09 มีนาคม 2565

ไวรัสตับอักเสบบี กับ การทำงาน

 ไวรัสตับอักเสบบี กับ การทำงาน

เมื่อหลายวันก่อน แอดมินเพจการแพทย์ @Health Online by แพทย์เฉพาะทางโรคทางเดินอาหารและตับ ได้ลงบทความเรื่องนี้และมีการแสดงความคิดเห็นกว้างขวาง

ผมก็ไปค้น ๆ อ่าน ๆ ตามประสาคนคันก็ต้องเกา มาเล่าต่อไปอีกครับ

ว่าด้วยเรื่องตัวโรคก่อน ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อทางเลือด (และบาดแผลเปื้อนเลือด) ทางเพศสัมพันธ์ (บาดแผลเลือดออกระดับมองไม่เห็น) และจากแม่สู่ลูก ถือว่าติดต่อสามทางนี้ครับ รายงานการตรวจพบในสารคัดหลั่งอื่นถือว่าน้อยมากจริง ๆ และไม่ถือเป็นช่องทางการติดต่อ ไม่ว่าน้ำลาย น้ำมูก ไอจาม อุจจาระปัสสาวะ (ถ้าไม่มีเลือดปน)

ดังนั้นการใช้ชีวิตและร่วมงานตามปกติวิสัย จะไม่ติดต่อครับ ยกเว้นบางอาชีพ คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงทั้งรับเชื้อและส่งเชื้อ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว เราใช้มาตรการ standard precaution กันการติดเชื้ออยู่แล้วครับ โอกาสจึงน้อยเช่นกัน

และหากติดเชื้อจริงและได้รับการรักษาจนปริมาณไวรัสในเลือดต่ำมาก ก็โอกาสติดต่อน้อยมากเช่นกัน ยาปัจจุบันก็ประสิทธิภาพสูงมาก ราคาไม่แพง เข้าถึงได้ทุกคน ทุกสิทธิการรักษา

ดังนั้นโอกาสติดต่อในการทำงานจึงน้อยมากถึงน้อยมากที่สุด

คราวนี้มาดูมุมมองผู้จ้าง หรือภาษากฎหมายเรียกนายจ้าง จะเป็นจ้างงานหรือจ้างทำของก็ตามที ปัจจุบันน่าจะเข้าใจกันโดยแพร่หลายแล้วว่า ลูกจ้างหรือว่าที่ลูกจ้าง แทบจะไม่แพร่เชื้อถึงคนอื่นได้เลย ถ้านายจ้างท่านใดยังไม่ทราบ สามารถศึกษาได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมควบคุมโรค หรือที่กระทรวงแรงงาน

ข้อกำหนดเรื่องการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไม่น่าจะเป็นเหตุผลการไม่จ้างหรือเลิกจ้างอีก ส่วนอาชีพเสี่ยงเช่น บุคลากรห้องผ่าตัด บุคลากรทางการแพทย์ บริการทางเพศ อันนี้นายจ้างจะมีข้อกำหนดเฉพาะอยู่แล้ว

ส่วนการไม่จ้าง หรือการเลิกจ้างนั้น มันเป็นข้อตกลงของสัญญาจ้างงานหรือจ้างทำของ ถ้ามีข้อกำหนดว่าไม่รับผู้ติดเชื้อ (ซึ่งควรยกเลิกได้แล้ว) ก็คงไปฝืนบังคับเขาไม่ได้ มันเป็นข้อตกลงของสัญญาระหว่างกัน ให้ทราบก่อนทำสัญญา

หรือถ้าติดเชื้อแล้ว จะมาบอกเลิกจ้าง (ซึ่งควรยกเลิกเช่นกัน) ก็ต้องมาพิจารณาว่าหากไม่ได้เป็นเหตุบกพร่องหรือความผิดรุนแรงแล้ว นายจ้างก็มีสิทธิบอกเลิกล่วงหน้าและจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เหมือนการเลิกจ้างทั่วไป และหากคิดว่าการบอกเลิกไม่เป็นธรรม ก็ต้องไปจบที่ศาล

นายจ้างบางคนให้เหตุผลว่า สุขภาพไม่ดี ต้องเสี่ยงหยุดงาน กลัวเสียภาพลักษณ์ ต้องดูแลรักษา กลัวแพร่เชื้อ อะไรอะไรที่ว่าไป มันก็เป็นเหตุผลในการเลิกจ้าง ก็ไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่โลกมันไปไกลแล้ว ความรู้เรื่องการติดต่อ การป้องกันโรค การรักษา มันไปไกลจนไวรัสตับอักเสบบีไม่ใช่อุปสรรคใด ๆ ในการทำงานแล้ว

จะมีอุปสรรคก็หากมันเกิดผลแทรกซ้อน เช่น ตับแข็ง ท้องมาน โรคไต มะเร็ง ซึ่งมันไม่ใช่อุปสรรคทางตรงของไวรัสตับอักเสบบี ไม่อย่างนั้นก็ต้องปฏิเสธลูกจ้างที่ดื่มเหล้าด้วยสิ ก็เสี่ยงไม่แพ้กัน

สุดท้ายมุมมองลุงหมอนะครับ ผมมองว่า…..ตอนนี้ลิเวอร์พูลยังมีลุ้นทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกครับ

อาจเป็นรูปภาพของ อาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น