บางทีก็ไม่ปลื้มการศึกษาแบบนี้เท่าไรนัก (ส่วนตัวนะครับ)
ยกตัวอย่างการศึกษาที่ประกาศในการประชุมสมาคมจิตแพทย์อเมริกาที่ผ่านมา มีการนำเสนอเรื่องการใช้ยา GLP-1a เพื่อเสริมการเลิกบุหรี่ …อ๊ะ งง ล่ะสิ
คือว่า ผู้ที่เลิกบุหรี่ประมาณหนึ่ง จะพบว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไม่เกี่ยวกับยาอดบุหรี่นะ แต่เกี่ยวกับบุหรี่มันทำให้ไม่ค่อยหิว และผู้ทำการศึกษานี้บอกว่า ไอ้เจ้าน้ำหนักที่เพิ่ม มันทำให้คนไม่อยากเลิก หรือ เลิกไม่สำเร็จ
อย่ากระนั้นเลย เราลองใช้ยาลดน้ำหนักที่ “นิยม” และ “มูลค่าดี” มาหักกลบลบหนี้ดีไหม อาจจะทำให้เขาเลิกบุหรี่ดีขึ้นนะ
มีสามการศึกษาผู้ป่วยเลิกบุหรี่ ระหว่างใช้ยา GLP-1a (exenatide กับ dulaglutide) กับไม่ใช้ยา สามกลุ่มนี้แตกต่างกันมากนะครับ เลยเอามาทำ meta analysis ได้ยาก ถ้าจะทำคงต้องเป็น network meta analysis และสรุปว่า
ผู้เลิกบุหรี่ที่ใช้ยา GLP-1a น้ำหนักเพิ่มน้อยกว่า กลุ่มที่ไม่ใช้ (ประมาณ 2 กิโลกรัม) แต่อัตราการหยุดบุหรี่ ไม่ต่างกัน
เขาสรุปว่า ก็น่าจะใช้ยานี้เสริมกับการเลิกบุหรี่มาตรฐาน เพื่อเพิ่มแรงจูงใจ ลดความทุกข์จาก นน.ขึ้น
ว่ากันตามสถิติ มันก็จริงดังเช่นการศึกษา แต่อย่าลืมว่า การอดบุหรี่มันไม่ต่างออกไป และในชีวิตจริง ผู้ที่เขา “ตั้งใจจริง” ที่จะเลิกบุหรี่ หรือจะการศึกษาก่อนหน้านี้ก็ตาม ต่อให้ นน.ขึ้น เขาก็เลิกได้
เหตุผลในความล้มเหลว ส่วนมากคือ ไม่ตั้งใจจริง รองลงมาก็ หนีสิ่งแวดล้อมยาก มีโรคทางจิตเวช เจอผลข้างเคียงจากยา …น้ำหนักเพิ่ม เราจะบอกคนไข้อยู่แล้ว และไม่ใช่เหตุผลหลักในชีวิตจริงที่เขาจะล้มเหลว
ดังนั้น ถามว่าจะเพิ่มยานี้มาเสริมในการรักษาเลิกบุหรี่หรือไม่ ผมคิดว่าทั้งหลักฐานทางการแพทย์ ข้อมูลทางความคุ้มค่าเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ความสามารถในการจ่ายเงินของคนไข้
ในความเห็นของผม ผมสรุปว่ายังไม่ใช้นะครับ ขอไม่โหนกระแส GLP1a ในเรื่องนี้ครับ
ปล. และไม่ชอบการพาดหัวของ medscape มาก ใครอ่านแต่พาดหัวหรือสรุปของเขา อาจเข้าใจผิดได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น