28 เมษายน 2559

แสดงความยินดีกับอายุรแพทย์ใหม่

Congratulations...to new internist and subspecialties

วันนี้ขอพื้นที่เพื่อแสดงความยินดีกับอายุรแพทย์ใหม่และอายุรแพทย์อนุสาขา ทุกท่าน ในงานรับวุฒิบัตรในงานประชุมประจำปีราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
พวกน้องๆได้ผ่านการฝึกฝน อบรม มาอย่างหนักหน่วงกว่าจะได้วุฒิบัตรแห่งความภาคภูมิใจ แอดมินขอร่วมยินดีพร้อมกับให้ของขวัญที่ตั้งใจทำเพื่อน้องๆที่จะกลายเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพทุกท่าน

อาชีพแพทย์นั้น เราอยู่ได้ด้วยความศรัทธาของคนไข้และญาติ เราอยู่ได้ด้วยความสามัคคีในอยู่แพทย์ด้วยกัน เราอยู่ได้ด้วยคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
นับตั้งแต่วันนี้ พวกน้องๆ จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ที่จะมาทดสอบความแกร่งในจิตใจ แอดมินเองมีเรื่องที่อยากฝากไปดังนี้

ฐานะทางสังคม ที่คนอื่นๆให้เรา ที่คนอื่นเห็นว่าเรา "คงจะเป็น" มันคือสิ่งสมมติทั้งสิ้นนะครับ อย่าให้สิ่งสมมติทั้งหลายมาลวงตา ว่าเราอยู่สูงหรือเลอเลิศ ให้คิดเสมอว่า หมอกับคนอื่น หรือ คนไข้ ก็คือเพื่อนร่วมโลก เป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ปฏิบัติต่อเขา เหมือนกับ เขาคือญาติและพ่อแม่เรา ยิ่งเราเรียนสูง ได้วุฒิสูง มันจะเกิดปรากฏการณ์ #ยิ่งสูงยิ่งหนาว# อย่าลืมว่าเรา ยืนอยู่บนพื้นที่เท่าๆกัน
เพื่อนร่วมงาน คือคนสำคัญที่จะช่วยน้องๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ต่างสาขา แพทย์เวชปฏิบัติ แพทย์ที่เชี่ยวชาญกว่า การมีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งเท่าเรา แต่เป็นเพียงวิธีคิดและปรัชญาที่สั่งสอนมาต่างกัน ให้เคารพในความคิดของทุกคน นอบน้อมกับเพื่อนแพทย์ด้วยกันเสมอ

น้องพี่พยาบาล เภสัชกร กายภาพบำบัด โภชนาการ ถึงเขาจะไม่ได้เป็น team leader ในการรักษาผู้ป่วย แต่เขาจะช่วยเรา ทั้งๆที่หน้าที่ของเขาคือช่วยคนไข้ ใช่ครับเขาจะช่วยเรา เคารพและนับถือ เราก็จะต้องเคารพและนับถือเขาเช่นเดียวกัน เขาก็เชี่ยวชาญในงานของเขา ในสิ่งที่เราก็ไม่รู้ จำไว้นะครับ เราทำงานเป็นทีม เป็นวงกลมที่กลืนกัน อย่าให้วงกลมต้องไม่กลมเป็นเหลี่ยมเป็นมุมเป็นปม เพราะ ความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงไปของ "แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ"
ยุคปัจจุบัน อีกคนที่เราต้องสนใจและให้คนๆนี้เข้าร่วมในทีมการรักษาเสมอ ทีมคือต้องเข้าใจการรักษาไปในทางเดียวกันทั้งหมด และคนๆนั้นที่เราต้องเอาเขาเข้าทีมมาให้ได้คือ ผู้ป่วยและญาติ ปัญหาที่เกิดทุกวันนี้เกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ความเข้าใจที่ผิดเพี้ยน ทีมพูดไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราเอาเขาเข้าทีมมาได้การรักษาจะง่ายมาก ญาติและคนไข้จะเห็นน้องๆเป็นเทวดามากกว่าเพื่อนร่วมงานอีกนะครับ

เราก็จะต้องให้เกียรติเขา ฐานะเท่าเทียมกันและให้โอกาสเขาแสดงความคิดเห็นเต็มที่ ทำตลอดเวลา ตลอดการรักษา เป็นสิ่งสำคัญนะครับ
ทำตัวให้กว้างครับและลึกครับ ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอด้วยวิทยาการสารสนเทศปัจจุบัน เราเข้าถึงข้อมูลได้ไม่ยาก เราเสียเวลากับข้อมูลอย่างอื่นมาก ขอให้หันมาทบทวนหรือศึกษาวิชาการใหม่ๆอยู่เสมอ

และต้องหาความรู้ในทางกว้างด้วยนะครับ มีหมอหลายท่านเก่งมากในการรักษาพยาบาลแต่กลับล้มเหลวในชีวิต ถูกล่อหลอก ด้วยความที่เราเก่งมากด้านหนึ่ง มักจะด้อยอีกหลายด้าน ศึกษาไว้บ้างครับ ชีวิตในโรงพยาบาลแค่ 35% ของชีวิต อย่าลืมครอบครัว พ่อแม่ด้วย
ศึกษาการเงิน การวางแผนเกษียณ การลงทุน กฎหมายเบื้องต้น (หรือจะมาเรียนกฎหมายกับผมก็ได้นะครับ) ภาษาอังกฤษ ไอ้ที่เราคิดว่ารู้น่ะ คิดใหม่ได้เลยครับ สเน็คๆฟิชๆมากๆ

สุดท้าย ดูแลคนไข้มามากมายอย่าลืมดูแลพ่อแม่นะครับ กลับไปกินข้าวสักมื้อ ไถ่ถามสุขภาพ ตรวจให้ท่านเหมือนกับที่เฝ้าคนไข้ครับ กฎข้อนี้ผมยึดถือมาตลอด เพื่อนฝูงโทรมาฝากเวลาพ่อแม่เข้ามาไอซียูผม ผมดูแลให้อย่างสุดๆ ไม่คิดเงิน ขออย่างเดียว คุณกลับมาจับมือท่านในวันพรุ่งนี้ได้ไหม อย่าลืมนะครับพ่อแม่ครอบครัวคือคนที่หวังดีกับเราไปตลอด
และคนสำคัญที่สุดที่ต้องดูแลคือ ตัวของคุณเอง ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ อย่าโหมงานจนเสียคุณค่าแห่งชีวิต ควบคุมน้ำหนัก นอนพักผ่อนเต็มที่ ลดเหล้า หลีกบุหรี่ เรื่องเบสิกๆนี่แหละครับ ที่หมอเราละเลยที่สุด ลองคิดดูนะครับ หมอเป็นความดัน นั่งกินฟาสต์ฟู้ด BP 150/90 วัดปีละสามครั้ง กินยามั่งไม่กินมั่ง คุณจะ "พร้อม" ไปรักษาคนไข้จริงหรือไม่

ว่าจะเขียนสั้นๆ เอาน่ะเพื่อน้องๆ ขอแถม "ข้อแนะนำการรับปรึกษาต่างแผนก" จากหนังสือ Medical Consultation : The Internist on Surgical, Obstetric, and Psychiatric Services

ผู้แต่งชื่อ Richard J. Gross และ Gregory M. Caputo เป็นลายมือนะครับ เขียนสดๆเลย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม