24 พฤษภาคม 2559

การจัดการมะเร็งเต้านมระยะต้น

การจัดการมะเร็งเต้านมระยะต้น

มะเร็งเต้านมในระยะต้น มีทางเลือกการรักษาให้ใกล้เคียงหายขาดได้ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องได้ยาเคมีบำบัดด้วยซ้ำ แต่ว่าต้องเป็นระยะต้นและพฤติกรรมของตัวก้อนไม่เกเรเท่าไหร่
ความเป็นจริงคือว่า มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่ไม่ได้เป็นเฉพาะที่นะครับต้องเข้าใจเสียใหม่ มะเร็งเต้านมเมื่อเกิดขึ้นจะส่งบริวารไปตามหลอดเลือดหลอดน้ำเหลืองเรียบร้อย แต่เป็นระดับแค่หน่วยลาดตระเวนครับ เมื่อไหร่ที่ตรวจเจอ ไม่ว่าจะจากแมมโมแกรมหรือจากการคลำแล้วพิสูจน์ว่าเป็นมะเร็ง คือมันได้ส่งหน่วยลาดตระเวนออกไปเรียบร้อยแล้ว ที่เราคลำพบคือฐานทัพหลักครับ การรักษามะเร็งเต้านมปัจจุบันคือการตัดก้อนให้เกลี้ยง และให้ยาเพื่อไปทำลายหน่วยลาดตระเวน ไม่ให้มาตั้งฐานทัพใหญ่ได้อีก ไม่ว่าจะมาตั้งฐานที่นม หรือที่อวัยวะอื่น ที่เขาชอบๆคือ กระดูก ปอด ตับ
แนวคิดเรื่องการจัดการมะเร็งเต้านมระยะต้น ที่บอกว่าไม่น่ากลัวมีดังนี้ครับ

1. ต้องได้ระยะต้นจริงๆ มะเร็งเต้านมนั้นโตช้า การคลำเต้านมเป็นประจำหรือการทำแมมโมแกรมทุกหนึ่งถึงสองปีต่อครั้ง จะดักจับระยะต้นได้เสมอ ถ้าละเลยมันก็จะโตหรือลุกลามก็จะไม่ใช่มะเร็งระยะต้น จะจัดการ "ง่ายๆ" ไม่ได้อีก ดังนั้นการคัดกรองเป็นประจำจึงสำคัญมาก

2. ต้องได้ชิ้นเนื้อที่ใหญ่พอ เอาเข็มเจาะนั้นปัจจุบันไม่แนะนำครับ อย่างน้อยต้องตัดได้เนื้อ (core biopsy) หรือตัดตัวก้อนออกมาเลย เพื่อที่จะไปตรวจว่ามีตัวรับฮอร์โมนหรือ ตัวรับโมเลกุล HER-2 หรือไม่ เพราะถ้ามีสองตัวนี้จะไม่ยุ่งยากเท่าไร

3. เต้านมอยู่ใต้อิทธิพลของฮอร์โมนครับ เวลามีประจำเดือนก็จะตีง มะเร็งเต้านมส่วนมากจะมีตัวรับฮอร์โมนเพศหญิงและเจริญเติบโตได้ถ้ามีฮอร์โมนเพศหญิงมากระตุ้น จึงเป็นที่มาว่าถ้าเราให้ยาไปบังไม่ได้ฮอร์โมนไปกระตุ้นก้อนหรือบรรดาหน่วยลาดตระเวนทั้งหลาย มะเร็งก็จะไม่แข็งแรง ร่างกายจะกำจัดได้เอง ถ้าก้อนไม่ใหญ่และไม่ลุกลาม (ภาษาแพทย์เรียก ไม่มี visceral crisis) หลังจากตัดเราก็จะใช้ยาที่ไปออกฤทธิ์ตรงนี้ ก็ไม่ต้องใช้ยาเคมีบำบัดที่ผลข้างเคียงมหาศาล

4. แล้วไปทำให้ฮอร์โมนไม่ออกฤทธิ์ ผู้ป่วยหญิงจะไม่กลายเป็นชายไปหรือ... ไม่นะครับ จริงอยู่ว่าฮอร์โมนเพศหญิงออกฤทธิ์หลายอย่าง แต่การออกแบบของยานี้จะไป บังตัวรับฮอร์โมนที่เต้านมเสียมาก..จริงๆเกือบหมด ผลข้างเคียงต่ออวัยวะอื่นๆจึงน้อย ไม่ว่าจะเรื่องกระดูกพรุน ลิ่มเลือดเกิดง่าย รังไข่ มดลูก จึงให้ยาได้อย่างปลอดภัย ถ้าประจำเดือนยังมีอยู่เราจะใช้ยาที่เรียกว่า selective estrogen receptor modifiers ใช้บ่อยๆในบ้านเราก็ tamoxifen ส่วนถ้าหมดประจำเดือนไปแล้วจะใช้ยาที่เรียกว่า aromatase inhibitors ที่ใช้บ่อยในบ้านเราคือ letrozole

5. แล้วถ้าเป็นระยะต้น แต่โชคร้ายไม่มีตัวรับฮอร์โมนล่ะ ไปพบตัวรับ HER-2 อย่างที่หมอว่าในข้อสอง ยังจะดีอยู่ไหม.. ก็ยังพอดีๆนะครับเพราะว่าถ้ามี HER-2 แสดงว่าตรงจุดพันธุกรรมตรงนั้น (gene mutation) ทำให้เกิดมะเร็ง #เราก็ส่งยาที่ไปส่งสัญญาณตรงจุดนั้นว่า กรุณาอย่ากลายพันธุ์ทำให้เกิดมะเร็งอีก เราใช้ยาตัวนี้คือ transtuzumab (Herceptin) ร่วมกับยาเคมีบำบัดก็จะได้ผลดีมากๆ ลดโอกาสลุกลาม โอกาสมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น โอกาสเป็นซ้ำลดลง ยาตัวนี้ทางสิทธิการรักษาต่างๆให้สิทธิแล้วนะครับ

6. และถ้าบางคนโชคร้าย ตัวรับฮอร์โมนก็ไม่มี ตัวรับ HER-2 ก็ไม่มี จะทำอย่างไร ...อันนี้ถือว่าพยากรณ์โรคไม่ค่อยดีนะครับ เพราะไม่มีอาวุธจำเพาะนำวิถีที่จะมาจัดการให้ตรงเป้า (Targeted Therapy) เราก็ต้องใช้ยาเคมีบำบัดหว่านแหหวังกำจัดเจ้าหน่วยลาดตระเวนทั้งตัว และเซลมะเร็งที่อาจตัดไม่หมด แต่ผลข้างเคียงจากการหว่านแห มันทำให้อวัยวะอื่นได้รับพิษยาเคมีบำบัดไปด้วย เกิดพิษรุนแรงได้

7. ถ้าก้อนมะเร็งก้อนใหญ่ กินหลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง หรือต่อมกระจายทั่วไป..มันก็ไม่ใช่รายที่อาการไม่มากน่ะสิครับ แนวคิดหกข้อด้านบนคงใช้ไม่ได้ครับ แต่ถ้าเป็นมะเร็งระยะต้นละก็คุ้มเลยครับ อาจหายจากโรคโดยที่ไม่เกิดซ้ำาไปอีกหลายสิบปี

8.ตัดแล้วรักษาแล้วก็ต้องระวังทั้งข้างที่ตัดไปแล้ว และข้างที่เหลือครับ อย่าคิดว่าตัดแล้วรักษาแล้วหนึ่งข้าง อีกข้างจะรอดนะครับ อย่างไรก็ยังต้องตรวจอยู่ดี มะเร็งเต้านมนี่ พบมาก และทำให้เสียชีวิต เป็นสามอันดับแรกของมะเร็งสตรีเสมอมา ตอนนี้แซงปากมดลูกไปเรียบร้อยแล้วนะครับ เรารณรงค์จนมะเร็งปากมดลูกไม่เป็นสาเหตุมะเร็งเสียชีวิตได้แล้ว ทำไมจะทำกับมะเร็งเต้านมไม่ได้

สุภาพสตรีไทยยุคใหม่ ไม่กลัวมะเร็ง พร้อมตรวจพร้อมรักษา หญิงไทยทำได้ทุกอย่างยกเว้น #ขอเปลี่ยนตัวกับขอชาเล้นจ์ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม