ไอเป็นเลือดรายนี้ ประวัติสำคัญมาก
สำหรับวิชาอายุรศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสาขาใดก็ตาม สิ่งที่ยากที่สุดคือ 'การซักประวัติ' สิ่งที่ต้องอาศัยประสบการณ์และศิลปะมากที่สุดคือ 'การซักประวัติ' และสิ่งที่ใช้ในการวินิจฉัยมากที่สุดคือ 'การซักประวัติ' นี่คือตัวอย่างที่ดีมากเลยครับ
รายงานผู้ป่วยจากวารสาร New England Journal of Medicine ฉบับ 4 พฤศจิกายน 2021 จากไต้หวัน
สุภาพสตรีอายุ 26 ปีรายหนึ่ง มาตรวจที่ห้องฉุกเฉินเนื่องจากไอเป็นเลือด … ตามวิชาอาการวิทยา ต้องซักประวัติแยกโรค แยกเลือดว่ามาจากที่ใด อาการร่วมอะไร คิดถึงว่าเลือดออกจากจุดใดและสาเหตุใด … คุณลองคลิกไปตามลิ้งก์นะครับ ภาพเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ในทางซ้ายมือ มีฝ้าขาวจุดเล็ก ๆ ที่ปอดกลีบขวาล่าง ลักษณะเหมือนเป็นโพรง
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMicm2105508…
จากภาพเอ็กซเรย์ไม่มีทางบอกได้ว่า เลือดออกจากจุดนี้หรือไม่ และ สาเหตุของเลือดออกหรือฝ้าขาวนี้คืออะไร
เรามาดูประวัติกันต่อ…
สุภาพสตรีรายนี้ มีอาการไอเป็นเลือดครั้งละไม่มาก เป็น ๆ หาย ๆ มา 4 ปีแล้ว และทุกครั้งที่ไอเป็นเลือดจะสัมพันธ์กับรอบประจำเดือน !!
"เลือดออกผิดที่ สัมพันธ์กับรอบประจำเดือน" แว่บในความคิดคือ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) เป็นโรคที่พบบ่อยมากในสตรี เนื่อบุมดลูกอาจไปเกาะที่ผนังช่องท้อง ทำให้ปวดท้องรุนแรงเวลามีประจำเดือน และเลือดที่ออกมาในช่องท้องก็สะสมเป็นถุงน้ำสีช็อกโกแลต ที่เรารู้จักกันดีว่าช็อกโกแลตซีสต์ และเยื่อบุมดลูกนี้สามารถเกิดที่ปอด เกิดที่เยื่อหุ้มปอดได้ หากเกิดในเนื้อปอด ใกล้หลอดลม ก็จะมีเลือดออก ไอออกมาเป็นเลือด ในเวลาที่มีประจำเดือน
ครับ เมื่อการวินิจฉัยแยกโรคนี้เกิดขึ้น ก็ต้องวางแผนพิสูจน์ ทางไต้หวันเขาส่องกล้องในช่องอกและตัดชื้นเนื้อออกมาตรวจดูเลย ก็พบว่ามีเซลล์เม็ดเลือด ตะกอนสีของเลือด และเซลล์เยื่อบุมดลูก เป็นอันวินิจฉัยได้ ไม่หลงทาง
ถ้าไม่มีประวัติตรงนี้ก็อาจต้อง ส่องกล้องหลอดลม ตรวจหาเชื้อโรค หาเซลล์มะเร็ง เอ็กซเรย์ฉีดสี ตรวจเลือดมากมาย กว่าจะแยกเหตุอื่นได้แล้วค่อยมาคิดถึงโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่นี้
หลังจากตัดส่วนที่เลือดออกและรักษาโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่เรียบร้อย ติดตามไปสองปี ผู้ป่วยไม่มีอาการอีกเลย
สรุปว่า ไอเป็นเลือดต้องตั้งใจตรวจตั้งใจดู ไอเลิฟยูไม่ต้องตรวจก็รู้ว่าจริงใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น