19 พฤศจิกายน 2565

royal disease ตอนที่ 5 ตอนจบ

 บทส่งท้าย

โรงแรมเล็ก ๆ ใกล้กับพระราชวังเคนซิงตัน, อังกฤษ, 1922
ก๊อก ๆ …เข้ามาได้ : คุณหมอวัยกลางคนแต่ยังหน้าหนุ่ม นั่งอยู่ในห้องโรงแรม รอการเข้ามาของผู้มาเยือนที่นัดหมายกันไว้ คุณหมอติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้เอาเลือดของ ลีโอโปลด์ หลุยส์ เม้าท์แบทเท่น ทายาทผู้ชายคนสุดท้ายของสายเลือดพระราชินีวิคทอเรีย บุตรชายเจ้าหญิงบีอาทริซ ลีโอโปลด์เพิ่งเสียชีวิตจากเลือดออกมากหลังผ่าตัดข้อสะโพก !!
หลังจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เอคาเทอรินเบิร์ก 1918 คุณหมอหนุ่มถูกไล่ล่าจากสายลับของบอลเชวิก เพื่อทรัพย์สินอันทรงคุณค่ายิ่ง คือ ตัวอย่างเลือดหยาดสุดท้ายของอเล็กไซที่คุณหมอเก็บไว้ได้ ก่อนที่ศพของเหยื่อฆาตกรรมหมู่จะถูกแยกย้ายไปฝัง นั่นรวมถึง ยูจีน บอตสกิน เพื่อนของเขา
สี่ปีที่ต้องหลบหนี คุณหมอก็ยังได้ค้นคว้าต่อเนื่อง จนสามารถร่างทฤษฎีของเขาได้ว่า โรคเลือดออกผิดปกติที่อเล็กไซและลีโอโปลด์เป็นอยู่นี้ เกิดจากขาดสารการแข็งตัวของเลือดบางอย่าง น่าจะเป็นมาแต่เกิดและถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ลักษณะการถ่ายทอดไปกับโครโมโซมเพศ X ที่เป็นยีนด้อย เพราะเพศหญิงมีโครโมโซม X สองตัวโอกาสจะเกิดยีนด้อยทั้งคู่น้อยมาก จึงเกิดโรคแต่ในผู้ชาย และผู้ชายที่เป็นโรคก็มักจะเสียชีวิตก่อนจะมีลูก ผู้หญิงที่เป็นพาหะจึงถ่ายทอดยีนต่อไป ในครอบครัวของราชวงศ์พระนางวิคทอเรีย มีการแต่งงานกันในเครือญาติบ่อยมาก โอกาสที่ยีนด้อยจะมาเจอกันจึงสูงขึ้น และทายาทคนสุดท้าย ลีโอโปลด์ ที่คุณหมอทำนายไว้ว่าน่าจะเป็นโรค สุดท้ายก็ป่วยเป็นโรคเลือดออกง่ายอย่างที่คาด
ทฤษฎีและตัวอย่างเลือด สมุดบันทึก คุณหมอกลางคนหน้าหนุ่มเก็บไว้ในกล่องบุหนังหรูหรา ภายในมีผ้าขนสัตว์ชั้นดี และที่สำคัญกล่องนั้นประทับตราราชวงศ์โรมานอฟ กล่องใบที่สูญหายไปจากบัญชีที่ยูรอฟสกี้ ทำบัญชีส่งพรรคบอลเชวิก ใบที่เก็บความลับแห่งโรมานอฟเอาไว้นั่นเอง
กล่องนั้นสูญหายไปกับกาลเวลาจนกระทั่ง
ปี 1952 มีการค้นพบและแถลงข่าวโรคเลือดออกง่ายที่ชื่อว่า Chrismas disease ตามชื่อผู้ป่วยชาวแคนาดา Stephen Chrismas และพบว่าเกิดจากการขาดแฟกเตอร์ IX (เก้า) ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ X-linked Recessive ซึ่งในเวลาต่อมาได้รับการตั้งชื่อว่า hemophilia B
ในปีนั้นเอง นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าโรคเลือดออกง่ายที่คิดว่าเป็นคำสาปของตระกูลพระนางเจ้าวิคทอเรีย แท้จริงคือโรคฮีโมฟิเลีย บี จึงได้ชื่อว่า the Royal Disease ในงานแถลงข่าวโรคนี้มีภาพของชายชราหน้าหนุ่มคนหนึ่ง นั่งอยู่ริมสุดของโต๊ะสัมภาษณ์ บนโต๊ะตรงหน้าเขามีกล่องบุหนัง ประทับตราบางอย่างที่วันนั้นไม่มีใครจำได้ วางอยู่ตรงหน้าเขา
ในมือชายชราหน้าหนุ่มนั้นถือรูปภาพของ ยูจีน บอตกิน คุณหมอประจำราชวงศ์โรมานอฟ ผู้ยอมเสียสละตัวเองจนวาระสุดท้าย....
จบบริบูรณ์ อย่าลืมอ่านบทแถม
แถม
Ipatiev House ถูกบอลเชวิกทุบทิ้ง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Yekaterinburg's Church on the Blood ดูชื่อก็สื่อความหมายแล้ว
Eugene Botkin มีตัวตนจริง ชื่อจริงคือ Yevgeny Sergeyevich Botkin เป็นหมอประจำครอบครัวโรมานอฟ และเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น (ที่เรียกบอตสกิน ก็เพราะเลยตามเลยมาแล้ว 555 มาแก้ไขตอนจบ ถือว่าเป็นตัวละครเสมือนแล้วกันนะ)
Yakov Yurovski มีตัวตนจริง นายทหารที่ควบคุมตัวราชวงศ์โรมานอฟ และเป็นผู้ควบคุมการสังหารในครั้งนั้น
Alexei และ Anastasia ถูกแยกมาฝังจากคนอื่น ส่วนคนอื่นหลังจากสังหารแล้วก็ถูกปลดเครื่องประดับ แล้วราดทำลายศพด้วยกรดซัลฟุริกเข้มข้น ก่อนนำไปฝังที่อื่น
อีกอร์ ไม่มีตัวตน ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกน้อง ลูกจ๊อก ในฝั่งยุโรปตะวันออกต้องชื่ออีกอร์
กุหลาบขาว มีจริงอยู่ในเยอรมัน ผมสมมุติมาที่โซเวียต เป็นกลุ่มใต้ดินในเยอรมันที่ต่อต้านพรรคนาซีของฮิตเลอร์
กระท่อมที่เชื่อมโยงไปห้องใต้ดิน ไม่มีอยู่จริง แต่ห้องใต้ดินของ ipatiev house มีอยู่จริงและเป็นสถานที่สังหารหมู่
เลวานดอฟสกี้ ยังอยู่ในปัจจุบัน คือ กองหน้าพระกาฬของบาร์เซโลน่าและทีมชาติโปแลนด์
หมอหนุ่ม,หมอกลางคนหน้าหนุ่ม,ชายชราหน้าหนุ่ม มีตัวตนจริง พบตัวได้ตามร้านกาแฟที่บาริสต้าสวย ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น