ได้นะ สำหรับบางคน เปลือกลูกอม ก็ทำให้สอบได้ที่หนึ่งได้เช่นกัน...

มันกันเข้าไป กับวันอาทิตย์สุดสนุก
ปล. การนั่งรถนานๆ มันฟุ้งซ่านเลย เล่าขานตำนาน แก้เบื่อครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม