กินเจ ต้องรู้
ตอนนี้เทศกาลกินเจเริ่มต้น พวกเราหลายคนก็กินเจทุกปี หลายคนก็ชื่นชอบอาหารเจที่จะหาได้แค่ในช่วงเทศกาลนี้ ผมเคยเขียนเรื่องกินเจหลายครั้ง ปีนี้เรามาทบทวนการกินเจในแง่สุขภาพกันสักนิด
1.ต้องยอมรับว่าอาหารเจมีส่วนประกอบและเมนูของแป้งเยอะมาก เนื่องจากเมื่อขาดวัตถุดิบหลายชนิดแต่ยังต้องปรุงให้หลากหลาย จึงต้องใช้แป้งและส่วนประกอบมาสร้างสรรค์รายการอาหารให้น่ากิน ดังนั้น การกินแป้งมากขึ้นจะหมายถึงน้ำหนักที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น และค่าน้ำตาลที่สูงขึ้นในผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้นการควบคุม 'ปริมาณ' จึงเป็นประเด็นหลักครับ กินได้แต่อย่ากินเยอะ
2.แป้งส่วนมากเป็นแป้งขัดสี เอาล่ะแม้ว่าเราจะไม่ได้กินบ่อยก็เถอะ แต่ถ้ามีเมนูแป้งที่ไม่ขัดสี เช่นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต จะช่วยสมดุลของแป้งให้ไม่มีแป้งขัดสีมากเกินไป
3.เนื้อเทียมประเภทที่ทำจากแป้งสาลี เพื่อให้รูปแบบและรสชาติของอาหารเสมือนมีเนื้อสัตว์อยู่นั้น เป็นกลเม็ดการทำอาหารเจอย่างหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ แป้งสาลีนี้จะยังมีส่วนประกอบของ กลูเต็น ที่คนแพ้กลูเต็นต้องระวัง และหากกินแล้วมีอาการปวดท้องถ่ายเหลวมีเลือดปน อาจต้องคิดถึง Celiac Disease หรือ Gluten sensitive enteropathy
4.โปรตีนที่ทางอาหารเจเลือกใช้ จะเป็นโปรตีนจากพืชเช่นถั่ว เต้าหู้ โปรตีนจะมีกรดอะมิโนไม่ครบนะครับ แต่เนื่องจากเรากินเจระยะสั้น ก็ถือว่าไม่น่ากังวลครับ
5.เทียบปริมาณที่เท่ากันแล้ว อาหารเจ จะมีพลังงานต่อน้ำหนักที่สูงกว่าอาหารปรกติ ทั้งจากถั่ว งา น้ำมัน ดังนั้นต้องระมัดระวังพลังงานเกิน น้ำหนักเพิ่ม อร่อยได้แต่ระวังน้ำหนักเพิ่มครับ
6.ปริมาณเกลือ ทั้งจากเครื่องปรุงรสสารพัด และอาหารที่แปรรูปมาเพื่อแทนเนื้อ ไข่ ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่มีการผสมเกลือมากกว่าปรกติ ในช่วงการกินเจจึงควรเลี่ยงการใส่เครื่องปรุงปริมาณมาก เพราะในการประกอบอาหารและวัตถุดิบ ก็มีเกลืออยู่มากพอแล้ว
7.กินเจ ก็ดื่มนมได้ แต่ต้องเป็นนมถั่วเหลือง จะเป็นน้ำเต้าหู้ทำเอง หรือนมถั่วเหลืองบรรจุเสร็จได้หมดครับ ควรระวังเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองที่หวานจัด ก็จะเพิ่มน้ำตาลและอันตรายในผู้ป่วยเบาหวานครับ
8.โปรตีนน้อยลง สิ่งที่จะตามมาคือ หิวเร็วขึ้นครับ เคล็ดลับอย่างหนึ่งคือกินทีละน้อย ๆ แต่บ่อยขึ้น หรือมีอาหารว่างมื้อเล็ก ๆ ในช่วงบ่ายหรือดื่มนมถั่วเหลืองก่อนนอนครับ
ผมไม่ได้กินเจนะครับ แต่แม่ค้าที่เราติดใจ 'ในรสชาติอาหาร' เขาขายเจ ก็เลยต้องกินไปด้วยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น