เรื่องเล่าจากคลินิก : ครั้งเดียวก็เสียวเลย : ไข้ออกผื่น
ผู้ป่วยแต่งตัวมิดชิด สวมหน้ากาก สวมแว่นตากันแดด ( แต่คลินิกผมเปิดช่วงค่ำ) วัดไข้ 38.5 ตอนที่วัดความดันโลหิตพบว่ากล้ามแขนเป็นมัดเลยนะ ความดันโลหิต 120/80 ชีพจร 100
"ผมมีไข้สูงมา 4 วันแล้วครับ ทำงานพบปะคนเยอะ เพื่อนร่วมงานก็ติดโควิด วันนี้ก็เลยมาตรวจครับ" ผู้ป่วยเล่าให้ฟัง
ดูแล้วประวัติก็ไม่น่ามีอะไรซับซ้อนนะครับ แต่ผมก็สงสัยว่า ทำไมไข้สูงมาตั้งสี่วัน ทำไมเพิ่งมา ผู้ป่วยตอบข้อสงสัยว่า "เจ็บคอมากขึ้นมาสองวัน มีผื่นแดงขึ้นที่หน้าและคอ วันนี้ผื่นชัดขึ้นครับ"
อืม ไข้สูงลอยเฉียบพลัน เจ็บคอ ผื่น ...การวินิจฉัยแยกโรคมาเป็นชุด หัด, ไข้กุหลาบ, ติดเชื้อแบคทีเรีย, แพ้ยา แต่กับโควิดจะดูแปลกไปหน่อย มันไม่ค่อยมีผื่น ผื่นที่เห็นมีทั้งจุดและปื้นแดง กดไม่จาง ไม่นูน ไม่รวมตัวกัน กระจายแบบไม่มีรูปแบบ แถมมีผื่นที่หน้าด้วย
หรือจะเป็น SLE
สิ่งต่าง ๆ วนเวียนขึ้นในหัวผม คิดแยกโรคตู๊ด ๆ ตื๊ด ๆ ตลอด ในขณะที่สวมชุดเตรียมตรวจโควิดแบบ nasal swab เมื่อนำก้านตรวจไปจ่อที่หน้า ผู้ป่วยก็อ้าปากกว้าง ผมชะงักไปสักพัก แล้วบอกว่า "ตรวจทางจมูกครับ" ผู้ป่วยยิ้มและปิดปาก หลังจากปั่นจมูกและรอผลทดสอบ ผมบอกว่า ผมขอตรวจร่างกายเพิ่มเติมสักนิดนะครับ ขอตรวจคอด้วย
แว่บนั้น มองเห็นแผลในปาก
ตรวจพบต่อมน้ำเหลืองประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร บริเวณคอและใต้คาง ข้างละสองถึงสามต่อม ทำให้ผมชวนคิดใหม่ พร้อมกับผลตรวจโควิดออกมาเป็นลบ
ไข้เฉียบพลัน + เจ็บคอ + ผื่นขึ้น + เห็นแผลเล็ก ๆ ในปาก + ต่อมน้ำเหลืองโต + รูปลักษณ์กายภาพดูดี มาก + พยายามปิดบังตัวตน ...หนึ่งโรคผุดขึ้นมาในห้วงความคิดทันที และถามเพิ่ม
"เป็นคำถามส่วนตัวเล็กน้อยนะครับ เอ่อ..คุณมีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเสี่ยงไหมครับ เช่น ไม่สวมถุงยางอนามัย" ผมพูดให้เป็นปกติ
"ผมป้องกันทุกครั้งนะครับ ทุกคนด้วยครับ" คนไข้ตอบทันที
หลังจากคิดทบทวนสักพัก ..กับทุกคนด้วยหรือ ? อืมม...ผมก็ถามว่า " ขอโทษจริง ๆ นะครับ คือ อาการของคุณ มีหนึ่งโรคที่ต้องคิดถึง คือ ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเฉียบพลัน แต่ก็คงจะต้องมีปัจจัยเสี่ยงพอสมควร คุณ.เอ่อ.คุณ มีความเสี่ยงไหมครับ"
คนไข้นิ่งไปสักพัก และมองตาผม "ผมทำงานบาร์โฮสต์ครับ ก็มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าบ้าง แต่ผมก็ป้องกันทุกครั้งนะครับ"
"สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งนะครับ เอ่อ..มีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทวารหนักด้วยไหมครับ" ผมต้องย้ำ หลายครั้งที่เรา "ลืม"...และรวมถึงครั้งนี้ด้วย
"คือว่าเมื่อสักสิบวันก่อน ผมมีเพศสัมพันธ์กับลูกค้าประจำ ถุงยางมันขาดครับ แต่ผมก็ทำต่อจนเสร็จ แต่ก็ครั้งเดียวนะครับ นอกจากนั้น ผมเคร่งครัดมาก ป้องกันอย่างดี สวมใส่ถูกต้องตลอด"
เมื่อมีความเสี่ยงแบบนี้ ผมจึงอธิบายความจำเป็นของการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี เพื่อทำการรักษา และทำการ pre-test counselling เรียบร้อย"
ขนาดผู้เชี่ยวชาญยังพลาดและหลงลืมว่าตัวเองพลาด เพราะความคุ้นชินกับความมีวินัยของตัวเองว่าป้องกันดีมาก ทำให้มองข้ามความผิดพลาดจุดเล็ก ๆไป
คุณ ๆ ที่เจตนาหรือเสี่ยงโดยรู้อยู่แก่ใจ คุณต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยให้ได้นะครับ แต่จริง ๆ อย่าเจตนาเสี่ยงเลย มันไม่คุ้มค่า ทั้งตัวเองและคนที่เรารัก
ผลการตรวจพบว่าพบ p24 antigen แต่ไม่พบแอนติบอดี (ชุดตรวจรุ่นที่สี่นี้ตรวจทั้งแอนติเจนและแอนติบอดีครับ) แต่ด้วยความเสี่ยงที่ชัดเจน อาการก็เหมือน ตรวจร่างกายก็ใช่ มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเป็นโรคเอชไอวีเฉียบพลัน จึงยืนยันด้วยผลการตรวจนับปริมาณไวรัสในเลือด เพราะข้อจำกัดเรื่องแอนติบอดีในระยะต้น
ผลออกมาว่าตรวจพบอาร์เอ็นเอไวรัสเอชไววี 2 ล้านกว่าตัวต่อเลือดหนึ่งซีซี
เนื่องจากเพิ่งรับเชื้อมา ผลตรวจแอนติบอดีจึงยังไม่ขึ้น ผลการตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ออกมาเป็นผลลบ
การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีเฉียบพลัน เป็นข้อบ่งชี้ของการให้ยาต้านไวรัสนะครับ และต้องคุยเรื่องความเสี่ยงในอาชีพการงานของคนไข้ด้วย
ยุคนี้ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พุ่งทะลุกราฟ จะร่วมลงทุนกับใคร การลงทุนมีความเสี่ยง ควรป้องกันให้ดีนะครับ
แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยง ก็ไปซื้อไม้เกาหลัง มานั่งเกาเป็นเพื่อนกันได้นะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น