31 กรกฎาคม 2565

Gomella Scut Monkey

 Scut Monkey

และแล้วก็มาถึงเวลาป้ายยาตำราแพทย์อีกแล้วกับ Gomella Scut Monkey เล่มพิมพ์ครั้งล่าสุดครั้งที่ 12 หนึ่งในคู่มือที่ติดอยู่ในใจผมมาตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์
Scut Monkey มีต้นกำเนิดมาจากการอบรมระยะสั้นของมหาวิทยาลัยเคนตั๊กกี้ ตั้งแต่ปี 1979 สำหรับนักเรียนแพทย์ที่กำลังจะขึ้นเรียนและปฏิบัติงานบนวอร์ด สอนสิ่งที่ควรรู้ในแง่การทำงานในทุกวอร์ด ทุกแผนก โดยบุคลากรในแผนกนั้น ๆ เรียกว่า orientation นั่นเอง การอบรมนี้ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมาก ทำให้การทำงานบนวอร์ดราบรื่นและนักเรียนก็ได้ประโยชน์ จึงได้จัดต่อเนื่องกันมาทุกปี เริ่มมีการทำเอกสารประกอบการสอน และพัฒนามาเป็นคู่มือในที่สุด แม้แต่ซีรี่ส์หนังการแพทย์ดัง ๆ ที่ทำขึ้นก็ใช้ scut monkey เล่มนี้ไว้ประกอบฉากเช่นกัน (ไม่รู้ซื้อสปอนเซอร์หรือเปล่านะ)
แน่นอนคนที่ริเริ่มโครงการนี้ก็คือชื่อหนังสือเล่มนี้ Leonard G. Gomella และ Steven A. Haist ใช่ครับ Gomella and Haist Clinician Pocket Reference หรือที่เราติดปากว่า scut monkey ที่เราจะมารีวิวและป้ายยากัน
หนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับนักเรียนชั้นคลินิก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัช ที่จะเปลี่ยนการเรียนจากนั่งฟังบรรยายมาปฏิบัติงาน ตอนแรกรับรองว่าทำตัวไม่ถูก บทบาทเราคืออะไรในทีม บทบาทคนอื่นคืออะไร แต่ละวันควรทำอะไร หน้าที่ที่ควรทำ ปฏิสัมพันธ์กับคนในทีม ความสัมพันธ์และความเข้าใจจิตใจคนไข้ ใช่ครับ สิ่งที่พี่สอนน้อง ทีมสอนทีม เล่มนี้ได้นำมาอยู่เป็นบทแรก ๆ และเป็นบทที่ผมประทับใจมาก ไม่เคยเจอหนังสือตำราเล่มไหนเขียนแบบนี้ ความรู้สึกในตอนชั้นปีที่สี่และห้าคือทึ่งมากครับ
สอนอะไรอีก จะเขียนชาร์ทแบบไหนให้ครบ ไม่เสียเวลาและทรงประสิทธิภาพ จะเขียนคำสั่งแบบไหน เรียงลำดับการคิดการเขียนเอกสารต่าง ๆ ในชาร์ทอย่างไร สอนการซักประวัติและควรบันทึกแบบไหน การตรวจร่างกายและการบันทึก การบันทึกการเปลี่ยนแปลงโรคประจำวัน สำคัญนะน้อง ถ้าเราเรียงลำดับ จัดอัลกอริธึมการคิดการเขียนได้ดี เราก็จะมีวิธีคิดทางคลินิกพื้นฐานที่เป็นระบบ ไม่ข้ามไปมา ครบถ้วน ไม่หลุดประเด็นสำคัญ
เอาล่ะต่อมาก็เนื้อหาแล้ว หนังสือรวบรวมอาการวิทยาสำคัญที่ผู้ป่วยมักประสบและการวินิจฉัยแยกโรคคร่าว ๆ การตรวจร่างกายที่ครบ ในทุกระบบและสำหรับนักเรียนในทุกสาขาวิชา และที่สำคัญคือชื่ออาการและอาการแสดงต่าง ๆ ภาษาต่างดาว ต่างด้าว ที่นักเรียนขึ้นวอร์ดใหม่จะต้องเจอ
ตามมาด้วยการส่งตรวจแล็บต่าง ๆ การเก็บตัวอย่าง การแปลผล ค่าปรกติ ทั้งแล็บเคมี โลหิตวิทยา จุลชีววิทยา เอ็กซเรย์แบบต่าง ๆ และที่สำคัญการทำแล็บง่าย ๆ ข้างเตียงเช่นการไถสไลด์เสมียร์เลือด เรียกว่าถ้าอาจารย์สั่ง ก็มาเปิดเล่มนี้ได้
ต่อด้วยหัตถการต่าง ๆ เจาะเลือด ตรวจภายใน เข้าเฝือก ผ่าตัดเล็ก เย็บแผล ผูกไหม เปิดเส้นน้ำเกลือ เจาะข้อ เจาะหลัง สอนวิธีทำ วิธีบันทึก การแปลผล และต่อด้วยงานต่าง ๆ ที่ต้องทำบนวอร์ด การให้เลือด สารน้ำ สารอาหาร ไม่ใข่แค่นักเรียนแพทย์นะครับ ทุกคนที่จะเติบโตไปเป็นทีมการรักษาจะต้องรู้จักจะได้สื่อสารและพูดภาษาเดียวกัน
การกู้ชีวิต คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ยาฆ่าเชื้อ ค่ามาตรฐานต่าง ๆ หนังสือเล่มนี้ก็บรรจุไว้ และในเล่มที่ 12 นี้เพิ่มเรื่องราวของ transgender sex, โควิดสิบเก้า, การควบคุมโรค และมีบทที่กล่าวถึงหนทางการศึกษาต่อในอนาคต
แน่นอนอย่างที่บอกมันเหมาะสำหรับนักเรียนชั้นคลินิกในทุกสาขาวิชา ใครเริ่มขึ้นเรียนกับทีมการรักษา น่าจะใช้ประโยชน์จากเล่มนี้ได้หมด ผมใช้เล่มนี้พิมพ์ครั้งที่สิบ ตั้งแต่เรียนปีสี่จนตอนนี้ก็ยังอ่านนะครับ รับรองว่าคุ้ม
เล่มขนาดพ็อกเก็ตบุ๊ก กระดาษมันอย่างดี พิมพ์สี แต่แอบเย็บกาวระวังหลุดหากเปิดโหด ๆ บ่อย ๆ ราคาขายร้าน Meditext ที่เล่มละ 1290 บาท จัดส่งก่อน ตัดบัตรทีหลัง ห่อดี ส่งเร็ว
สุดท้ายขอขอบคุณร้าน Meditext ซื้อตำราแพทย์เป็นเรื่องง่ายๆ Meditext ซื่อตำราแพทย์เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ส่งตำราใหม่เล่มนี้มาให้รีวิวและแนะนำ (ป้ายยา) พวกเรากัน
อาจเป็นรูปภาพของ หนังสือ และ ข้อความพูดว่า "the famous CLINICIAN'S handbook Wa Doc on Line sassionate GOMELLA AND HAIST'S Clinician's Pocket Reference Coing CEDTO GLISH AGE ARTS BIG FAT EBOOK INTERNATIONAL EDITION SMARTEST KID AWARD WINNING Leonard G. Gomella Steven A. Haist WHM Hill The "manual manuals, covering allthe clinical laboratory essentials for daily patient encounters Mc RS FIRST 12th Edition"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น