23 กรกฎาคม 2558

ยารักษาโรคกระดูกพรุน

ยารักษาโรคกระดูกพรุน

สวัสดีครับ ผมคิดว่าวันนี้เรามาต่อกันอีกหน่อยนะเรื่องของยารักษากระดูกพรุน ปัจจุบันนี้ท่านอาจจะได้พบแพ็กเกจการตรวจมวลกระดูกมากมาย แต่ท่านไม่ได้รับข้อมูลเลยว่าถ้าตรวจผิดปกติแล้วจะรักษาอย่างไร หรือใช้ยาอะไร ท่านจำเป็นไหม ผลเสียของยามีอะไรบ้าง ข้อมูลเหล่านี้ท่านควรทราบก่อนตรวจนะครับ
ยาที่ใช้รักษากระดูกพรุนนี้ส่วนมากจะมีข้อบ่งชี้ในการรักษาโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนเป็นหลักครับ เราพิจารณากันไปทีละตัวครับ

1. bisphosphonates ยากลุ่มนี้จะช่วยยับยั้งการสลายกระดูก ในรูปยากินนั้นยาต้องกินตอนท้องว่างๆครับ เพราะมันดูดซึมไม่ดี และในกลุ่มยากินก็จะมีผลข้างเคียงเรื่องกระเพาะอาหารระคายเคืองจนถึงหลอดอาหารอักเสบได้ และตอนนี้ก็มียาฉีดที่ผลข้างเคียงต่ำและให้ยาปีละหนึ่งครั้งได้แล้วด้วย ใช้ป้องกันกระดูกพรุนได้ทุกแบบทั้งหญิงและชาย (ดูช่างง่ายสำหรับคนสั่งจ่ายยามาก อิอิ) ในกลุ่มยากินเช่น alendronate,risedronate หรือแบบฉีดปีละ 1 เข็มคือ zoledronate

2.Raloxifene ยานี้เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนดัดแปลง คืองี้ อย่างที่กล่าวไปแล้วครับว่าการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้กระดูกพรุน ซึ่งพบในหญิงหมดประจำเดือน ถ้าเราใส่ฮอร์โมนเข้าไปน่าจะช่วยลดกระดูกพรุนได้ โดยแปลงฮอร์โมนเล็กน้อยให้ออกฤทธิ์ตรงจุดที่ต้องการ เพื่อลดผลข้างเคียงอื่นๆ เป็นยากินครั้งละ 1 เม็ด ยานี้ลดได้แต่โอกาสกระดูกสันหลังเท่านั้นนะครับ ไม่ช่วยกระดูกพรุนที่จุดอื่น และต้องระวังลิ่มเลือดดำอุดตันด้วยครับ

3.Calcinonin สร้างเลียนแบบฮอร์โมน calcitonin (ช่วยให้แคลเซียมถูกกระดูกดูดซึมไปทำประโยชน์ได้) แต่เราสังเคราะห์เอามาจากปลาแซลมอน ซึ่งมีทั้งรูปยาฉีดจมูกและยาฉีดใต้ผิวหนัง ยานี้ป้องกันได้แต่กระดูกสันหลังครับ

4.Teriparatide ยานี้เป็นการใช้พันธุวิศวกรรมสร้าง ฮอร์โมน parathyroid ของมนุษย์มาใช้สร้างกระดูกเลยครับ ยาอื่นๆข้างต้นออกฤทธิ์ลดการสลายกระดูกแต่ตัวนี้กระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่เลย เป็นยาฉีดราคาแพง รักษากระดูกพรุนได้หมดทั้งหญิงและชาย แนะนำใช้ในรายที่ได้ยาอื่นแล้วล้มเหลว และไม่ใช้ยานี้เกิน 2 ปี เนื่องจากมีรายงานเกิดมะเร็งกระดูกในหนูทดลองที่ได้ยานานๆ

5.Strontium ranelate ยานี้ทั้งลดการสลายและเพิ่มการสร้างทั้งคู่เลย และมีอิทธิพลต่อพันธุกรรมของเซลล์ควบคุมกระดูกเลย เป็นยากินที่ออกฤทธิ์กลางๆ ใช้ป้องกันได้ทั้งกระดูกสันหลังและกระดูกอื่นๆ แต่ใช้เฉพาะหญิงวัยหมดประจำเดือนเท่านั้นครับ

ยังมียาอื่นๆอีกนะครับแต่ห้าตัวนี้คือยาหลักๆ ปัญหาคือยังไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่าจะกินยาไปถึงเมื่อไร โดยทั่วไปตามการศึกษาที่ทำก็ 3-6 ปี ส่วนมากพอหยุดยามวลกระดูกที่เคยเพิ่ม ก็จะลดลง ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ว่าได้ผลดีนี่คือ ต้องกินอาหารที่มีแคลเซียมเพียงพอ วิตามินดีครบ ออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น