08 พฤศจิกายน 2563

การไปเรียนเสริมหรือประชุมวิชาการแบบ "มินิมอล"

 การไปเรียนเสริมหรือประชุมวิชาการแบบ "มินิมอล"

การเรียนการศึกษาต่อเนื่องหลังจบการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ เพราะวิทยาการก้าวไปข้างหน้าและทิ้งเราให้อยู่เบื้องหลังทุกวัน แต่การเสาะแสวงหาหนทางการเรียน ก็ไม่ง่ายนัก ยิ่งกับคนที่เรียนจบไปแล้ว ต้องทำงาน ต้องขาดงาน ขาดเงิน ขาดรายได้ แลกกับความรู้ที่ต้องพัฒนา แต่ก็คุ้ม วันนี้ผมจะมาบอกเล่าประสบการณ์ของการไปเรียนแบบประหยัด เสียเงินน้อย ที่เรียกว่า minimal ครับ

การวางแผนจัดเวลาสำคัญมาก .. งานวิชาการพวกนี้จะมีตารางล่วงหน้าครับ เราต้องวางแผนเลยว่าปีนี้จะไปงานอะไร กี่วัน อย่าให้รบกวนวันลาหรือกระทบรายได้รายวันมากนัก การจัดตารางล่วงหน้าหนึ่งปีจะทำให้วางแผนได้ดีมาก และเผื่อใจงานวิชาการที่เราเพิ่งรู้นอกแผนสักสองสามงาน เตรียมทางหนีทีไล่และเงินสำรองไว้ด้วย

ค่าลงทะเบียน ...
ผมขอกล่าวในกรณีขอเบิกไม่ได้ หรือใช้โควต้าหมดไปแล้วนะครับ ค่าลงทะเบียนถือว่าเป็น fixed cost ต้องจ่ายเสมอ ไม่ว่าเรียนแบบเห็นหน้าหรือออนไลน์ ถ้าเราวางแผนเราจะเก็บเงินล่วงหน้าได้ หรือใครสามารถใช้บัตรเครดิตที่มีโปรผ่อนแบบศูนย์เปอร์เซนต์ ก็ใช้ได้นะครับ หลายบัตรก็มีโปรใช้จ่ายแล้วมาจัดผ่อน

ที่พักและค่าใช้จ่ายด้านที่พัก ..

หลายงานประชุมจัดที่โรงแรม ก็สะดวกดีครับ ตื่นนอนอาบน้ำกินข้าวแล้วมาเรียน แต่ส่วนมากงานประชุมก็จะต้องอาศัยห้องประชุมโรงแรมใหญ่ที่ค่าโรงแรมที่พักจะแพงไปด้วย เราก็อาจไปพักโรงแรมที่ราคาย่อมเยากว่า โดยคำนวณค่าเดินทาง เวลาในการเดินทางด้วย ว่าคุ้มค่ากับเงินที่ประหยัดได้จากการนอนโรงแรมราคาถูกกว่าหรือไม่ ปัจจุบันมีโรงแรมขนาดเล็กที่สะอาดและปลอดภัยมากมาย หาได้จากในเน็ตและแอป จองล่วงหน้า ยกเลิกฟรี แถมราคาถูกกว่าเดินเข้าไปเองอีก สามารถเลือกได้ครับ ประหยัดไปมากเลยนะ ผมเองก็ใช้บริการอพาตเม้นต์รายวันบ่อยมาก อย่าลืมว่าแค่ใช้นอนเองนะครับ

หลายงานจัดที่โรงพยาบาลหรือสถานที่ราชการ อันนี้ผมแนะนำห้องพักแถวโรงพยาบาลเลยครับ ทุกโรงพยาบาลจังหวัดจะใกล้ที่พักหมดแหละครับ หาได้ไม่ยาก ระยะทางก็แค่เดินถึงด้วย ได้ออกกำลังกายและประหยัดทั้งเงินและเวลาเดินทาง แม้แต่ในกทม. ก็มีนะครับ ไม่ต้องสนใจสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แค่จำเป็น นอนได้ ปลอดภัย สิ่งอื่น ๆ หาเพิ่มเอาได้ครับ

การเดินทาง ...

ใครจะขับรถส่วนตัวก็สะดวกดี ข้อเสียคือ เหนื่อยมาก ดูดพลังการประชุมและหากต้องขับรถจากที่พักไปห้องประชุมที่รถติดมาก ๆ จะเสียเวลาสุด ๆ เช่นที่พัทยาเป็นต้น

แต่ถ้าใครจะใช้บริการรถสาธารณะ ให้ทำการบ้านด้วยว่า รถประจำทางหรือรถไฟนั้นมีกี่เที่ยว ออกเวลาใด ณ จุดใด จะได้ไม่ตกรถ เดี๋ยวนี้กดกูเกิ้ลก็ทราบได้ โทรถามล่วงหน้าหรือจองตั๋วได้สะดวก ยิ่งไปจ่ายตามเซเว่นได้ยิ่งสะดวกครับ และจากสถานีขนส่ง เราจะไปที่พักอย่างไร รถสองแถว รถเมล์ท้องถิ่น พี่วินพี่ตุ๊กพี่แท้กพี่แกร้บ เดี่ยวนี้หาได้ไม่ยากครับ คำนวณค่ารถให้ดี ราคาค่ารถปัจจุบันไม่แพงครับ
ส่วนเรื่องการประชุมต่างประเทศเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังต่อไป

อาหารการกิน ...
ถ้าที่พักมีอาหารเช้าให้ก็ดีครับ แต่ถ้าพักแบบราคาถูกอย่างผม เราจะได้แค่ที่พัก ผมมักจะเลือกที่พักใกล้โรงพยาบาลเพราะแถวนั้นจะมีตลาดเสมอ สามารถหาอาหารเช้าและเย็นในตลาดได้ไม่ยาก หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อก็มักจะรายล้อมอยู่หน้าโรงพยาบาล

อยากให้คิดว่าเรามาเรียนไม่ได้มาเที่ยว กินอาหารง่าย ๆ อิ่มท้อง ไม่แน่นไม่เป็นพิษจะดีกว่าครับ ในตลาดมีให้เลือกเพียบเลย อาหารที่ผมนิยมคือ หมูย่างข้าวเหนียว และพกซีเรียลบาร์ ส่วนอาหารเย็นก็อาหารจานเดียวตามสั่ง แถมได้กินอาหารท้องถิ่นนั้นง่าย ๆ เลยนะครับ (ผมชอบเสาะแสวงหาก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดในตลาด) ได้ประสบการณ์ดีด้วย

เสื้อผ้าหน้าผม ...
ไม่ต้องเอาไปเยอะครับ จัดที่ไม่ยับและม้วนลงกระเป๋าได้ง่าย มีชุดอาบน้ำแปรงฟันขนาดเล็กจัดเอาไว้จะสะดวก และอย่าไปหาเอาดาบหน้าครับ จัดไปเลย ใช้พื้นที่ไม่มากและซื้อครั้งหนึ่งใช้ได้หลายงาน ของผมนี่ปกติใช้ได้ห้าถึงหกครั้ง ของเล่นต่าง ๆ ของใช้ไม่จำเป็นไม่ต้องเอาไป หนักและรก ไม่ได้ใช้หรอกครับ เอาไปแค่ปลั๊กชาร์จไฟ โน้ตบุ๊ก (ถ้าจำเป็น) ยาประจำตัว หนังสืออ่านหรือแท็บเล็ต กับเครื่องมือสื่อสาร สมุดปากกา แค่นี้ก็พอ

ผมไปเรียน ไปประชุมมาหลายที่หลายโรงพยาบาลมาหลายปี ก็ทำแบบนี้ ในสถานที่ที่ไม่ไกลมาก ส่วนมากอยู่ในตัวจังหวัด เสียค่าใช้จ่ายไม่นับค่าลงทะเบียน โดยรวมประมาณไม่เกิน 1000 บาทต่อวัน (รวมทุกอย่างมาหารจำนวนวันที่ใช้)

แล้วจะมาบอกเล่าเรื่องราว วิธีการพัฒนาความรู้ด้วยตัวเอง ในแบบลุงหมอ ในตอนต่อไปนะครับ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น