22 มกราคม 2565

เดินทางไกลไปหาเพนกวิน

 “เดินทางไกลไปหาเพนกวิน”

เดินทางไปแอนตาร์กติกา ก็ดูไม่น่าจะมีอะไรตื่นเต้น หรือจะเดินทางไปดูเพนกวิน ใคร ๆ ก็สามารถไปดูได้ แต่ถ้าคนคนนั้นคือ สุภาพสตรีอายุ 86 ปี และเดินทางคนเดียวเพื่อไปยังจุดที่ลำบากมากที่สุดจุดหนึ่งในแอนตาร์กติกา และไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปเพื่อ “ช่วย” นกเพนกวิน มันก็จะเป็นเรื่องน่าสนใจขึ้นมาทันที

สุภาพสตรีวัย 86 เวรอนิก้า แม็คกรีดี เธอมีความสุขทางกายตามสภาพ มีบ้านหลังโต มีเงิน มีคนดูแล มีสุขภาพที่ดีพอที่จะเดินไปซื้อคุ้กกี้และจิบชายามบ่ายได้ทุกวัน ตอนนี้เธออยู่คนเดียว สามีตายจากไปแล้ว เป็นคุณยายแก่ ๆ (ที่ตามเรื่องบอกว่า ไม่ได้น่ารักน่ากอดสักเท่าไร) เข้มงวดและขี้บ่น โดยเฉพาะหากใครก็ตามเปิดประตูทิ้งไว้ เธอจะบ่นจนคนนั้นต้องมาปิด หรือไม่ก็ลุกไปปิดเอง

แต่ตัวเธอเองก็ซ่อนเร้นเรื่องราวในอดีตอันเป็นความลับมาตลอด ปกปิดไว้ภายใต้ท่าทางอันทระนงและเข้มแข็งอันนั้น

อยู่มาวันหนึ่ง การดูสารคดีชีวิตสัตว์ที่ไปถ่ายทำชีวิตของนกเพนกวินกับทีมนักวิทยาศาสตร์อนุรักษ์นกเพนกวิน ที่เกาะล็อกเก็ตในแอนตาร์กติกา ก็เปลี่ยนชีวิตและไปสะกิด “บางอย่าง” ที่เธอซ่อนเร้นมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี เธอตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้คือ เดินทางไปที่เกาะนั้น เดินทางไปเพื่อเห็นนกเพนกวินและทีมนักวิทยาศาสตร์นั้นด้วยตาตัวเอง และก่อนหน้าที่เธอจะไป เธอได้ตัดสินใจตามหาญาติเพียงคนเดียวของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลก ด้วยวัตถุปะสงค์บางอย่าง ที่จะเฉลยและค่อย ๆ เผยเรื่องราวช้า ๆ ตามการเล่าเรื่องไปขั้วโลกใต้ของเธอ

หนังสือกล่าวถึงการออกเดินทางไปที่ชั้วโลกใต้ ที่นั่นเวรอนิก้าจะไม่ได้มีความสะดวกสบาย ต้องทนสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ พายุหิมะ และแค้มป์พักแรมของนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าเพนกวินทั้งสามคน ที่ไม่น่าจะเป็นมิตรกับสุภาพสตรีวัย 86 ที่แสนเข้มงวดและดื้อรั้นสักเท่าไร แต่ความตั้งใจอันแรงกล้าของเธอที่จะไปเยี่ยมชมนกเพนกวิน เพื่อตัดสินใจบริจาคเงินก้อนโตให้กับกองทุนของนักวิจัยเหล่านี้ เอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากได้

ที่นั่น...อิสระจากผู้คน มีแต่ธรรมชาติและเพนกวิน ได้ค่อย ๆ เปิดใจของสุภาพสตรีชรา ให้ย้อนถึงเรื่องราวในอดีตของเธอว่า อดีตอันแสนรวดร้าวก็เพียงแต่ปล่อยมันทิ้งไป เรายังสามารถทำสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีได้ และเผื่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เหมือนกับที่เธอตั้งใจจะช่วยอนุรักษ์บรรดาเพนกวินที่ใกล้จะสูญพันธุ์เหล่านี้ และเรื่องราวความรักความเอาใจใส่เพนกวินก็ได้ผูกโยงไปถึง แพทริก หลานชายคนเดียวของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งไม่เคยพบกันมาเลย ว่าตัวเวโรนิกาเองจะเปิดใจรับ แพทริกได้ไหม

และแพทริกเองจะสามารถเปิดใจ เข้าใจ ว่าทำไมเวรอนิก้า จึงหายไปจากชีวิตของเขา หายไปจากชีวิตของพ่อของเขา มาตลอด เมื่อวันหนึ่งเวรอนิก้า เจอพายุหิมะ และล้มป่วยปางตาย แพทริกที่ต้องดั้นด้นมาหาเวรอนิก้า มาหาคำตอบสุดท้ายแห่งความลับของเวรอนิก้า ที่ทิ้งให้เขาไว้อ่านในสมุดบันทึก ก่อนจะมาที่แอนตาร์กติกา ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

ผ่านเรื่องราวที่สนุก ได้เห็นความดื้อรั้นของเวรอนิก้า ได้เห็นความวุ่นวายของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสามคนที่ต้องต้อนรับเวรอนิก้า (เพราะเธอจ่ายงาม) ความน่ารักของ “พีบ” เพนกวินกำพร้าที่เธอเก็บมาดูแล และเปิดใจเธอช้า ๆ ค่อย ๆ เปิดความลับเรื่องราวของเวรอนิก้า และแพทริก รวมถึงจิ๊กซอว์สำคัญ คือ พ่อของแพทริก ว่าสุดท้ายเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่

ไม่ใช่บันทึกการเดินทาง ไม่ใช่นิยายรัก ไม่ใช่นิยายสืบสวน แต่อ่านสนุก แสบสันต์ ลงตัว มีความสุข อุ่นใจ ไม่ยาวจนเกินไปและไม่สั้นจนเสียอรรถรส

แต่งโดย Hazel Prior แปลโดย ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ หนังสือขนาดบีห้า หนา 405 หน้า จากสำนักพิมพ์ sandwich publishing ราคาปก 395 บาท หาซื้อได้ตามร้านชั้นนำ ผมซื้อจากนายอินทร์ ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้นะครับ

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, หนังสือ และ ข้อความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น