25 มกราคม 2562

carrying angle of forearm

carrying angle of forearm
ธรรมชาติช่างสรรสร้างความพอเหมาะพอดี คุณลองคิดหรือลองทำดูก็ได้ ถ้าคุณยืนตรงแขนทิ้งดิ่งข้างลำตัว ศอกเหยียดตึง หันผ่ามือไปด้านหน้า นิ้วหัวแม่มือออกนอกลำตัว นิ้วก้อยชิดลำตัว ที่เราเรียกว่า ท่า anatomical position แล้วเดินไปข้างหน้าแกว่งแขนแบบหุ่นยนต์ทื่อ ๆ เลยนะ สิ่งที่คุณจะพบคือท่อนแขนส่วนล่างจะแกว่งไม่ได้หรือได้ไม่ถนัดเพราะ... ติดสะโพก
ธรรมชาติได้ทำการแก้ไขปัญหานี้ โดยสร้างมุมระหว่างแขนท่อนบนและท่อนล่าง ไม่ให้ต่อกันศูนย์องศาเป๊ะ คุณลองยืนตรงท่าเดิมแล้วเอาแขนท่อนบนแนบสีข้างไว้ ไม่ต้องเกร็งศอก คุณจะพบว่าแขนท่อนล่างกางออก นี่แหละมุมที่เรียกว่า carrying angle สร้างมาเพื่อเวลาเดินจะได้หลบสะโพกได้ มนุษย์เราจึงเดินตรงได้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่ใช่ สง่า มยุระ เพราะนั่นคือพู่กัน
ยังไม่พอ ผู้ชายนั้นหัวไหล่และหน้าอกจะกว้างกว่าผู้หญิง ส่วนสะโพกก็ไม่ขยายออกเท่าผู้หญิง มุม carrying angle จึงไม่ต้องเบี่ยงออกมากนัก มุมจะแคบและแขนตรงมากกว่า ยิ่งหน้าอกผายไหล่ผึ่งสูงชะลูดตูดปอดล่ะก็...ตรงเชียวแหละ (ท่อนแขนเป็นมุมตรงนะ)
ส่วนผู้หญิงจะมีความโค้งเว้าตามธรรมชาติ ต่อให้คุณเป็นเสาโรมันแค่ไหนคุณก็โค้ง หัวไหล่และหน้าอกแคบกว่าผู้ชาย สะโพกก็ผายออกเพื่อรองรับการตั้งครรภ์ ดังนั้นมุม carrying angle จึงกางออกมากกว่าชาย ดังภาพที่เอามาให้ดู มุมกว้างทีเดียวแสดงว่าต้องหลบหลีกส่วนโค้งที่แสนสะดุดตานั่น...โอววว (กรุณามองเป็นภาพเรขาคณิตดังที่ผมวาดมาให้ดู)
จริง ๆ ดูสารคดีเรื่องดนตรีคลาสสิกแล้วเห็นว่าหญิงและชายจับไวโอลินต่างกัน ลองสังเกตดูนะครับ เป็นที่มาของเรื่องนี้ หาใช่ท่อนแขนมุมตรง และส่วนโค้งสะดุดตา หาได้ไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น