ยา warfarin เป็นยาที่ใช้มากในหลายๆข้อบ่งใช้ มีทุกโรงพยาบาล สามารถตรวจติดตามค่าเลือด INR เพื่อปรับยาได้ทุกทึ่ และปัจจุบันเรามีข้อบ่งใช้ยา warfain มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสองวันก่อนเพจ อาจารย์ 1412 ลงบทความการปรับเปลี่ยนการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดในสถานการณ์ต่างๆ ไปเปิดอ่านดูได้ครับ แต่ผมจะลงที่มันเบสิกกว่านั้นมาก คือการติดตามปรับเปลี่ยนแก้ไข ในสถานการณ์ปกติ (ซึ่งขอเวลาอีกไม่นาน..)
ปกติแล้วเราๆท่านๆที่กินยา warfarin หรือท่านที่ดูแลการใช้ยาทั้งเภสัชกร หรือคุณพยาบาลที่อยู่ในคลินิกวาร์ฟาร์ริน จะต้องเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อปรับยาเป็นประจำอยู่แล้ว ระยะเวลาที่เหมาะสมคือ สองถึงสามสัปดาห์ต่อครั้ง แต่ในทางปฏิบัติแทบจะทำไม่ได้อยู่แล้วเพราะคนไข้มากมายและบางครั้งคนไข้ก็อยู่ไกล ไม่สามารถมาได้ตามมาตรฐาน เราจึงปรับทุกเดือน ทุกสองเดือน บางทีก็ทุกสามเดือน ทำให้ระดับยาไม่คงที่ และระยะเวลาที่ยาออกฤทธิ์ตามเป้า (time in theraputic range) น้อยมาก มาตรการที่สมาคมโรคเลือดแห่งสหราชอาณาจักร และนำคือ การติดตามเองที่บ้าน
ปัจจุบันมีเครื่องเจาะเลือดปลายนิ้วที่ใช้วัดค่า INR ออกมาได้เร็วเหมือนการตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว และมีมาตรฐานใกล้เคียงกับการเจาะเลือดจริงๆ สามารถให้คนไข้เจาะเลือดแล้วโทรมาปรึกษาคลินิกวาร์ฟารินได้ ว่าจะปรับยาอย่างไร หรือสอนการปรับยากับคนไข้ สองวิธีนี้ได้ครับการศึกษายืนยันแล้วนะครับว่าได้ผลดีกว่าและผลเสียน้อยกว่าการปรับยาแบบดั้งเดิม แต่ผู้เจาะต้องเข้าใจและปรับยาได้ ผ่านการอบรมครับ
การปรับยาที่คลินิก มีการศึกษาว่าให้ใช้คอมพิวเตอร์จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าการตัดสินใจของมนุษย์ เข้าถึงเป้าเร็วกว่า ผลเสียน้อยกว่า ( class 1A) ผมไม่ทราบว่าตามศูนย์การแพทย์ใหญ่ๆในประเทศไทยใช้สองวิธีนี้หรือยัง ผมติดว่าอีกไม่นาน การปรับยา warfarin คงจะเป็นคอมพิวเตอร์ทั้งหมด แบบเดินไปที่ตู้ INR วางนิ้ว หยอดเหรียญ ก็จะมีเข็มเจาะจึ๊ก อ่านค่าแล้วบอกขนาดยาที่เราต้องกิน พร้อมๆกันนั้นก็จะส่งข้อมูลการปรับไปที่รพ.ของท่านอัตโนมัติ เวลาท่านไปติดตามผล ค่าจะรายงานขึ้นมาเลย
การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องยา มีสมุดบันทึกจดค่า INR ขนาดยาที่ใช้ ข้อบ่งชี้การใช้ติดตัว จะมีประโยชน์มาก
การให้ความรู้ว่าถ้ากินอาหารที่มีวิตะมินเคสูงๆ ก็จะรบกวนการออกฤทธิ์ของยาได้ เช่นผักใบเขียวจัด ผักสลัด น้ำมันมะกอก ผลไม้แห้ง การให้ความรู้ว่ายาจะมีปฏิกิริยากับยาต่างๆได้มากมาย ต้องบอกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกครั้งนะครับถ้าคุณกิน warfarin เพื่อเราจะได้ระวังไม่ให้ยาที่มีแนวโน้มขัดขวางการออกฤทธิ์ ของยา และเพื่อระวังไม่ให้มีการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
การให้ความรู้ว่าถ้ากินอาหารที่มีวิตะมินเคสูงๆ ก็จะรบกวนการออกฤทธิ์ของยาได้ เช่นผักใบเขียวจัด ผักสลัด น้ำมันมะกอก ผลไม้แห้ง การให้ความรู้ว่ายาจะมีปฏิกิริยากับยาต่างๆได้มากมาย ต้องบอกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกครั้งนะครับถ้าคุณกิน warfarin เพื่อเราจะได้ระวังไม่ให้ยาที่มีแนวโน้มขัดขวางการออกฤทธิ์ ของยา และเพื่อระวังไม่ให้มีการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
ในปัจจุบันผมว่าส่วนมากเราก็ยังปรับยาด้วยมือเราเอง ตามแต่เป้าหมาย ค่า INR ที่ตั้งไว้สำหรับแต่ละคนและแต่ละภาวะ ที่กำหนดตั้งแต่เริ่มรักษา โดยทั่วไปค่า INR ที่ใช้จะอยู่ในช่วง 2.0-2.5
ปรับยามักจะใช้การปรับขึ้นๅลงๆ ประมาณ 20-25% ของขนาดยาเดิมต่อสัปดาห์ แล้วนัดสักสามสัปดาห์มาติดตามผลใหม่
หลายคนจะเกิดข้อสงสัยว่าใช้ยากันเลือดแข็งกลุ่มใหม่ได้ไหม คำตอบคือ ยังใช้ได้ไม่ครบทุกข้อบ่งชี้ อย่างไรเสีย warfarin ก็ยังเป็นยาหลักอยู่ดี ราคาก็ไม่แพง
ปรับยามักจะใช้การปรับขึ้นๅลงๆ ประมาณ 20-25% ของขนาดยาเดิมต่อสัปดาห์ แล้วนัดสักสามสัปดาห์มาติดตามผลใหม่
หลายคนจะเกิดข้อสงสัยว่าใช้ยากันเลือดแข็งกลุ่มใหม่ได้ไหม คำตอบคือ ยังใช้ได้ไม่ครบทุกข้อบ่งชี้ อย่างไรเสีย warfarin ก็ยังเป็นยาหลักอยู่ดี ราคาก็ไม่แพง
ตอนต่อไปจะมาเล่าให้ฟังว่า ถ้าไปตรวจ INR หรือหมอนัดไปติดตามแล้วเกิดภาวะแบบนี้แบบนู้นแบบนั้น เราจะทำอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น