ภาพนี้เก็บไว้นานแล้ว ลืมลงให้อ่าน
ผู้ป่วยได้รับการเจาะน้ำตรวจ พบว่าเป็น parapneumonic effusion คือปฏิกิริยาเกิดน้ำในเยื่อหุ้มปอด อันเกิดจากปอดติดเชื้อ ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงก็ประคับประคอง ไม่ต้องระบายออก ผู้ป่วยมีโรคเดิมคือเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไตเสื่อม
ภาพคลื่นไฟฟ้าหัวในภาพบนทำเมื่อแรกรับ ก็ปกติดี
แอดมิตวันที่สาม ผู้ป่วยมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ขณะเช็ดตัว เจ็บแน่น เหงื่อออก ร้าวมาที่ต้นคอ และแขน "ด้านขวา"
และภาพด้านล่างคือภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจทำทันทีหลังผู้ป่วยบ่นแน่น ปรากฏว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิด ST elevation จึงส่งทำการสวนหัวใจ พบว่าตีบ 90%
อยากบอกว่า
1.เจ็บแน่นอก ร้าวไปด้านขวา ก็เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันได้ (อันนี้เขียนใน Harrison เลย)
2.ลักษณะการเจ็บแน่น มีความสำคัญมาก โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ต้องเป็นหนึ่งในโรคที่คิดเสมอ จนกว่าจะพิสูจน์ว่าไม่ใช่
3.ผู้ป่วยมีโรคของเยื่อหุ้มปอดขวา มีอาการแบบนี้ อาจคิดว่าเป็นโรคเดิม หรือผลแทรกซ้อนโรคเดิม มันก็เป็นไปได้ แต่อย่างไร การแยกโรคอื่นที่ฉุกเฉินของเจ็บแน่นหน้าอก ต้องคิดเสมอ
4.ผู้ป่วยเป็นโรคที่เสี่ยงหลอดเลือดตีบ จะมีโอกาสตีบได้เสมอ ยิ่งเป็นเบาหวาน ลักษณะอาการตีบ อาจไม่ตรงไปตรงมาเหมือนตำรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น