22 มิถุนายน 2568

การป่วยและตายอย่างปริศนาในเมือง Sverdlovsk

 ไม่ได้พาทุกคนไปเที่ยวกันสักพักแล้ว เช้าวันนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวรัสเซียกัน กรุณาไปชงกาแฟและอุ่นขนมปัง มานั่งบนโซฟาอุ่น ๆ แล้วเดินทางกันเลยครับ

เรามาเริ่มที่ทะเลดำ พรมแดนแยกยุโรปจากเอเชีย ทางตอนเหนือของทะเลดำ คือ พื้นที่สงครามยูเครนรัสเซียในปัจจุบัน โดยเฉพาะแคว้น Luhansk ดินแดนที่รัสเซียอ้างว่า ประชาชนที่นี่ต้องการอยู่กับรัสเซียมากกว่า และรัสเซียได้รับรองความเป็นเอกราชของ Luhansk ด้วย
แต่เราไม่ได้พามาเมืองลูฮาสค์ ทางตะวันออกสุดของยูเครนที่ติดรัสเซียครับ เราจะลงใต้ลงมาอีกจนเกือบจรดพรมแดน ที่นั่นมีเมืองสำคัญที่เราเคยพาท่านมาครั้งนึง
Yekaterinberg เมืองที่เป็นจุดสังหาร ซาร์ นิโคลัสที่สองแห่งราชวงศ์โรมานอฟ ในตอนนั้นเราจบเมื่อโรมานอฟสิ้นสุดลง เวลานั้นเป็นช่วงจบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และจักรวรรดิรัสเซีย เปลี่ยนไปเป็น สหภาพโซเวียต ม่านเหล็กแห่งคอมมิวนิสต์
มีความพยายามจะเปลี่ยนสัญลักษณ์จากยุคจักรวรรดิมาเป็นยุคสังคมนิยม แม้แต่ชื่อเมือง เช่น เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กลายเป็น เปโตรกราดและเลนินกราด (ตอนหลังก็เปลี่ยนกลับ) อีกเมืองคือ Yekaterinberg เปลี่ยนไปเป็น Sverdlovsk ในปี 1924 ตามชื่อเทศมนตรี Yakov Sverdlov และเมือง Sverdlovsk นี่เองคือเป้าหมายของเรา
2 เมษายน 1979 : มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่เมืองนี้ รายงานผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ 94 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดอาการรุนแรง ในจำนวนนี้เสียชีวิตถึง 68 ราย ภายในเวลาไม่กี่วัน ตามรายงานท้องถิ่นของทางการโซเวียต
ทางการโซเวียต แจ้งต่อสาธารณะว่า เป็นการระบาดจากการปนเปื้อนเนื้อวัวที่ติดโรคแอนแทรกซ์จากปศุสัตว์ท้องถิ่น ดูเรื่องราวก็น่าจะเรียบร้อยดี
ถ้าไม่อยู่บนพื้นฐานบางอย่าง ในปี 1979 ลิโอนิด เบรซเรฟ ผู้นำสูงสุดโซเวียตนำระบบแห่งความกลัวเข้ามาปกครองโซเวียตในยุคตกต่ำ มีการใช้หน่วยข่าวกรองเคจีบี เข้าควบคุม ขู่ และครอบงำกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบ ทำให้บรรยากาศการเมืองและสงครามเย็นน่าสะพรึงกลัวมาก ตบท้ายด้วยการบุกยึดอัฟกานิสถาน แน่นอน จะบุกยึดต้องมีข่าวเรื่องกองกำลังและอาวุธ
ข่าวเรื่องอาวุธที่โซเวียตซุ่มพัฒนาเพื่อการสงครามก็หลุดการเซนเซอร์ออกมาเป็นระยะ หนึ่งในนั้นคือข่าวเล็ก ๆ เรื่องการระบาดในเมือง Sverdlovsk
เดือนตุลาคม ปี 1979 มีสื่อหนังสือพิมพ์ภาษารัสเซียของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนีตะวันตก ลงข่าวว่ามีการป่วยและตายอย่างปริศนาในเมือง Sverdlovsk เมื่อ 6 เดือนก่อน โดยไม่รู้แหล่งที่มาของการตายที่ชัดเจนว่าเกิดจากเชื้อโรคใด และสื่อรายนี้ก็ยังไม่หยุดคุ้ย
จนเมื่อต้นปี 1980 สื่อเจ้าเดียวกันนี้ได้ตีพิมพ์ว่า มีการระเบิดของโรงงานทหารแห่งหนึ่งในเมือง Sverdlovsk และนั่นคือสาเหตุการป่วยตายกว่าพันรายในเดือนเมษายน 1979 สอดคล้องกับการรายงานทางการโซเวียตว่ามีผู้เสียชีวิต 68 ราย เนื่องจากกินเนื้อสัตว์ปนเปื้อนแอนแทรกซ์ และรายงานว่ามีการกำจัดเชื้อบางชนิดไล่ตามทิศทาง “ลม” จากเมือง Sverdlovsk อีกด้วย
เอาล่ะสิ สื่อตะวันตกจอมขุดคุ้ย เผชิญหน้ากับเคจีบีหน้าบึ้งของโซเวียต ความจริงเป็นเช่นไร และใครตอแหล
อนึ่ง ก่อนไปต่อนะครับ แทรกความรู้สองข้อ ข้อแรก ในปี 1979 มีเมืองแฟรงก์เฟิร์ตอยู่ 2 เมืองในเยอรมัน คือ
Frankfurt am main เมืองแฟรงก์เฟิร์ตที่เรารู้จักกันดีในตอนนี้ เดิมอยู่ในเยอรมันตะวันตก เป็นเมืองแฟรงก์เฟิร์ตในเรื่องราวของเรา
Frankfurt an der order เมืองนี้อยู่เยอรมันตะวันออก ติดกับโปแลนด์
เรื่องที่สองคือ ยุคปี 1979 เคจีบี หรือหน่วยข่าวกรองโซเวียตสมัยสงครามเย็น มีอำนาจมาก บิดข่าวกรองใดก็ได้และแทรกซึมไปทั่วโลก ท่านวลาดีเมียร์ ปูติน ปธน.รัสเซีย ในเวลานี้คือหนึ่งในสายลับเคจีบี
เอาล่ะเรามาว่ากันต่อ
ข่าวในต้นปี 1980 ไม่เงียบอีกต่อไป ทางฝั่งโลกตะวันตกนำโดยอังกฤษ คิดว่าเป็นไปได้ว่าไม่ใช่การระบาดของแอนแทรกซ์ตามปกติ แต่เป็นการรั่วไหลของสปอร์เชื้อจากโรงงานอาวุธชีวภาพของโซเวียต หรือ อาจเป็นการทดลองที่ไม่สามารถคุมได้
ร้อนถึงพี่ใหญ่โลกเสรี สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นออกมาเรียกร้องให้ทางการโซเวียตเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
ศาสตราจารย์ Matthew Meselson จากฮาร์วาร์ดได้รับเชิญมาช่วยแกะปริศนาชิ้นนี้ อาจารย์มีเซลสัน เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อต้านการใช้อาวุธชีวภาพ
รายงานของมีเซลสันระบุว่าน่าจะเกิดจากการแพร่ของสปอร์จากโรงงานอาวุธชีวภาพ โดยอาศัยหลักฐานแวดล้อม ข่อมูลจากผู้รอดชีวิต ญาติผู้เสียชีวิต หลักฐานจากปศุสัตว์ แต่ไม่มีหลักฐานปฐมภูมิที่ครบถ้วน ทั้งเวชระเบียน และข้อมูลโรงงานปริศนาในเมือง Sverdlovsk ทั้งหมดอยู่ในความควบคุมของเคจีบี
หลายท่านอาจงงว่าอเมริกามาเรียกร้องทำไม ก็เพราะทั้งโซเวียตและอเมริกาต่างได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธชีวภาพในปี 1972 แต่อนุสัญญานี้ไม่มีกำลังคนไปตรวจสอบ ใช้รายงานของแต่ละประเทศที่ส่งมาแทน
ส่วนรายงานจากทางโซเวียตอย่างเป็นทางการ ระบุเชิญผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มาร่วมพิสูจน์ ผลออกมาว่า เป็นแอนแทรกซ์จากการปนเปื้อนในอาหารแน่นอน โดยประทับตรารับรองจากเคจีบี
สงครามเย็นระหว่างโรนัลด์ เรแกนและเบรซเรฟ ต่อสู้รุนแรงจนหมดยุคสมัย โซเวียตเริ่มเปลี่ยนไปจากนโยบายเสรีภาพและอิสระ ในยุคประธานาธิบดีกอร์บาชอฟ และสิ้นสุดสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม 1991 สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในปี 1992
บอริสต์ เยลซิน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ประกาศต่อสาธารณะว่า การระบาดของโรคแอนแทรกซ์ที่เมือง Sverdlovsk ปี 1979 เกิดจากการรั่วไหลของอาวุธชีวภาพ ที่โซเวียตละเมิดข้อตกลงไม่พัฒนาอาวุธชีวภาพ พร้อมอนุญาตให้ผู้ตรวจสอบภายนอกเข้าไปตรวจสอบได้ หลังจากเกิดเหตุไป 13 ปี
Matthew Meselson คนเดิมเข้าไปตรวจสอบพื้นที่จริง เก็บตัวอย่างสปอร์ที่กระจายออกมาวิเคราะห์ สรุปได้ว่าเป็นการระบาดของสปอร์เชื้อ Bacillus anthracis จากโรงงานจริง คือ สปอร์อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เกือบร้อยปีนะครับ ถ้าสปอร์เล็กพอ ลมแรงพอ อากาศแห้ง สปอร์ไปได้ไกลเกือบร้อยกิโลเมตร และการระบาดในวงกว้างด้วยสปอร์แบบนี้ มีเหตุเดียว คือ อาวุธชีวภาพ
ด้วยหลักฐานปฐมภูมิที่ถูกเคจีบีทำลายไปมากแล้ว เยลต์ซินแจ้งว่าไม่ได้ระเบิดนะ การรั่วไหลเกิดจากคนงานลืมเปลี่ยนไส้ตัวกรองระบบควบคุมอากาศตามเวลา จึงเกิดเหตุขึ้น
เป็นอันจบข่าวการระบาดของ inhalation anthrax จากสปอร์เชื้อที่เก็บในโรงงานอาวุธชีวภาพเมือง Sverdlovsk เมื่อปี 1979 …
แต่ไม่มีใครพูดถึง การระเบิดและเสียงระเบิดที่เมืองนี้ ณ วันที่ 2 เมษายน 1979 ว่าระเบิดหรือไม่ และใครเป็นผู้เข้ามาระเบิด
บทส่งท้าย
ริมทะเลดำ ปี 1979
มองต่ำลงจากหน้าผา มีเรือลำหนึ่งจอดรออยู่ ภาพตัดมาที่สายลับคนหนึ่งของ IMF หน้าคล้ายอีธาน ฮันท์ ในมือมีเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี สายลับคนนั้นโยนจรวดอาร์พีจีทิ้งน้ำ
ก่อนจะกระโดดหน้าผาไปยังเรือเล็ก เขาดึงหน้ากากอีธานฮันท์ออก เผยเห็นใบหน้าหนุ่มคมเข้ม รอยยิ้มมหาเสน่ห์ มองมาที่แผ่นอกแน่นเปรี๊ยะ มีเสื้อยืดคอกลมสีขาว พร้อมลายสกรีนอักษรสีน้ำเงินบนอกเสื้อว่า “อายุรศาสตร์ ง่ายนิดเดียว”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม