ความช่วยเหลือทางการแพทย์ในภาวะสงคราม
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เราสร้างกฎเกณฑ์ใหม่มากมายเพื่อช่วยเหลือและปกป้องมนุษยชาติจากภัยสงคราม ทั้งเรื่องการวิจัยในคน ผู้ลี้ภัยสงคราม กฎหมายระหว่างประเทศเรื่องสิทธิมนุษยชน
หนึ่งในข้อตกลงที่เจนีวา ปี 1949 เรื่องความช่วยเหลือทางการแพทย์สากลทั้งในภาวะสงคราม นอกภาวะสงคราม ภาวะสุขสงบ โดย International Red Cross Committee คณะกรรมการกาชาดสากล ได้มีข้อตกลงและปฏิญญาหลายประการ และปรับปรุงมาหลายครั้ง ผมขอเล่าให้ฟังในส่วนความช่วยเหลือทางการแพทย์ในภาวะสงครามนะครับ

ทั้งสองฝ่ายต้องงดเว้นการกระทำรุนแรง ให้การปกป้องและรักษาทางการแพทย์ที่เพียงพอตามสมควรโดยไม่ชักช้า
ให้การรักษาโดยไม่คำนึงถึงว่าอยู่ฝ่ายใดพวกใด การจัดแบ่งผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ จะทำตามเกณฑ์ทางการแพทย์ ไม่ใข่ด้วยเชื้อชาติ ศาสนา การเมืองหรือความขัดแย้ง
ทั้งสองฝ่ายมีหน้าที่ต้องค้นหาและนำผู้บาดเจ็บ ผู้ป่วยออกจากพื้นที่อันตราย โดยไม่ชักช้าและหากทำได้ อาจส่งผู้ป่วยผู้บาดเจ็บนำส่งอีกฝ่ายอย่างปลอดภัย

บุคลากรต้องได้รับการปกป้องและยอมรับจากทั้งสองฝ่าย ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อมนุษยธรรม ถึงแม้พวกเขาจะจับอาวุธเพื่อปกป้องตัวเอง หรือเพื่อปกป้องผู้บาดเจ็บก็ตาม
แต่ความคุ้มครองและยอมรับจะไม่คุ้มครอง หากบุคลากรเหล่านั้นไม่ได้ปฏิบัติเพื่อมนุษยธรรมและเป็นภัยต่ออีกฝ่าย
คู่สงครามจะต้องไม่ใช้อิทธิพลบีบบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ กระทำการอันขัดต่อจริยธรรมในการรักษา
แต่ละฝ่ายจะต้องไม่ลงโทษบุคลากรทางการแพทย์ หากต้องรักษาพยาบาลผู้บริสุทธิ์หรือคู่กรณีสงคราม
บุคลากรทางการแพทย์ต้องรักษาความลับของผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะหากการเปิดเผยความลับแล้วจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย

หน่วยบริการทางการแพทย์จะบริการทั้งสองฝ่ายอย่างมีมนุษยธรรม และได้รับการปกป้องและยอมรับจากทั้งสองฝ่าย
ต้องไม่ใช้หน่วยบริการทางการแพทย์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร
หากหน่วยบริการทางการแพทย์ ปฏิบัติงานนอกเหนือจากกานทำงานทางการแพทย์เพื่อมนุษยธรรมแล้ว อาจไม่ได้รับการปกป้องและยอมรับจากทั้งคู่กรณี
หากหน่วยบริการทางการแพทย์ปฏิบัติงานนอกเหนือจากงานมนุษยธรรม แล้วจะไม่ได้รับการปกป้อง หรือถูกโจมตี ฝ่ายที่โจมตีต้องแจ้งล่วงหน้าให้ขนย้ายถอนตัว ในเวลาที่กำหนด ก่อนการโจมตี

ทั้งสองฝ่ายต้องให้การยอมรับและปกป้องเหมือนหน่วยบริการทางการแพทย์ งดเว้นการโจมตีหน่วยเคลื่อนย้ายขนส่ง
หากฝ่ายใดเข้าครอบครองหน่วยเคลื่อนย้ายขนส่งที่กำลังทำงาน ต้องดูแลผู้ป่วยผู้บาดเจ็บด้วยเช่นกัน (อันนี้น่าจะหมายถึงโดยไม่เจตนานะครับ)



ในขณะนี้มีแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ของยูเครนจำนวนมาก ที่ไม่อพยพออกจากพื้นที่สู้รบ และปักหลักในโรงพยาบาล ให้การช่วยเหลือประชาชนยูเครน ทหารและอาสาสมัครยูเครน รวมถึงทหารรัสเซียที่บาดเจ็บจากสงคราม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น