05 กรกฎาคม 2564

Tokyo Trial

 หลายครั้งภาพยนตร์ก็มีมากกว่าบันเทิง

เช่นเคยหลังจากที่ผมเป็นสมาชิก netflix สารพัดภาพยนตร์และซีรี่ส์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สองได้ผ่านสายตาเป็นจำนวนมาก วิธีการดูหนังของผมจะแปลกสักหน่อย คือ ผมจะอ่านหนังสือ บทสรุป เรื่องย่อ เรื่องเต็ม บทวิเคราะห์อย่างเต็มที่ รู้จักบท ตัวละคร ต้นกลางจบ ก่อนจะดูหนัง หลังจากนั้นจะเสพความดื่มด่ำเต็มที่กับภาพยนตร์จะได้ไม่ต้องขมวดปมเรื่องมากนัก

ภาพยนตร์เกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาชญากรสงครามฝั่งนาซียุโรป เป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังมากคือ Nuremberg Trial ส่วนในฝั่งอาชญากรสงครามทางเอเชียแปซิฟิกก็ต้องมินิซีรี่ย์เรื่องนี้ 4 ตอนจบ Tokyo Trial

ภาพยนตร์ชุดนี้ อ้างอิงจากเรื่องจริง เหตุการณ์จริงของการตั้งศาลเพื่อชำระความอาชญากรสงครามญี่ปุ่น หลังจากเหตุการณ์สงครามจบลง เหตุการณ์ที่ละเอียดและลึกซึ้งกว่านาซีเพราะผู้นำญี่ปุ่นยอมแพ้และเข้าสู่กระบวนการไต่สวนเกือบทุกคน ไม่หนี ไม่ชิงฆ่าตัวตาย ทำให้เหล่าบรรดาผู้พิพากษาจากนานาชาติ (ที่ชนะสงคราม) ต้องใข้เวลาสองปีกว่าในการพิจารณาคดี

เรื่องนี้จะเน้นที่มุมมองขององค์คณะผู้พิพากษา การทำงานในการชำระคดีประวัติศาสตร์ ทัศนคติและมุมมองแต่ละชาติที่พื้นฐานต่างกัน ต่างจาก Nuremberg Trial ที่เน้นที่บทบาทของทนายและอัยการต่อจำเลย เรื่องราวเข้มข้นเพราะ

1. ผู้พิพากษาแต่ละคน มาจากประเทศที่ชนะสงครามก็จริง แต่ว่าแต่ละประเทศก็บอบช้ำจากการรุกรานของญี่ปุ่นทั้งสิ้น ทั้งอเมริกาจากเพิร์ล ฮาร์เบอร์, ฟิลิปปินส์จากการยึดครองมะนิลา, จีนจากเหตุการณ์ที่นานกิง เราจะได้เห็นการต่อสู้ในหัวใจผู้พิพากษาว่ามาเพื่อผดุงความยุติธรรม ไม่ใช่เพื่อมาแก้แค้น

2. การพิพากษาคดีที่ไม่เคยมีมาก่อน และกำลังจะเป็นบรรทัดฐานของการพิจารณาคดีสงครามในอนาคต เหล่าผู้พิพากษาจะเดินตามตัวบทกฎหมาย หรือจะทำตามกฏบัตรที่กำหนดจากมหาอำนานผู้ชนะสงคราม

3. ในบริบทของสงครามที่แตกต่างกัน ศาลที่ยุโรปได้ตัดสินอาชญากรสงครามนาซีเรียบร้อยแล้ว หากศาลฝั่งแปซิฟิกตัดสินด้วยบรรทัดฐานที่ต่างออกไป จะมีข้อครหาและกังขากับการพิจารณาคดีที่ยุโรปหรือไม่

4. ภายใต้บรรยากาศแห่งความแค้นเคือง จะแยกอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวออกจากการพิจารณาคดี ได้หรือไม่ ระหว่างประเทศที่บอบช้ำจากสงคราม และประเทศที่ผลกระทบไม่มากนัก

การแย่งชิงชั้นเชิงการรวมกลุ่มผู้พิพากษา การโน้มน้าวด้วยคำพูด การถูกกดดันจากมหาอำนาจ ทำให้การพิจารณาคดีของเหล่าผู้พิพากษามีความเข้มข้น น่าติดตาม ที่สำคัญคือเราจะได้เข้าใจว่าทำไมอาญากรสงครามแต่ละคนโทษไม่เท่ากัน อะไรคือเจตนารุกราน อะไรคือการป้องกันประเทศ อะไรคือการปลดปล่อยชาติเอเชีย มินิซีรี่ส์เรื่องนี้ทำได้ดี

เราได้เห็นความเป็นมืออาชีพของผู้พิพากษา แม้จะขัดแย้งในความคิด แต่เคารพในหลักการและบุคคล นับว่าเป็นภาพที่งดงามมาก ใครที่ชื่นชอบซีรี่ส์คดี ทนาย ไม่ควรพลาด ยิ่งใครชอบประวัติศาสตร์สงคราม ใครเป็นนักเรียนกฎหมายจะยิ่งอินเข้าไปอีก แต่คนทั่วไปก็ดูได้นะครับ ระดับความดราม่าเข้มข้นเรียกว่าข้นคลั่กทีเดียว

ภาพยนตร์จากเนเธอร์แลนด์ (ปัจจุบันเราไม่เรียกฮอลแลนด์แล้วนะครับ) ตัวเอกจึงเป็นผู้พิพากษาโรลิ่งจากเนเธอร์แลนด์ สำหรับคนไม่ชอบซีรี่ส์อย่างผม ยังปลื้มเลยครับ (เรื่องที่ติดและดูข้ามคืนคือ Game of Throne)

คั่นเวลารอดู อิตาลีสอยสเปน และ เดนมาร์กส่งอังกฤษกลับบ้านครับ

อาจเป็นรูปภาพของ 6 คน และข้อความพูดว่า "東京裁判 TOKYO TRIAL"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม