18 มีนาคม 2565

ทำไมผ้าอนามัยแบบสอดแนะนำไม่ให้ใช้เกิน 8 ชั่วโมง

 เรียนอายุรศาสตร์จากซูเปอร์มาร์เก็ต : ทำไมผ้าอนามัยแบบสอดแนะนำไม่ให้ใช้เกิน 8 ชั่วโมง

เย็นวันหนึ่ง หลังจากซื้อของจำเป็นในซูเปอร์มาร์เก็ตเรียบร้อย ก็เดินดูสินค้าใหม่ ๆ ไปเรื่อย เมื่อถึงสินค้าชนิดนี้ ซึ่งสัดส่วนการตลาดน่าจะน้อยกว่าแบบปรกติทั่วไปหลายเท่า มันใช้ยากหรือไง เลยหยิบมาศึกษา พบว่ามีคำแนะนำการใช้ข้อหนึ่งคือ ไม่ควรใส่ค้างไว้นานกว่า 8 ชั่วโมง ก็เกิดคำถามว่าทำไม ใส่นานกว่านั้นจะเกิดอะไร ไปค้น ๆ อ่าน ๆ ก็มีความรู้มาฝากกันครับ

คำแนะนำนี้พบจากหน่วยงานสุขภาพทั่วโลก วารสารทางการแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพสตรี คำแนะนำของศูนย์ควบคุมโรคที่อเมริกา (ที่ทำงานของเอซิโอและทีฟา) และมีรายงานผลจากการสอดผ้าอนามัยนานเกิน 8 ชั่วโมงใน lancet และ JAMA นับว่าสำคัญมากทีเดียวที่ผู้ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดควรทราบ

สอดไว้นานเกิน 8 ชั่วโมง (ตัวเลข 8 ชั่วโมงมาจากค่าเฉลี่ยการรายงานผู้ป่วยที่เกิดอันตราย) จะเพิ่มโอกาสภาวะช็อกติดเชื้อจากสารพิษของแบคทีเรีย (toxic shock syndrome : TSS) ที่เป็นภาวะรุนแรงมากที่สุดอันหนึ่งของอายุรศาสตร์วิกฤต และเราเรียกชื่อ TSS จากการสอดผ้าอนามัยแบบนี้ว่า menstrual toxic shock syndrome (MTSS)

TSS เกิดจากการกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มากมายมหาศาล จากการกระตุ้นจากส่วนของแบคทีเรียที่เรียกว่า super-antigen กับเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิด T-cell กระตุ้นแบบไม่เฉพาะตัวและกระตุ้นทั่วไปหมด ทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบมากมายมหาศาล มากกว่าช็อคติดเชื้อเสียอีก คราวนี้เรามาดูลักษณะสำคัญของ TSS ตามเกณฑ์มาตรฐานของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐที่ใช้เป็นเกณฑ์การวินิจฉัยในปัจจุบัน

1.ความดันโลหิตซิสโตลิก (ตัวบน) ต่ำว่า 90

2.พบอวัยวะที่เกี่ยวข้องมีผลกระทบหรือล้มเหลวอย่างน้อย 2/6 อย่าง

- ค่าครีอะตินีนของไตเกิน 2 หรือมากกว่าเดิม 2 เท่า

- เกล็ดเลือดต่ำว่าแสน หรือมีภาวะ DIC หรือสารการแข็งตัวเลือดไฟบริโนเจนต่ำ

- ค่า AST,ALT มากกว่าสองเท่าของค่าสูงสุดหรือมากกว่าสองเท่าจากเดิม

- มีภาวะหายใจล้มเหลว ARDS

- มีผื่นผิวหนังทั่วตัวและผิวหนังลอกเป็นวงกว้าง

- มีการตายของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

3.ตรวจพบหลักฐานของเชื้อโรคที่ทำให้เกิด TSS

การรักษาต้องรวดเร็ว เต็มพิกัด ทั้งการช่วยหายใจ ให้สารน้ำ ยากระตุ้นความดัน ยาฆ่าเชื้อ (clindamycin+betalactam) และสุดท้ายคือให้แอนติบอดี IVIG เพื่อไปจับสารพิษของแบคทีเรีย

ความเกี่ยวเนื่องกับผ้าอนามัยแบบสอดคือ ในช่องคลอด จะมีแบคทีเรีย streptococcus เป็นจำนวนมาก และแบคทีเรีย streptococcus นี้เป็นหนึ่งในแบคทีเรียที่ทำให้เกิด TSS ได้

จากรายงานผู้ป่วยและรวบรวมหลักฐานพบว่า ผู้ที่เป็น MTSS มักจะสอดผ้าคาไว้นาน โดยเฉพาะสอดข้ามคืนที่นอนยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือสอดคาไว้นานเกินกำหนด มากกว่า 6 ชั่วโมง หรือไม่อ่านคำแนะนำข้างซอง โดยสามปัจจัยนี้เพิ่มโอกาสการเกิด MTSS มากกว่าคนที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดที่ปฏิบัติถูกต้อง ถึง 2.2 เท่าเลยทีเดียว และมีนัยสำคัญทางสถิติ

อีกประการที่เกี่ยวข้องแต่หลักฐานน้อยกว่า คือ ผ้าอนามัยแบบสอดที่ซึมซับดีเป็นพิเศษจะสะสมแบคทีเรียในช่องคลอดและมีโอกาสเกิด MTSS สูงกว่าแบบซึมซับธรรมดา

จึงเป็นที่มาและคำแนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุก 3-4 ชั่วโมง อย่าสอดนานเกิน 8 ชั่วโมง และปฏิบัติตามคำแนะนำข้างซองอย่างเคร่งครัด และออกมาเป็นข้อกำหนดในการจดทะเบียนว่าแบบสอดจะต้องมีเกณฑ์ของสารดูดซึมเป็นอย่างไรอีกด้วย

เดินซื้อของก็ตั้งคำถามเรียนรู้อายุรศาสตร์ได้นะครับ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น