29 กรกฎาคม 2568

PrEP โดยใช้ Lernacaprevir

 การป้องกันคุ้มค่ากว่าการรักษาเสมอ : PrEP

พวกคุณคงรู้จักวิธีการป้องกันการติดเชื้อ HIV ที่เรียกว่า Pre-Exposure Prophylaxis กันแล้ว คือให้ผู้ที่ไม่ติดเชื้อกินยาต้านไวรัสก่อนการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัย ไม่ว่าจะชายชาย ชายหญิง มีการศึกษาวิจัยมากมายที่บอกว่าช่วยลดการติดเชื้อ HIV ได้จริง
แต่ว่าเมื่อนำมาใช้ในชีวิตจริง ทำไมอัตราการติดเชื้อ HIV มันไม่ลดลงตามคาด คำตอบคือ adherence ของการป้องกัน กินยาไม่สม่ำเสมอ ลืมกิน ไม่กินยา ไม่ใช้ถุงยาง ไม่ว่าจะเป็นวิธีกินยาแบบกินไว้ก่อน ไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดเพศสัมพันธ์เมื่อใด หรือทราบกำหนดการมีเพศสัมพันธ์และกินก่อนมีเพศสัมพันธ์แล้วหยุด
แต่ในการศึกษามันทรงประสิทธิภาพมากว่าลดการติดเชื้อ เพราะมีการทำความเข้าใจและย้ำการป้องกันเคร่งครัดมาก แต่ในชีวิตจริงมันไม่ใช่ จึงเป็นที่มาว่าถึงแม้กินยาก็ไม่ควร “สด”
เดือนกรกฎาคมนี้คำแนะนำองค์การอนามัยโลก การรับรองจากองค์การอาหารและยายุโรป การรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ ได้รับรองการใช้ PrEP แบบใหม่ เพื่อลดการติดเชื้อได้ทรงประสิทธิภาพและปิดจุดอ่อนของวิธีเดิม
Lernacaprevir ยาต้านไวรัสชนิดใช้ทุก 6 เดือน ได้ให้ความหวังนี้กับเรา
การศึกษายาใหม่โดยการสนับสนุนของบริษัท Gilead ชื่อการศึกษา PURPOSE I ทำในสุภาพสตรีที่ไม่เป็นเอชไอวีในแอฟริกาใต้และยูกันดา 5538 ราย แบ่งกลุ่มใช้ lernacaprevir ทุกหกเดือน กลุ่มใช้ยา TAF/FTC และกลุ่มควบคุมคือ TDF/FTC ในการป้องกันการติดเชื้อร่วมกับสวมถุงยาง พบว่ากลุ่มที่ใช้ lernacaprevir แบบฉีดทุกหกเดือน ไม่พบการติดเชื้อ HIV (0/2134) ซึ่งอัตรานี้ต่ำกว่าการติดเชื้อแบบไม่ป้องกัน และต่ำกว่าการใช้ยา TAF/FTC หรือ TDF/FTC อย่างมีนัยสำคัญ
อีกการศึกษาคือ PURPOSE II ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัท Gilead เช่นกัน การศึกษานี้ทำในทั้งชายและหญิง ทั้ง cis และ transgender จำนวนทั้งหมด 3265 ราย พบว่ากลุ่มใช้ยาฉีด lernacaprevir มีอัตราการเกิด HIV ต่ำกว่าการติดเชื้อแบบไม่ป้องกันและต่ำกว่ายา PrEP มาตรฐานคือ TDF/FTC อย่างมีนัยสำคัญ
ฉีดยา lernacaprevir 927 mg ใต้ผิวหนังและกินยา lernacaprevir 600 mg ในวันแรก วันต่อมากินยาอีก 600 มิลลิกรัม หลังจากนั้นฉีดยา 927 มิลลิกรัม ทุก ๆ 26 สัปดาห์
ด้วยราคายาต้นฉบับจากบริษัท Gilead จะต้องเสียค่ายา 28,218 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปี คือประมาณ 915,000 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งมากกว่าค่ามาตรฐาน QALY ของประเทศไทย แต่ตอนนี้กำลังผลิตยาสามัญราคาไม่แพงออกมาใช้
จริง ๆ แล้วนอกจากป้องกัน ยังสามารถใช้รักษาในกรณีผู้ป่วยที่ใช้ยาพื้นฐานแล้วล้มเหลวได้อีก โดยใช้ยาคู่ lernacaprevir คู่กับยาฉีด rilpivirine (แพงเข้าไปอีก)
แต่ในอนาคตข้างหน้าหากยาราคาถูกลงและเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้นจะเป็นทางเลือกที่ดีอย่างแน่นอนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น