25 ตุลาคม 2564

กุญแจสำคัญของวัคซีน mRNA จากคาริโกและคัลเลน

 กุญแจสำคัญของวัคซีน mRNA จากคาริโกและคัลเลน

ในขณะที่คู่สามีภรรยา Ingmar Sahin และ Ozlem Turecci เริ่มยื่นทำวิจัย mRNA ในปี 2007 และได้รับทุนจากเยอรมันเพื่อพัฒนาวัคซีน mRNA (คือ BioNTech ในอนาคต) ในปีเดียวกันนั้นเอง Kariko เริ่มทำสตาร์ตอัพด้วยทุนวิจัยจากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน

คาทาลิน คาริโก ยึดแนวคิดของ Robert Malone ที่เจตนาจะนำ mRNA มาใช้เป็นยาและพยายามสานต่อแนวคิดของ Malone เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ความสำเร็จของคาริโกเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1997 ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สิ่งสำคัญที่คาริโกค้นพบและเป็นต้นแบบสำคัญของวัคซีน mRNA ปัจจุบัน คือการเปลี่ยนสารประกอบเบสจาก uridine เป็น pseudo-uridine

ก่อนหน้าที่คาริโกจะเปลี่ยนเบสตัวนี้ คาริโกกำลังสร้างวัคซีน mRNA เพื่อรักษาโรคเอดส์ ขณะนั้นวัคซีนต้นแบบสร้างการอักเสบรุนแรงและก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันมากเกินไป แต่เมื่อคาริโกเปลี่ยนสารประกอบเบสนี้แล้ว นอกจากเซลล์และเนื้อเยื่อจะไม่มองเห็นเป็นศัตรูที่จะเกิดปฏิกิริยารุนแรงแล้ว การอักเสบและพิษต่อเนื้อเยื่อก็ลดลงอีกด้วย

ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย คาริโกไม่ได้ค้นพบและวิจัยเพียงคนเดียว เพื่อนร่วมงานคนสำคัญคือ Drew Weissmann นักวิจัยชาวอเมริกัน ศิษย์โปรดของแอนโธนี่ ฟาวซี่ ผู้ที่มีบทบาทมากในการจัดการโรคโควิดในสหรัฐอเมริกา

ไวส์แมนคนนี้มีความสำคัญเพราะเป็นคนกว้างขวาง เครือข่ายมากมาย ไปร่วมงานกับหลายคณะวิจัย ทำให้องค์ความรู้เรื่องการผลิตวัคซีน mRNA เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

Uridine ไปเป็น Pseudo-uridine ประเด็นที่คาริโกค้นพบคือกุญแจสำคัญ

หลายทีมงานใช้เทคนิคนี้เพื่อทำให้ mRNA คงตัว เหนี่ยวนำการสร้างภูมิคุ้มกันและเป็นพิษภัยน้อยมากต่อเซลล์มนุษย์ แม้แต่ CureVac ที่ก่อตั้งก่อน เมื่อทราบกุญแจสำคัญดอกนี้ก็พยายามพัฒยาวัคซีนของตัวเองโดยลดสารประกอบเบส Uridine ลงเช่นกัน

แต่นั่นเป็นเพียงกุญแจดอกแรก กุญแจดอกที่สองที่ทำให้วัคซีน mRNA ประสบความสำเร็จขึ้นมาคือ การพัฒนา Lipid NanoParticle (LNP) สิ่งสำคัญที่จะนำเข้าเซลล์ จาก Pieter Cullis นักวิจัยจากแคนาดา

ถ้ายังจำได้ การพัฒนาไลโปโซมและไขมันที่จะนำอาร์เอ็นเอเข้าเซลล์ ได้มีแนวคิดมาตั้งแต่โรเบิร์ต มาโลนในปี 1988 แต่ยังไม่สำเร็จเพราะสารไลโปโซมที่ทำขึ้นนั้นยังอันตรายต่อเซลล์สัตว์ทดลอง และการพัฒนาไลโปโซมนั้นยังไม่ก้าวหน้า จนมาถึงงานวิจัยสำคัญของคัลเลน

ลักษณะของประจุในอนุภาคไขมันที่คัลเลนออกแบบมาใหม่ จะทำให้อาร์เอ็นเออยู่ในอนุภาคไขมันได้ดีและเข้าสู่เซลล์ได้ดี แต่ที่เพิ่มขึ้นมาเรียกว่า Ionizable lipid particle อนุภาคที่มีประจุเป็นกลางเมื่ออยู่ในกระแสเลือด แต่จะเปลี่ยนสภาพประจุไฟฟ้าได้เมื่อจะทำงานและเข้าเซลล์ สมบัติตรงนี้ช่วยลดอันตรายต่อเซลล์ลงได้มาก

คัลเลนเองใช้เทคนิคนี้เพื่อส่งอาร์เอ็นเอเข้าเซลล์เพื่อรักษาโรคทางพันธุกรรมที่หายากและแก้ไขยาก เมื่อเขาได้ข่าวความสำเร็จของความคงตัวและ mRNA ที่ดีของคาริโก เขาจึงพัฒนาและทำการศึกษาต่อยอด วัคซีน mRNA กับอนุภาคไขมันพิเศษของเขา และไปนำเสนอหลายบริษัท หลายบริษัทที่เป็นเครือข่ายของ Drew Weissmann หลายบริษัทที่กำลังศึกษาวัคซีนอาร์เอ็นเอ ทั้ง BioNTech, Moderna และ CureVac

คัลเลนเอง ไม่ได้ต่อยอดเรื่องวัคซีน mRNA แต่หันไปพัฒนา Lipid NanoParticle ก่อตั้งบริษัท Canadian Liposome Company ทุ่มเทเรื่องการนำส่งสารเข้าเซลล์ และกำลังวิจัยเพื่อตอบคำถามชาวโลกที่สงสัยว่า ผลข้างเคียงของวัคซีน mRNA ที่ใช้ในปัจจุบัน ที่เชื่อกันว่ามันมาจากอนุภาคไขมันพิเศษนี้ มันเป็นจริงหรือไม่ เราคงต้องรอคำตอบกัน

ประวัติครบ เทคโนโลยีครบ กุญแจครบ แล้วเกิดอะไรในตอนสุดท้าย?

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม