23 พฤศจิกายน 2565

LAMA/LABA สำคัญอย่างไรในการรักษาถุงลมโป่งพองยุค 2023

 LAMA/LABA สำคัญอย่างไรในการรักษาถุงลมโป่งพองยุค 2023

จากคำแนะนำการรักษา GOLD ที่ถือเป็นคำแนะนำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกเรา เพิ่งออกคำแนะนำใหม่ 2023 ขอบอกว่าน้อง ๆ หมอคงต้องอ่านฉบับนี้ละเอียด เพราะไม่ใช่แค่ไมเนอร์เชนจ์แล้ว แต่เป็นโมเดลเชนจ์เลย
หนึ่งในคำแนะนำคือ แนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาสูดขยายหลอดลมออกฤทธิ์ยาวชนิดรวมตั้งแต่แรกที่เริ่มรักษา LA คือ long acting คือออกฤทธิ์ยาว 12-24 ชั่วโมง ใช้วันละครั้งได้
LABA คือ long acting beta2 agonist
LAMA คือ long acting muscarinic antagonist
LABA/LAMA เช่น tiotipium/olodaterol หรือ umeclidinium/vilanterol หรือ glycopyrrolate/indacaterol
ยาทั้งสองออกฤทธิ์คนละจุด แต่ทำงานร่วมกันคือขยายหลอดลมและลดสารคัดหลั่ง ช่วยลดอาการ เพิ่มความสามารถการออกแรง ลดการกำเริบ ในอดีตในระยะแรกของการป่วย เราจะใช้ยาตัวใดตัวหนึ่ง หากควบคุมไม่ได้หรือกำเริบจึงใช้ยาทั้งคู่ โดยใช้หลอดแยกหรือหลอดรวมก็ได้
แต่ในยุคปี 2022 การศึกษาที่ออกมาใช้ยาทั้งคู่แบบหลอดรวม มีผลการรักษาที่ดีกว่ายาเดี่ยวตัวเดียวไม่ว่าตัวใดตัวหนึ่ง ดีกว่าชัดเจน และผลข้างเคียงไม่ได้มากไปกว่ายาเดี่ยว ในเมื่อเราอยู่ในยุค evidence based คือ หลักฐานอันไหนดีกว่ากัน ก็เถียงไม่ได้ว่าคำแนะนำนี้ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยกระดับมาเป็นยาตัวแรกในทุกกลุ่มทุกระยะ ในผู้ป่วยที่อาการคงที่ ไม่กำเริบ
แล้วฉันใช้ยาเดี่ยวอยู่ต้องเปลี่ยนไหมล่ะ !!!
ถ้าเราไปดูแต่ละการศึกษา จะพบว่ามีนัยสำคัญทางสถิติจริง แต่ถ้าไปดู magnitude คือมันเปลี่ยนเยอะไหม และมีความสำคัญทางคลินิกมากเพียงใดเมื่อเทียบกับยาเดี่ยว ก็ต้องตอบว่าไม่มากเท่าไร เรียกว่า เปลี่ยนก็ดี แต่ไม่เปลี่ยนก็ไม่ได้ผิดถ้ายังคุมโรคได้ จะเปลี่ยนก็ดูสิทธิการรักษา ราคายา ยาจะมีตลอดไหม อันนี้ก็เป็นข้อมูลช่วยตัดสินใจ ส่วนวิธีสูดเกือบทั้งหมดใช้ device เดิม
ถ้าเพิ่งวินิจฉัย ไม่เคยได้ยา อันนี้จะแนะนำยารวมก่อนครับ…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม