30 พฤษภาคม 2564

the last of us

 เมื่อเชื้อโรคร้ายกัดกินความเป็นมนุษย์ในใจคน

"หากคนที่คุณรัก เป็นคนเดียวในโลกที่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคร้าย และหากคุณอยากจะช่วยทั้งโลก คุณต้องเสียสละชีวิตคนที่คุณรัก เป็นคุณจะทำอย่างไร?" คำถามที่บาดหัวใจ สถานการณ์จากเกมชื่อดัง The Last of Us ที่ดู ๆ ไปแล้วอาจจะเป็นสถานการณ์ปัจจุบัน

โจเอล ชายหนุ่มพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีความสุขตามอัตภาพกับลูกสาววัย 14 ปี ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่เริ่มรุนแรง อยู่มาคืนหนึ่งโรคร้ายได้ลุกลามมากขึ้นจนมาถึงเมืองของโจเอล โรคร้ายนี้เมื่อใครติดเข้าไป จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายและจิตใจ ให้เปลี่ยนสภาพเป็นปีศาจ ไม่รู้จักใคร ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่มีจิตวิญญาณของคน

เมื่อโรคมาถึง ฝูงปีศาจมาถึง ทางการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดคือ ห้ามออกจากเมืองและกำจัดทุกคนที่ไม่ทำตามสั่ง เพราะกลัวสถานการณ์ของโรค โจเอลต้องพาลูกและน้องชายหนีจากปีศาจโรคร้ายในคืนนั้น และเลือกที่จะต้องขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ทหาร สุดท้ายลงเอยด้วยการลั่นกระสุนใส่โจเอลที่ยืนกรานจะออกจากเมืองเพื่อหนีความตาย แต่กระสุนไม่โดนโจเอล ไปโดนซาร่าห์ ลูกสาวสุดที่รักเสียชีวิตในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ

เวลาผ่านไปหลายปี โรคร้ายไม่หยุดแพร่กระจาย คนเกือบทั้งโลกเสียชีวิต บ้างก็กลายเป็นปีศาจ คอยไล่ล่ากัดกินมนุษย์โดยไม่มีสำนึกหรือจิตวิญญาณใด ๆ ผู้คนที่หลงเหลืออยู่ก็แบ่งเป็นกลุ่มเป็นฝ่าย แต่ละฝ่ายสนใจเพียงตัวเองให้รอดและพร้อมจะสังหารปีศาจ หรือสังหารคนกลุ่มอื่น เพียงเพื่ออยู่รอดและครอบครองทรัพยากรอันจำกัด โดยไม่สนวิธีการ

เจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้มาตรการอันเหี้ยมโหด รุนแรง เพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งก็คุมไม่ได้และทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านมากมาย สภาพของสังคมตอนนั้นต่ำทรามถึงขีดสุด เต็มไปด้วยการหลอกลวง การเอาตัวรอด ที่การเอาตัวรอดจากเชื้อโรคและปีศาจก็สาหัสมากพอ ยังจะต้องเอาตัวรอดจาก "มนุษย์" ที่ถูกเชื้อโรคกัดกินความเป็นมนุษย์อีกด้วย

โจเอลยังอยู่รอด จ่อมจมกับเหตุการณ์ที่เขาไม่สามารถช่วยลูกสาวได้ ใช้ชีวิตไปวัน ๆ จนกระทั่งได้รับว่าจ้างให้หาเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไล่เลี่ยกับลูกสาวเขาที่ตายไป ให้ไปส่งที่อีกฟากหนึ่งของประเทศ สาวน้อยเอลลี่ เธอก็พบความสูญเสียมามาก ต้องอยู่รอดในภาวะอันเลวร้าย ทำให้เธอก้าวร้าว กระด้าง ไม่เป็นที่รักของใคร

เมื่อโจเอลต้องพาเอลลี่เดินทางข้ามประเทศ ระยะทางและระยะเวลาอันยาวนาน ทั้งคู่ได้พบเพื่อน ได้พบการสูญเสียเพื่อนที่รัก ต้องอยู่รอด ต้องพบเหตุการณ์สะเทือนใจ คนที่มาหลอกลวง คนที่ต้องการสังหาร ทำให้โจเอลและเอลลี่อ่อนโยนลง เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ รู้จักความรัก ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย แต่ทั้งคู่ได้ฟื้นฟูความเป็นคน ความเป็นพ่อและความเป็นลูก

สุดท้ายเมื่อโจเอลสามารถพาเอลลี่มาถึงที่หมายตามที่ว่าจ้าง และโจเอลได้รู้ว่า การว่าจ้างนี้ทำเพื่อพาเอลลี่มาที่ห้องทดลอง เพื่อพาเธอมาตรวจสอบว่าทำไมเธอจึงไม่ป่วย ทำไมเธอจึงไม่เปลี่ยนเป็นปีศาจทั้ง ๆ ที่เธอถูกกัดและติดเชื้อ

แต่การตรวจสอบและหายารักษามวลมนุษย์นั้น ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเอลลี่ โดยโจเอลพยายามทักท้วง ให้หาหนทางอื่น แต่องค์กรนี้ไม่ยอม เลือกที่จะปลดชีวิตเอลลี่ เอาเลือดและร่างกายของเธอมารักษาและป้องกันพวกที่เหลือ หากโจเอลขวางทาง ก็ต้องจบชีวิตเช่นกัน

ความรู้สึกสับสนในใจของโจเอล ที่ผ่านการเดินทางมาแรมปีกับเอลลี่ ผ่านความรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนลูกสาวที่ตายไปกลับมาอีกครั้งและเขาสามารถปกป้องเธอได้มาตลอดจนถึงวินาทีนี้ ความผูกผันของเอลลี่และโจเอล มันทำใจยากมากที่ทั้งคู่จะต้องแยกจากกัน และทำใจยากมากสำหรับโจเอลที่ต้องพบกับการสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้ง .....

สถานการณ์โรคร้าย โรคระบาดที่ควบคุมยาก มันทำลายสิ่งที่เคยปฏิบัติ ทำให้อยู่ยาก ทำให้ล้มตาย มันไม่ได้ทำร้ายเพียงกาย แต่มันยังเปลี่ยนให้หลายคน เกลียดชัง อคติ เห็นแก่ตัว แบ่งพวกแบ่งฝ่ายทำร้ายซึ่งกันและกัน เหมือนกับสถานการณ์ในโลกของเกม the last of us

แต่นั่นคือเกม ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง เราทุกคนเลือกได้ที่จะให้มนุษย์เราก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน หรือกัดกินทำลายกันเองดังเช่นเกมสร้างให้เรารู้สึกได้

คำถามสุดท้าย ถ้าคุณเป็นโจเอล คุณจะยอมเสียสละเพื่อมวลมนุษย์ หรือคุณจะหันหลังให้มนุษยชาติ และรักเอลลี่ต่อไป

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม