26 พฤษภาคม 2566

ทำสิ่งที่ดีในวันนี้

 เด็กหญิงอายุ 8 ปี แต่งตัวสวยน่ารัก นั่งเงียบ นิ่ง ขยับร่างกายเพียงแค่หายใจเข้าออก ตรงหน้ามีแก้วน้ำหวานและขนมปังวางอยู่ แต่ไม่ได้รับความสนใจจากเด็กหญิงคนนั้นเลย แต่ละนาทีที่ผ่านไปช่างยืดยาว

ห่างออกไปสองโต๊ะ คุณหมอหนุ่มคนหนึ่งนั่งดื่มกาแฟ เฝ้าดูเด็กหญิงคนนั้นอยู่ตลอด แต่ละครั้งที่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ มือของคุณหมอสั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากนั้นก็นิ่งเงียบ ด้วยท่าทีเดียวกันกับเด็กหญิงผู้น่ารักคนนั้น
จนกระทั่งชายหนุ่มร่างใหญ่คนหนึ่ง เดินมาหาเด็กหญิง คุณหมอจำได้ว่าคือพ่อของเด็กหญิงคนนั้น คุณพ่อเดินมาหาลูกสาว รับลูกสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วทั้งคู่ก็จากไป พร้อมภาพที่ลูกสาวปาดน้ำตาจากแก้ม
คุณหมอหนุ่มถอนหายใจ และหลับตานึกภาพที่เกิดขึ้นเมื่อสองชั่วโมงก่อน
หลังจากปรับเครื่องช่วยหายใจเรียบร้อยทั้งหกเตียง ชายหนุ่มนั่งพัก ตาจ้องจอมอนิเตอร์ว่าผู้ป่วยแต่ละรายมีการตอบสนองอย่างไร
เสียงออดดังขึ้น ! โค้ดแดง รหัสกู้ชีพ !
คุณพยาบาลตะโกนเข้ามา คุณหมอคะ ห้องคลอดขอความช่วยเหลือด่วน
ไม่ต้องรอซ้ำสอง คำว่าด่วนมีความหมายจบในตัวของมัน ชายหนุ่มลุกไปทันที พร้อมสั่งทีมให้เอาอุปกรณ์กู้ชีพตามไปสมทบ
"พี่ คนไข้หัวใจหยุดเต้นกระทันหัน ผมกับทีมช่วยเบื้องต้นแล้ว ยังไม่ดีขึ้น พี่ช่วยเพิ่มเติมทีครับ"
ภาพผู้ป่วยบนเตียงข้างหน้า ใส่ท่อช่วยหายใจ มีคนกดหน้าอกปั๊มหัวใจ สายระโยงระยาง จอภาพมอนิเตอร์ขึ้นคลื่นไฟฟ้าที่ไม่ปกติ ชายหนุ่มเห็นภาพนี้แล้ว แว่บขึ้นมาทันทีว่า ตอนที่เขาวิ่งเข้ามา เขาเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ และเด็กหญิงวัยประมาณเจ็ดแปดขวบ แต่งตัวน่ารัก มือถือขวดนมเล็ก ๆ ผูกโบว์สวย น่าจะเป็นของขวัญวันเกิดให้น้อง มีรอยยิ้มที่สดใส ตื่นเต้น
"วีเอฟ ผมขอดีฟิบด่วน เตรียมยาเอฟิเนฟฟรีนด้วย" สิ้นเสียงคุณหมอสวมถุงมือ ไปที่หัวเตียงพร้อมกับผู้ช่วยส่งแพดเดิ้ลกระตุกหัวใจมาให้
"เจล เตรียมพร้อมนะ ปรับไบเฟสิก สองร้อยจูลส์" ชายหนุ่มสั่งเจลนำไฟฟ้ามาที่แพดเดิ้ล มองที่จอว่าพลังงานชาร์จถึง 200 จูลส์แล้ว
"เอาล่ะ เคลียร์ หนึ่ง สอง สาม"
สิ้นคำว่าสาม กระแสไฟถูกส่งเข้าร่างกายผู้ป่วย ร่างกายกระตุก
"ปั๊มต่อเลยครับ ฉีดอิฟิเนฟรีน หนึ่งมิลลิกรัม เตรียมผสมยาอะมิโอดาโรน 300 มิลลิกรัม" ชายหนุ่มประกาศเสียงเฉียบขาด
การกู้ชีพดำเนินการต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว สรรพกำลังและทรัพยากรถูกนำมาใช้จนหมดสิ้น ทุกเทคโนโลยี ทุกหัตถการกู้ชีพถูกนำมาใช้
ชายหนุ่มสะดุ้งจากสมาธิแห่งการกู้ชีพ เมื่อหมอหนุ่มสูตินรีแพทย์รุ่นน้องคนนั้นเข้ามาถาม "พี่ครับ ผมทำอะไรเพิ่มได้บ้างครับ"
เกือบสี่สิบนาที ที่หัวใจของหญิงสาวคนนั้นไม่ตอบสนองต่อการรักษา ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าโอกาสเลือนรางเต็มที แต่ภาพของคุณพ่อและพี่สาวที่รอน้องอยู่หน้าห้อง ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจบอกรุ่นน้องว่า
"พี่ว่าจะทำ…. แม้ว่าข้อบ่งชี้อาจจะไม่ชัดเจน แต่พี่ว่าวินาทีนี้ เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว นายเตรียมอุปกรณ์นะ พี่ไม่ยอมแพ้หรอก ขอแค่มีความหวังแม้แต่นิด พี่ก็จะทำ"
ชายหนุ่มหันหน้ามาที่ทีมพยาบาล เขามองตาทุกคน รู้ว่าคำถามในแววตานั้นคือ หมอจะทำจริง ๆ หรือ มันอาจไม่เกิดประโยชน์นะ
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ภาพเด็กหญิงผู้เตรียมตัวเป็นพี่สาวผุดมาในห้วงความคิด แล้วหันหน้าไปที่ทีม พยักหน้าแล้วพูดว่า "จัดการได้เลย"
ชายหนุ่มยืดตัวบิดคลายความเมื่อยล้าจากการกดหน้าอกและหัตถการกู้ชีพ นึกสลดใจที่วันนี้ชีวิตหนึ่งต้องจบลง ท่ามกลางความคาดหวังที่จะกลับบ้านกันสี่คนพ่อแม่ลูก ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน ชั่วโมงนี้เรายังหายใจ ชั่วโมงหน้าเราอาจกลายเป็นอดีตก็ได้ พลางนึกถึงงานวิจัยตัวเองที่กองค้างไว้ ผัดวันประกันพรุ่งมาตลอด ตั้งใจว่าจะกลับไปทำให้เสร็จเสียที
เมื่อเปิดประตูห้องคลอดไปที่ห้องพักคอย ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มจุกคอ รู้สึกมีก้อนเหนียวในลำคอที่กลืนลงแสนจะยาก
ภาพที่เด็กหญิงในชุดน่ารัก ซบกับไหล่คุณพ่อ ร้องไห้สะอื้น เมื่อเธอทราบข่าวร้าย ในขณะที่ชายผู้เป็นพ่อปลอบประโลมลูก โดยที่น้ำตาไหลรินออกมาด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน
แม่ของเธอและภรรยาของเขา เดินทางไปไกลแสนไกลอย่างไม่หวนกลับ เป็นการเดินทางที่กระทันหัน และยากจะทำใจ
ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี แม้ชีวิตของเขาจะผ่านเหตุการณ์การจากไปของคนไข้มานับร้อย แต่ครั้งนี้ช่างสะเทือนใจนัก
เมื่อเช้านี้เธอกอดแม่หรือยัง ได้คุยอะไรกับแม่ เขามีอะไรจะบอกกับภรรยาไหมนะ ชีวิตคนเราช่างสั้นและคาดเดาไม่ได้ เมื่อพร้อมก็ควรจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ ชายหนุ่มจึงโทรไปจองเที่ยวรถ ตั้งใจพาพ่อแม่ไปทำบุญตามที่วางแผนไว้มานาน แต่เขาผัดวันมาตลอด
สุดสัปดาห์นั้น ที่วัดแห่งหนึ่ง
กระดาษที่ไหม้ไฟ กลิ่นธูปหอมกระจายทั่วบริเวณ ควันแห่งเมตตาจากพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง คงจะส่งไปถึงแม่ลูกอีกคู่หนึ่งที่โอบกอดกันอย่างใกล้ชิด ในดินแดนไกลแสนไกล ให้แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตลอดกาล ตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม