ควรเริ่มการกู้ชีวิตตั้งแต่หายใจเฮือก ไม่ใช่ หยุดหายใจ
agony ตามคำแปลของ Merriam-Webster Dictionary ให้คำนิยามว่า the struggle that precedes death หรือหายใจเฮือก ไม่เป็นจังหวะ ติดขัด อย่างที่เราเห็นในหนังกำลังภายใน เมื่อมาทำเป็นศัพท์ทางการแพทย์ เรียกว่า agonal breathing
กฎข้อที่สองของการเริ่มกู้ชีวิตตามแนวทางการกู้ชีวิตปี 2020 คือ ให้เริ่มกู้ชีวิตตั้งแต่เรียกไม่ตอบสนองและมีการหายใจเฮือก ***ไม่ใช่หยุดหายใจ***
หลายครั้งที่การกู้ชีพล่าช้าเพราะผู้ที่จะช่วยเห็นว่าผู้ป่วยยังหายใจเฮือก แสดงว่ายังหายใจได้ แต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้เองอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ที่เห็นเฮือกคือปฏิกิริยาจากระบบประสาทอัตโนมัติ ตอบสนองต่อการขาดออกซิเจนและการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ว่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนล้มเหลว หรือมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ
ไม่ว่าอย่างไร ถ้าถึงขั้นเรียกไม่ตอบสนองและหายใจเฮือกแล้ว แสดงว่าต้องกู้ชีพแล้ว อย่ารอจนเฮือกไปเรื่อย ๆ จนหยุดหายใจแล้วจึงกู้ชีวิต เพราะนั่นอาจสายไปแล้ว
สำหรับบุคคลทั่วไป หากพบผู้ป่วยที่หมดสติ เรียกไม่ฟื้น หายใจเฮือก (ไปจนถึงไม่หายใจ) ให้ช่วยชีวิตโดยการกดหน้าอก (chest compression) พร้อม ๆ กับการขอความช่วยเหลือ โดยไม่ต้องช่วยหายใจครับ กดหน้าอกให้ลึกพอและเด้งคืนก่อนกดซ้ำ ด้วยอัตราเร็วประมาณ 100 ครั้งต่อนาที เหนื่อยมากนะครับ
แต่สำหรับผู้ที่เคยฝึกกู้ชีพ หรือบุคลากรทางการแพทย์ แนะนำให้ขอความช่วยเหลือและ **ตรวจชีพจรในระยะเวลาอันรวดเร็วภายใน 10 วินาที** ก่อนทำการกู้ชีพ หากยังมีชีพจรดี ให้ช่วยหายใจและหาทางใช้เครื่อง AED หรือ Defibrillator มาตรวจจังหวะหัวใจ ตรวจสอบชีพจรตลอด หากหยุดก็กดหน้าอก
ถามว่า คำแนะนำให้คนทั่วไปกดหน้าอกเลย หากเรียกไม่ตอบสนองและหายใจเฮือก จะเป็นการช่วยเกินจำเป็นไหม คำตอบคือ ไม่ครับ (มีการศึกษาเก็บข้อมูลและเฝ้าสังเกตใน CPR 2020 ไปหาอ่านอ้างอิงได้) เพราะถ้า
▪จำเป็นต้องช่วย แต่รอ โอกาสตายหรือพิการมากขึ้น
▪ไม่จำเป็นต้องกดหน้าอก แต่ไปกดหน้าอก โอกาสเกิดผลเสียน้อยมาก และไม่มีรายงานการบาดเจ็บต่ออวัยวะภายใน
- เจ็บจากการถูกกด 8.7%
- กระดูกหัก 1.7%
- กล้ามเนื้อถูกทำลาย 0.3%
เรียกว่าถ้าแยกไม่ได้จริง ๆ การช่วยไปก่อนมีประโยชน์มากกว่าผลเสียอย่างเทียบกันไม่ได้ครับ
อ้างอิงจาก CPR 2020
ส่วน agony มาจากนิยายสยองขวัญที่กำลังอ่านอยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น